
ภัยเงียบจาก "หูฟัง" หนุ่มวัย 28 สูญเสียการได้ยินถาวร หมอเตือนสัญญาณอันตรายที่ถูกมองข้าม
ภัยเงียบจาก "หูฟัง" ทำหนุ่มวัย 28 สูญเสียการได้ยินถาวร แพทย์เฉลยสาเหตุ สัญญาณอันตรายที่ถูกมองข้าม พร้อมบอกวิธีป้องกัน
ตามรายงานจาก "Changjiang Daily" เมื่อวันที่ 3 มีนาคม ซึ่งเป็นวันรักหูของจีน กง กั๋วชิง (龚国清) แพทย์หู คอ จมูกชื่อดัง กล่าวถึงการเสียหายทางการได้ยินที่แบ่งออกเป็น 3 ระดับ ได้แก่ เล็กน้อย ปานกลาง และรุนแรง จากประสบการณ์การรักษามานาน พบว่าในกลุ่มผู้ป่วยที่มีปัญหาการได้ยินในวัยหนุ่มสาว ประมาณ 60% ของผู้ป่วยมีอาการที่อยู่ในระดับปานกลางถึงรุนแรง
แพทย์กง กล่าวเพิ่มเติมว่า หากมีปัญหาการได้ยินและไปพบแพทย์ภายในหนึ่งสัปดาห์ มักจะสามารถฟื้นฟูการได้ยินได้ แต่การสูญเสียการได้ยินมักถูกมองข้าม และมีมากกว่า 60% ของผู้ป่วยที่ไม่คิดว่าตนเองมีปัญหาการได้ยินแต่อย่างใด
แพทย์กง เล่าถึงกรณีของผู้ป่วยชายวัย 28 ปีที่เคยรักษา เขาฟังเพลงผ่านหูฟังด้วยเสียงที่ดังมากกว่า 80 เดซิเบลเป็นประจำ แม้ว่าจะรู้สึกว่าหูอื้อบ้าง แต่ก็ไม่ได้สนใจ เพราะไม่กระทบกับการสื่อสารในชีวิตประจำวัน จนกระทั่งวันหนึ่งเขาไม่ได้ยินเสียงนาฬิกาปลุกจึงตกใจไปหาหมอ และได้รับการวินิจฉัยว่าเขามีการสูญเสียการได้ยินที่ความถี่สูงทั้งสองข้าง
โชคร้ายที่ชายหนุ่มรายนี้ไปหาหมอหลังจากพบอาการผิดปกติถึง 6 เดือน เขาจึงพลาดช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการรักษาและได้รับความเสียหายทางการได้ยินถาวร
ในขณะเดียวกัน แพทย์หู คอ จมูกจากไต้หวัน จาง ห่าวจุน (張皓鈞) ได้แชร์เคล็ดลับการดูแลหูบนหน้าแฟนเพจ โดยแนะนำการใช้หูฟังตามกฎ 60/60 คือการตั้งเสียงให้ไม่เกิน 60% ของระดับเสียงสูงสุด และไม่ใช้หูฟังเกิน 60 นาทีในแต่ละครั้ง อีกทั้งควรเลือกหูฟังที่มีระบบตัดเสียงรบกวนหรือหูฟังแบบเปิด เพื่อให้ได้ยินเสียงในสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบและหลีกเลี่ยงการเพิ่มเสียงเนื่องจากเสียงรบกวนจากภายนอก
สุดท้ายควรให้หูได้พักบ้าง โดยการถอดหูฟังและพักหูบ้างจากนั้นตรวจสอบการได้ยินเป็นประจำ หากมีอาการหูอื้อหรือการเปลี่ยนแปลงในการได้ยิน ควรไปพบแพทย์ทันทีเพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาลุกลาม