เนื้อหาในหมวด ข่าว

หวานเจี๊ยบ! \

หวานเจี๊ยบ! "มิน อ่อง หล่าย" มอบช้าง 6 เชือกให้ "ปูติน" แลกเครื่องบินรบ 6 ลำ

พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา และคณะ เดินทางเยือนรัสเซีย เข้าพบ ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ท่ามกลางบรรยากาศชื่นมื่น โดยฝั่งเมียนมาใช้ "การทูตช้าง" (Elephant Diplomacy) หรือการมอบช้าง 6 เชือกเป็นของขวัญแทนใจ ตอบแทนที่รัสเซียส่งมอบเครื่องบินขับไล่ให้ 6 ลำ

สำหรับ มิน อ่อง หล่าย วัย 68 ปี ซึ่งปกติแทบไม่ค่อยเยือนต่างประเทศเลย ได้เดินทางถึงทำเนียบเครมลิน กรุงมอสโก เมื่อวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา ท่ามกลางการต้อนรับอย่างอบอุ่นจาก เซอร์เกย์ ชอยกู เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติของรัสเซีย

ก่อนหน้านี้ เมียนมาได้มอบช้าง 6 เชือกให้กับรัฐบาลมอสโก ซึ่งนักวิเคราะห์ทางการทหารมองว่า นี่คือกลยุทธ์ "การทูตช้าง" (Elephant Diplomacy) หรือการมอบช้างเป็นของขวัญให้กับพันธมิตร เพื่อแสดงความจริงใจ และสร้างความสัมพันธไมตรี คล้ายกับ "การทูตแพนด้า" ของจีน

ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่รัสเซียทำการส่งมอบเครื่องบินขับไล่ 6 ลำให้กับเมียนมา ท่ามกลางการโดดเดี่ยวจากโลกตะวันตก หลังจากที่กองทัพเมียนมาทำรัฐประหาร ยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือนของนาง ออง ซาน ซู จี ในปี 2021 จนนำไปสู่การลุกฮือของฝ่ายต่อต้าน และสงครามกลางเมือง
gettyimages-2202704424-594x59รายงานระบุว่า ปูติน กล่าวกับผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมาถึงประเด็นที่ปีนี้จะได้ฉลองครบรอบ 25 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับเมียนมา ความสัมพันธ์ระหว่างทั้ง 2 ประเทศจะเติบโตอย่างมั่นคงต่อไป โดยเมื่อปีที่แล้ว มูลค่าทางการค้าระหว่างรัสเซียและเมียนมาเพิ่มขึ้นถึง 40% เลยทีเดียว

นอกจากนี้ ปูติน ยังกล่าวขอบคุณของขวัญช้าง 6 เชือก ที่เมียนมามอบให้เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งตอนนี้ถูกย้ายไปอยู่ที่สวนสัตว์มอสโกเป็นที่เรียบร้อย ก่อนที่ทั้งคู่จะทำการลงนามในข้อตกลงความร่วมมือหลายฉบับ รวมไปถึงข้อตกลงที่รัสเซียจะไปสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็กในเมียนมาด้วย

รัสเซียให้การสนับสนุนกองทัพเมียนมาทั้งในด้านการทหารและการค้า เช่นเดียวกับจีน โดยรัสเซียถือเป็นประเทศแรกๆ ที่ออกมาสนับสนุนรัฐบาลทหารเมียนมา หลังเหตุรัฐประหาร สวนทางกับที่นานาชาติพากันรุมประณาม

ทั้งนี้ เครื่องบินรบของรัสเซียจะถูกใช้ในการโจมตีพื้นที่ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มชาติพันธุ์ ซึ่งหลายกลุ่มเป็นพันธมิตรกับฝ่ายต่อต้านรัฐบาลทหารต่อไป