
คนแต่ละเจนเนอเรชั่น แบ่งช่วงกันตรงไหน รู้ได้ยังไงว่าสิ้นสุดเจนเก่า แล้วต้องขึ้นเจนใหม่
คนแต่ละเจนเนอเรชั่น ตัดช่วงที่ตรงไหนบ้าง? Babyboomer, X, Y, Z, Alpha, Beta (เน้นเฉพาะประเทศไทย)
การแบ่งช่วงเจนเนอเรชั่น (Generations) เป็นการจำแนกคนตามช่วงเวลาที่เกิดขึ้น โดยใช้เหตุการณ์สำคัญทางสังคม วัฒนธรรม เทคโนโลยี และเศรษฐกิจเป็นเกณฑ์ในการแบ่ง ทำให้แต่ละเจนมีลักษณะนิสัยและวิถีชีวิตที่แตกต่างกัน ในประเทศไทยเองก็มีความเปลี่ยนแปลงและหมุดหมายสำคัญในแต่ละเจนเช่นกัน มาดูรายละเอียดกันว่าการแบ่งเจนเนอเรชั่นในประเทศไทยเป็นอย่างไร
1. Baby Boomers (พ.ศ. 2489-2507 / ค.ศ. 1946-1964)
ลักษณะนิสัย: Baby Boomers ในประเทศไทยเติบโตในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งประเทศยังอยู่ในช่วงฟื้นตัวจากสงครามและความยากจน การพัฒนาเริ่มเข้ามามีบทบาท คนเจนนี้มักจะเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับการทำงานหนัก ความอดทน และความมั่นคงในชีวิต พวกเขาเติบโตมาพร้อมกับการสร้างประเทศใหม่ และการให้ความสำคัญกับการศึกษา
สภาพแวดล้อมในประเทศไทย:
- การเมือง: ช่วงนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งใหญ่ เช่น การเปลี่ยนแปลงการปกครองปี 2475 และการสถาปนาระบอบประชาธิปไตยในไทย
- เศรษฐกิจ: ประเทศอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนาอุตสาหกรรมและสาธารณูปโภค โดยมีการขยายตัวของโครงสร้างพื้นฐาน เช่น รถไฟและถนน
- การศึกษา: มีการส่งเสริมการศึกษาขั้นพื้นฐานมากขึ้น หลังจากการปฏิรูปการศึกษาในปี 2488
เหตุการณ์สำคัญที่ตัดช่วงในไทย: ในปี พ.ศ. 2500 (ค.ศ. 1957) ประเทศไทยเผชิญกับการรัฐประหาร และเข้าสู่การปกครองโดยคณะปฏิวัติ ซึ่งทำให้บรรยากาศทางการเมืองเปลี่ยนไป และเตรียมเข้าสู่ยุคของคนเจน X
2. Generation X (พ.ศ. 2508-2523 / ค.ศ. 1965-1980)
ลักษณะนิสัย: คนเจน X ในไทยเติบโตมาในช่วงที่เทคโนโลยีเริ่มพัฒนาและมีการขยายตัวของระบบการศึกษา พวกเขามักเป็นกลุ่มที่เริ่มมีความคิดที่เปิดกว้างและเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น เริ่มไม่พึ่งพาแนวคิดแบบดั้งเดิมมากเท่า Baby Boomers และให้ความสำคัญกับการสร้างความมั่นคงในอาชีพการงาน
สภาพแวดล้อมในประเทศไทย:
- การเมือง: ช่วงยุคนี้มีเหตุการณ์ทางการเมืองสำคัญ เช่น การลุกฮือของนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 (ค.ศ. 1973) และเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 (ค.ศ. 1976) ทำให้คนเจนนี้เริ่มมีความตื่นตัวทางการเมืองมากขึ้น
- เศรษฐกิจ: ประเทศไทยเริ่มต้นยุคพัฒนาทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการเติบโตในอุตสาหกรรมการผลิตและการขนส่ง การพัฒนาเศรษฐกิจเริ่มขยายตัวในกรุงเทพฯ และจังหวัดหลักอื่นๆ
- เทคโนโลยี: คนเจนนี้เริ่มสัมผัสกับโทรทัศน์ วิทยุ และโทรศัพท์ ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการสื่อสาร และเริ่มได้เห็นการเข้ามาของคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลในช่วงปลายเจน
เหตุการณ์สำคัญที่ตัดช่วงในไทย: การเกิดขึ้นของวิกฤตเศรษฐกิจในช่วงปี 2520 ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว และส่งผลให้ไทยต้องปรับตัวสู่ยุคใหม่ที่มีความเป็นสากลมากขึ้น ทำให้เกิดเจน Y ที่เติบโตพร้อมเทคโนโลยี
3. Generation Y หรือ Millennials (พ.ศ. 2524-2539 / ค.ศ. 1981-1996)
ลักษณะนิสัย: Millennials ในไทยเติบโตมากับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและการเข้าสู่ยุคโลกาภิวัตน์ พวกเขาเป็นกลุ่มที่มีการศึกษาและทักษะทางเทคโนโลยีสูง มักใช้สื่อดิจิทัลและอินเทอร์เน็ตเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน ชอบการพัฒนาและปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลง มีความเป็นผู้ประกอบการและคิดเชิงสร้างสรรค์
สภาพแวดล้อมในประเทศไทย:
- เศรษฐกิจ: เจนนี้เจริญเติบโตในยุคที่เศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างรวดเร็ว มีการขยายตัวของธุรกิจและการท่องเที่ยว จนกระทั่งวิกฤตต้มยำกุ้งในปี พ.ศ. 2540 (ค.ศ. 1997) ซึ่งทำให้คนเจน Y ส่วนใหญ่ต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ
- การศึกษา: ระบบการศึกษาเริ่มพัฒนาให้ครอบคลุมทั้งชนบทและเมือง คนในเจนนี้ได้รับการศึกษาที่สูงกว่าเจนก่อน และมีความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษและเทคโนโลยี
- การเมือง: การเปลี่ยนแปลงการเมืองหลายครั้งในยุคนี้ทำให้เกิดความตื่นตัวทางสังคม และคนรุ่นใหม่เริ่มสนใจในการเรียกร้องสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพ
เหตุการณ์สำคัญที่ตัดช่วงในไทย: วิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้งในปี พ.ศ. 2540 (ค.ศ. 1997) เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่นำมาสู่การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและวิถีชีวิต การเติบโตของอินเทอร์เน็ตและสมาร์ทโฟนทำให้คนไทยเข้าสู่เจน Z ที่เชื่อมต่อกับโลกดิจิทัลอย่างเต็มตัว
4. Generation Z (พ.ศ. 2540-2555 / ค.ศ. 1997-2012)
ลักษณะนิสัย: Generation Z ในไทยเติบโตมากับเทคโนโลยีสมาร์ทโฟน อินเทอร์เน็ต และโซเชียลมีเดียตั้งแต่ยังเล็ก พวกเขาเป็นกลุ่มที่เชื่อมต่อกับโลกดิจิทัลเต็มตัว ชอบการเรียนรู้ด้วยตัวเองผ่านสื่อออนไลน์ และให้ความสำคัญกับการแสดงออกในพื้นที่สาธารณะ พวกเขามีแนวโน้มที่จะสนใจปัญหาสังคม เช่น สิ่งแวดล้อม ความเท่าเทียมทางเพศ และสิทธิทางสังคม
สภาพแวดล้อมในประเทศไทย:
- เทคโนโลยี: คนเจน Z ในไทยมีความคุ้นเคยกับการใช้สมาร์ทโฟน โซเชียลมีเดีย และเทคโนโลยีต่างๆ ตั้งแต่เด็ก ทำให้มีความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลอย่างรวดเร็ว
- สังคม: การเคลื่อนไหวของคนรุ่นใหม่ในไทย เช่น การเรียกร้องสิทธิเสรีภาพในสังคมและการเมือง ทำให้คนเจนนี้มีความเป็นนักกิจกรรมและนักคิดทางสังคมที่สูง
- การศึกษา: การศึกษาในยุคนี้มุ่งเน้นการพัฒนาทักษะทางดิจิทัล คนเจนนี้มักใช้เทคโนโลยีในการเรียนรู้และสื่อสารกับคนทั่วโลก
เหตุการณ์สำคัญที่ตัดช่วงในไทย: การเติบโตของเทคโนโลยี AI และการเปลี่ยนแปลงของโลกการทำงานที่เข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มตัว ส่งผลให้เกิด Generation Alpha ซึ่งเป็นเจนที่จะเติบโตมากับเทคโนโลยีขั้นสูงและการเรียนรู้ผ่านระบบดิจิทัลมากขึ้น
5. Generation Alpha (2013-2025)
คนเจน Alpha คือกลุ่มคนที่เกิดหลังจากเจน Z และถูกคาดว่าจะเป็นกลุ่มที่มีความสัมพันธ์กับเทคโนโลยีขั้นสูงตั้งแต่เด็กๆ พวกเขาจะเติบโตมาในยุคที่ทุกสิ่งรอบตัวเป็นดิจิทัล AI และอุปกรณ์อัจฉริยะจะเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น ข้อมูลคาดการณ์ว่าคนเจนนี้จะมีทักษะทางดิจิทัลสูงกว่าคนในเจนอื่นๆ รวมทั้งมีการศึกษาที่สูงและเข้าถึงข้อมูลได้อย่างง่ายดายตั้งแต่เล็ก
เหตุการณ์สำคัญ: การเข้ามาของปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ Internet of Things (IoT) การเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัล และการพัฒนาทางการศึกษาแบบออนไลน์
6. Generation Beta (2026-2040)
เจน Beta เป็นกลุ่มคนที่ยังไม่เกิดในปัจจุบัน และยังไม่มีการศึกษาหรือทฤษฎีที่ชัดเจนเกี่ยวกับพวกเขามากนัก อย่างไรก็ตาม มีการคาดการณ์ว่าคนเจนนี้จะเติบโตมาในโลกที่มีการพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูงเป็นอย่างมาก อุปกรณ์ต่างๆ จะสื่อสารกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ และการทำงานหลายๆ ส่วนจะถูกแทนที่ด้วยระบบ AI เจนนี้จะต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงทางสิ่งแวดล้อมและสังคมที่รวดเร็วและท้าทายกว่าเจนใดๆ ก่อนหน้า
เหตุการณ์สำคัญ: คาดการณ์การพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น AI ที่เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงทางสิ่งแวดล้อมและภูมิอากาศ
แหล่งอ้างอิง: