เนื้อหาในหมวด ข่าว

อาลัย เจมส์ แฮร์ริสัน \

อาลัย เจมส์ แฮร์ริสัน "ชายผู้มีแขนทองคำ" บริจาคเลือดช่วยชีวิตทารก 2.4 ล้านคน

เจมส์ แฮร์ริสัน ผู้ได้รับฉายาว่า "ราชาแห่งการบริจาคโลหิต" ของออสเตรเลีย ได้บริจาคโลหิตมากถึง 1,173 ครั้ง ตลอดชีวิตของเขา และเสียชีวิตอย่างสงบในวัย 88 ปี ที่บ้านพักคนชราเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

สภากาชาดออสเตรเลีย ได้ยกย่องเขาผ่านเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ โดยระบุว่าความเสียสละของเขา ช่วยชีวิตทารกแรกเกิดได้มากกว่า 2.4 ล้านคน

จุดเริ่มต้นของแรงบันดาลใจ

ในวัย 14 ปี เจมส์ แฮร์ริสัน ต้องเข้ารับการผ่าตัดปอดและต้องได้รับโลหิตเป็นจำนวนมาก ซึ่งทำให้เขาตระหนักถึง ความสำคัญของการบริจาคโลหิต เขาจึงตั้งปณิธานว่าจะเป็นผู้ให้บ้าง

เมื่ออายุ 18 ปี เขาเริ่มบริจาคโลหิตเป็นประจำ สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ต่อเนื่องยาวนานตั้งแต่ปี 1954 จนถึง 2018

เมื่ออายุครบ 81 ปี เขาต้องหยุดบริจาคเนื่องจากกฎหมายออสเตรเลียกำหนดอายุสูงสุดสำหรับผู้บริจาคโลหิต

"ชายผู้มีแขนทองคำ"

ไม่เพียงแค่การบริจาคโลหิตจำนวนมหาศาลเท่านั้น แต่เลือดของเจมส์ แฮร์ริสันยัง มีแอนติบอดีชนิดพิเศษที่เรียกว่า “Anti-D” ซึ่งสามารถนำไปผลิตเป็นวัคซีนป้องกัน โรคเม็ดเลือดแตกในทารกแรกเกิด

ในออสเตรเลีย มีผู้บริจาคโลหิตที่มีแอนติบอดีชนิด Anti-D น้อยกว่า 200 คน ทำให้โลหิตของเขากลายเป็นสิ่งล้ำค่า และช่วยป้องกันไม่ให้ทารกจำนวนมากเสียชีวิตจากภาวะไม่เข้ากันของหมู่เลือด

ด้วยเหตุนี้ เจมส์ แฮร์ริสันจึงได้รับฉายาว่า “ชายผู้มีแขนทองคำ”

การยกย่องจากทั่วโลก

  • ปี 2005 เขาได้รับการบันทึกใน กินเนสส์เวิลด์เรคคอร์ด ในฐานะหนึ่งในบุคคลที่บริจาคโลหิตมากที่สุดในโลก

  • ปี 2018 สภากาชาดออสเตรเลียจัดพิธีอำลาให้แก่เขาในวันสุดท้ายของการบริจาคโลหิต ขณะอายุ 81 ปี ซึ่งเขากล่าวอย่างอารมณ์ดีว่า “ถ้ากฎหมายอนุญาต ผมก็อยากจะบริจาคโลหิตต่อไป”

ลูกสาวของเจมส์ แฮร์ริสันกล่าวว่า พ่อของเธอภาคภูมิใจในสิ่งที่เขาทำมาตลอด เพราะการบริจาคโลหิต “ไม่ต้องใช้เงินแม้แต่บาทเดียว แต่สามารถช่วยชีวิตผู้คนได้มากมาย”

เธอยังเผยอีกว่า ตัวเธอเองและลูกชายทั้งสองคน ก็เป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับวัคซีน Anti-D ซึ่งผลิตจากเลือดของเจมส์ แฮร์ริสัน นั่นหมายความว่า เขาไม่เพียงช่วยชีวิตคนแปลกหน้า แต่ยังช่วยชีวิตครอบครัวของเขาเองด้วย