.jpg)
หมออังกฤษ เปิดชื่อผัก 7 ชนิด "ดูดซับน้ำตาลในเลือด" ยิ่งกินยิ่งสุขภาพดี ที่ไทยมีครบ
ที่ไทยมีครบทุกอย่าง! 7 ผักที่ช่วยลดน้ำตาลในเลือด 2 ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้รับประทาน ยิ่งกินยิ่งดีต่อสุขภาพ
มีผักบางชนิดที่ช่วยป้องกันและควบคุมโรคเบาหวานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่หลายคนอาจยังไม่รู้และไม่ได้ใช้ประโยชน์จากมัน
อาหารการกินมีบทบาทสำคัญในการควบคุมเบาหวาน โดยเฉพาะการเลือกผักที่เหมาะสม ดร.ทาริก มาห์มูด ผู้อำนวยการด้านการแพทย์แห่ง Concepto Diagnostics จากสหราชอาณาจักร แนะนำให้ผู้ป่วยเบาหวานพิจารณาอาหารที่เน้นพืชเป็นหลัก
เขาอธิบายว่า “แม้ว่าอาหารมังสวิรัติจะไม่ใช่วิธีรักษาโดยตรง และยังต้องใช้ยาตามแพทย์สั่ง แต่ประโยชน์จากพืชสามารถช่วยส่งเสริมสุขภาพของผู้ป่วยเบาหวานได้ นอกจากนี้ การเลือกรับประทานผักบางชนิดยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคนี้ได้อีกด้วย”
ดร.เดโบราห์ ลี จาก Dr Fox Online Pharmacy จากสหราชอาณาจักร เห็นด้วยกับแนวคิดนี้ โดยเธอเน้นว่า “ไม่จำเป็นต้องเป็นมังสวิรัติ แต่การเลือกผักที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำและไฟเบอร์สูงจะช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้สมดุล”
ต่อไปนี้คือ 7 ผักที่ช่วยลดน้ำตาลในเลือด ซึ่งทั้งสองผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้รับประทาน
ผัก 7 ชนิด ช่วยดูดซับน้ำตาลในเลือด
กระเจี๊ยบเขียว
กระเจี๊ยบเขียวอุดมไปด้วยเพกติน ซึ่งเป็นไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำ ช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือด ควบคุมระดับน้ำตาลหลังมื้ออาหารให้คงที่ ดร.มาห์มูด ระบุว่า กระเจี๊ยบเขียวยังมีไมริซิติน (Myricetin) ซึ่งเป็นฟลาโวนอยด์ที่ช่วยเสริมการทำงานของอินซูลิน ส่งผลดีต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
นอกจากนี้ กระเจี๊ยบเขียวยังอุดมไปด้วยวิตามินซีและโฟเลต ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน และดีต่อสุขภาพของหญิงตั้งครรภ์ อีกทั้งยังเป็นอาหารที่ดีต่อหัวใจอีกด้วย
หน่อไม้ฝรั่ง
หน่อไม้ฝรั่งอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและอินนูลิน ซึ่งเป็นไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำที่ช่วยบำรุงแบคทีเรียชนิดดีในลำไส้ ส่งผลดีต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ดร.มาห์มูด อธิบายว่า อินนูลินยังช่วยชะลอการย่อยอาหาร ทำให้ระดับน้ำตาลหลังมื้ออาหารคงที่
นอกจากนี้ หน่อไม้ฝรั่งยังเป็นแหล่งของวิตามิน A และ C ที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและบำรุงผิว อีกทั้งสารต้านอนุมูลอิสระในหน่อไม้ฝรั่งยังช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งบางชนิดอีกด้วย
บรอกโคลี
บรอกโคลีมีซัลโฟราเฟน (Sulforaphane) ซึ่งเป็นสารประกอบจากพืชที่ช่วยลดความเครียดจากออกซิเดชัน และปกป้องหลอดเลือดจากความเสียหายที่เกิดจากน้ำตาลในเลือดสูง ดร.ลี ระบุว่า ซัลโฟราเฟนยังช่วยเพิ่มความไวของอินซูลิน ทำให้ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีขึ้น
นอกจากนี้ บรอกโคลียังดีต่อระบบย่อยอาหารและช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งหลายชนิด อีกทั้งยังเป็นแหล่งของวิตามิน K และแคลเซียม ซึ่งช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง
มะเขือม่วง
มะเขือม่วงอุดมไปด้วยโพลีฟีนอล ซึ่งช่วยลดการดูดซึมน้ำตาลในลำไส้ ดร.มาห์มูด อธิบายว่า โพลีฟีนอลยังช่วยเสริมการทำงานของอินซูลิน ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่
นอกจากนี้ มะเขือม่วงยังมีแอนโทไซยานิน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายและลดการอักเสบ ส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวม ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง
พริกหวาน
พริกหวานอุดมไปด้วยวิตามินซีและไฟเบอร์ ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ดร.ลี ระบุว่า วิตามินซียังช่วยเสริมการทำงานของหลอดเลือด ลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนจากเบาหวาน
นอกจากนี้ พริกหวานยังมีเบตาแคโรทีน ซึ่งช่วยบำรุงสายตาและเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน อีกทั้งยังเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพหัวใจอีกด้วย
ขึ้นฉ่าย
ขึ้นฉ่ายอุดมไปด้วยฟลาโวนอยด์และไฟเบอร์ ช่วยลดการดูดซึมน้ำตาลและเพิ่มความไวของอินซูลิน ดร.มาห์มูด ระบุว่า ขึ้นฉ่ายยังมีสรรพคุณเป็นยาขับปัสสาวะอ่อนๆ ช่วยลดความดันโลหิต ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงที่พบบ่อยในผู้ป่วยเบาหวาน
นอกจากนี้ ขึ้นฉ่ายยังมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) และช่วยควบคุมน้ำหนัก อีกทั้งยังส่งเสริมการทำงานของไตและระบบย่อยอาหารได้ดีจากคุณสมบัติในการขับปัสสาวะและไฟเบอร์สูง
ผักกาดหอม
ผักกาดหอมมีคาร์โบไฮเดรตต่ำและไฟเบอร์สูง ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ ดร.ลี ระบุว่า ผักกาดหอมยังมีโครเมียม ซึ่งเป็นแร่ธาตุสำคัญที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของอินซูลิน
นอกจากนี้ ผักกาดหอมยังอุดมไปด้วยวิตามิน A และ K ที่ช่วยบำรุงสายตาและเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง อีกทั้งยังเป็นผักยอดนิยมในเมนูลดน้ำหนัก ดีต่อหัวใจและกระดูก เนื่องจากมีโพแทสเซียมที่ช่วยควบคุมความดันโลหิต และวิตามิน K ที่ช่วยบำรุงกระดูก