
"ราชกิจจาฯ" ประกาศสั่งเพิกถอน "ใบสั่ง-ค่าปรับจราจร" มีผลพ้นกำหนด 180 วัน
เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศศาลปกครอง เรื่อง คำพิพากษาถึงที่สุดให้เพิกถอนกฎ ลงนามโดย นายสรรค์พงศ์ ฐิติกรทับทอง ตุลาการศาลปกครอง
ประกาศฉบับดังกล่าว ระบุว่า ด้วยศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษาในคดีหมายเลขแดงที่ อ50/2568 ระหว่าง นางสุภา โชติงาม หรือ จอมพันธ์ ผู้ฟ้องคดี กับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 1 กับพวก รวม 2 คน ผู้ถูกฟ้องคดี
ให้เพิกถอนประกาศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่อง กำหนดแบบใบสั่งเจ้าพนักงานจราจร พ.ศ.2563 ลงวันที่ 20 ก.ค.2563 และประกาศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่อง การกำหนดจำนวนค่าปรับตามที่เปรียบเทียบสำหรับความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522
และความผิดตามกฎหมายอื่นอันเกี่ยวกับรถหรือการใช้ทางที่มีโทษปรับสถานเดียว พ.ศ.2566 ลงวันที่ 23 มี.ค.2566 โดยให้มีผลนับแต่วันที่พ้นกำหนด 180 วัน นับแต่วันที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษา จึงประกาศให้ทราบทั่วกัน
ทางด้านศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ชี้แจงเพิ่มเติมว่า รูปแบบใบสั่งของเจ้าพนักงานจราจร และการกำหนดอัตราค่าปรับในปัจจุบันยังคงมีผลบังคับใช้ตามกฎหมายต่อไปเป็นระยะเวลา 180 วัน นับแต่วันที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษา
ดังนั้นผู้ที่กระทำผิดกฎหมายจราจร อย่างเช่น ฝ่าฝืนสัญญาณไฟ, ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด, ขับรถบนทางเท้า, ขับรถย้อนศร, ไม่สวมหมวกนิรภัย และข้อหาอื่นๆ ยังคงถือเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก และเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุจราจร
ซึ่งเมื่อถูกเจ้าพนักงานจราจรออกใบสั่งตามความผิดที่ปรากฏ ยังคงถือเป็นผู้กระทำผิดกฎจราจร และต้องรับโทษปรับเป็นพินัยตามกฎหมายว่าด้วยการปรับเป็นพินัย โดยปัจจุบันในการออกใบสั่งจราจรจะระบุข้อความแจ้งสิทธิตามกฎหมายว่าด้วยการปรับพินัยให้ประชาชนทราบด้วยทุกครั้ง