เนื้อหาในหมวด ข่าว

\

"ไอซ์ รักชนก" แฉการใช้งบ "สำนักงานประกันสังคม" 8 ปี ใช้งบทำปฏิทินว่า 450 ล้านบาท

รักชนก ศรีนอก สส.กรุงเทพมหานคร ในฐานะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ ได้โพสต์เฟซบุ๊กสรุปข้อมูลจากงาน “Hack งบประกันสังคม” ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่่านมา โดยรักชนกได้ระบุถึงการใช้งบประมาณในการบริหารจัดการของสำนักงานประกันสังคมที่บางส่วนเป็นหลุมดำ มีการจัดซื้อแบบเฉพาะเจาะจง และในส่วนที่มีการแข่งขันราคาก็ไม่มีความโปร่งใส พร้อมยกตัวอย่างการใช้งบประมาณในประเด็นต่างๆ ที่เธอตั้งคำถามว่ามีความคุ้มค่ามากแค่ไหน 

เธอระบุว่า “ครั้งแรกของการ #Hackงบประกันสังคม กองทุนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งการใช้งบประมาณในการบริหารจัดการ ยังมีบางส่วนที่เป็นหลุมดำ ซื้อแบบจำเพาะเจาะจงเยอะ ส่วนอันที่แข่งราคาก็ไม่โปร่งใส

หากไม่มีบอร์ดประกันสังคมซึ่งมาจากการเลือกตั้ง ประกันสังคมก้าวหน้า ประชาชนคงไม่มีโอกาสเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ เอาน้ำจิ้มจากงานมาฝาก

ประเด็นการต่างประเทศ

ทริปดูงานทริปหนึ่งของประกันสังคม 6 วัน 5 คืน งบประมาณที่ใช้ 2.2 ล้าน สำหรับ 10 คน ค่าบัตรโดยสาร การเบิกเฟริสคลาส 160,000 บาท 2 คน ราคาตลาดต่างกันเกือบ 60000 บาท ค่าที่พัก 16000 บาท/วัน/คืน คือราคาระดับ 5 ดาวของญี่ปุ่น จำเป็นไหมต้องใช้จ่ายฟุ่มเพือยขนาดนี้ ค่าพาหนะในการเดินทางต่างประเทศ 35000 บาท ต่อคน ไปดูงานทำไมไม่ใช้วิธีเหมารถ ประชาชนถามชัดๆ ดังๆ ไปดูงานแล้ว ได้อะไรกลับ

ประเด็นงบภาพรวม

รายจ่ายประกันสังคม เพิ่มขึ้นทุกปี 

  • ปี 63 4,000 ล้าน 
  • ปี 64 5,281 ล้าน 
  • ปี 65 5,332 ล้าน 
  • ปี 66 6,614 ล้าน 

งบยุทธศาสตร์ เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ช่วง 63 - 64 จาก 965 ล้าน กระโดดไป 2000 ล้านบาท  

Call Center 1506 มีค่าใช้จ่ายหลัก 100 ล้านในทุก ๆ ปี เป็นค่าเช่าสถานที่ 50 ล้าน แต่คอลเซนเตอร์ สายไม่เคยว่าง กด 0 แล้วก็รอไปยาวๆ สุดท้ายขอข้อมูลอะไรไม่ได้ ในปี 66 โครงการใหญ่ เปลี่ยนระบบงานจากคอม เป็นเว็บแอป 550 ล้าน มีความจำเป็นหรือไม่ 

ค่าใช้จ่ายจัดหาระบบสารสนเทศเพื่อกำหนดนโยบาย 117 ล้าน ผู้นำเสนอชี้ว่าหากผู้บริหารควรคิดเองบ้าง ไม่ใช่มาจ้างคนมากำหนด ไม่เช่นนั่นก็ไม่จำเป็นต้องมีผู้บริหารก็ได้จ้างเอกชนเอา อีกประเด็นที่น่าสงสัย ค่าตอบแทนประจำปี (โบนัสหรือไม่) 65 - 66 ปีละ 100 ล้าน ทำงานเหมาะสมกับโบนัสหรือไม่ สนง.ประกันสังคมมีการจัดซื้อแบบเฉพาะเจาะจงหลัก “ล้านล้านบาท” ในหลายปีที่ผ่านมา 

ประเด็นงบอบรมสัมมนา

เขียนโครงการเหมือนๆ กันทุกปี อบรมหัวข้อเดิมๆ กับคนกลุ่มเดิมแต่จัดทุกปี เช่น ปี 63 โครงการพัฒนาทักษะภาษาต่างประเทศ ใช้งบ 2.5 ล้าน ปี 64 ก็โครงการพัฒนาทักษะภาษาต่างประเทศ 2.5 ล้าน และทำแบบเดิมกันทุกปี การอบรมบางโครงการซ้ำซ้อน  และบางโครงการถูกตั้งคำถามว่าจำเป็นหรือไม่ เช่น โครงการอบรมเทคนิคการเป็นวิทยากรมืออาชีพ โครงการพัฒนาสมรรถนะบุคลากรด้านการบริหารพัสดุ ทุกโครงการไร้เป้าหมาย ขาดการวัดผล

ประเด็นงบประชาสัมพันธ์

งบสำนักงาน 2567 5,303 ล้านบาท งบ PR ในงบสำนักงาน 336 ล้านบาท การเบิกจ่ายพอๆ กันทุกปี จึงต้องเน้นดูผลลัพธ์ ซึ่ง TOR งานประชาสัมพันธ์ไม่เคยถูกช่วง 3 ปีที่ผ่านมา

ปฏิทินประกันสังคม ปี 67 ใช้งบ 55 ล้าน และงบประมาณในการจัดทำปฏิทิน 8 ปีย้อนหลัง ไม่น้อยกว่า 450 ล้านบาท 

  • ปี 59 ผลิตปฏิทิน ใช้วิธีกรณีพิเศษ (การจ้างผ่านหน่วยงานรัฐ) 75.91 ล้านบาท ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด ชนะราคา
  • ปี 60 ผลิตปฏิทิน ใช้วิธีกรณีพิเศษ (การจ้างผ่านหน่วยงานรัฐ)  76 ล้านบาท  ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด ชนะราคา
  • ปี 62 ผลิตปฏิทิน ใช้วิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-Bidding) 53.45 ล้านบาท บริษัท ยูไนเต็ดโปรดักชั่น เพรส จำกัด เป็นผู้ชนะการประกวดราคา
  • ปี 64 ผลิตปฏิทิน ใช้วิธีเฉพาะเจาะจง54.31 ล้านบาท  ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด ชนะราคา
  • ปี 65 ผลิตปฏิทิน  ด้วยวิธีการคัดเลือก 54.98 ล้านบาท  องค์กรสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ชนะราคา  

อะไรทำให้ต้องการผลิตในราคารวม 50-70 ล้านบาท ซึ่งเมื่อดูข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้าง พบว่าใน 5 ปี มี 2 ปี ใช้วิธีกรณีพิเศษ มี 1 ปี E-Biding มี 2 ปีเฉพาะเจาะจง งบประมาณก้อนใหญ่แต่ไม่ใช้ e-Bidding ให้แข่งราคา และปีที่แข่งราคา e-Bidding เป็นยอดงบประมาณที่น้อยที่สุดเมื่อเทียบกับการใช้วิธีอื่น

ประเด็นเทคโนโลยีสารสนเทศ 

โครงการพัฒนาแอพพลิเคชั่น SSO+ งบประมาณ 276 ล้านบาท เป็นงบที่รวมถึงการจัดทำระบบ เมื่อตรวจข้อมูลจาก ACTAI พบว่า การจัดซื้อจัดจ้างมีความผิดปกติในการเสนอราคา ตัวแอพประชาชนให้เรทติ้ง 1.5 แสดงถึงความล้มเหลวของแพลตฟอร์ม ไม่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับงบประมาณที่ใช้ไป ทุกวันนี้ยังสแกนจ่ายค่าประกันสังคมผ่านแอพไม่ได้ ต้องจ่าย 7-11 ในการเปลี่ยนผ่านจาก SSO Connect ไปยัง SSO พลัส เลือกวิธีการเปลี่ยนตั้งแต่ฐานข้อมูลยันโปรแกรม ซึ่งไม่จำเป็นต้องเริ่มใหม่ที่ต้องทำทั้งหมด สิ้นเปลืองในการใช้งบประมาณ

ประเด็นพื้นฐานประกันสังคม 

คอนเท้นที่สำนักงานประกันสังคมทำอยู่เข้าถึงคนรุ่นใหม่ไม่ได้ คอนเท้นไม่ทันยุค โปสเตอร์ที่แจกให้รายละเอียดเยอะจริง แต่อ่านยากและรูปแบบไม่น่าสนใจคนไม่อยากอ่าน Tiktok เรื่องประกันสังคมที่แมสๆ ส่วนใหญ่มาจากคนนอกทำ ขั้นตอนในการเข้าถึงประกันสังคม เข้าใจยากสำหรับคนรุ่นใหม่ ย้อนแย้งกับงบประมาณ เพราะแต่ละปีงบประชาสัมพันธ์เยอะมาก แต่แม้กระทั่งคนใน กทม. ก็ไม่เคยเจอการประชาสัมพันธ์ของประกันสังคม ใช้งบกับการทำปฏิทินในปี 67  55 ล้าน วารสาร 15 ล้าน แผ่นพับ 5 ล้าน นี่คืองบ 1 ปี ที่ประกันสังคมใช้ประชาสัมพันธ์  ซึ่งหากนำเงินไปทำในสิ่งที่ได้ประโยชน์กับผู้ประกันตนจริงๆ หรือ การนำไปทบเพื่อสร้างความมั่นคงให้กับกองทุนมากขึ้นอาจจะดีกว่านี้