
"เวฟ สาริน-บุ้ง ใบหยก" ตอบคำถามเลี้ยงลูกเวอร์? ลูกสองคน ใช้พี่เลี้ยง 5 คน
สดใสกันทั้งรายการ เมื่อครอบครัว เวฟ สาริน ควงคู่ภรรยาคนเก่ง บุ้ง ใบหยก และลูกชายสุดหล่อฉายาแววดารา ทั้ง น้องบุญ อายุ 5 ขวบครึ่ง และ น้องเบญจ์ อายุ 1 ขวบ 8 เดือน โดยครอบครัวนี้เคยมาออกรายการคุยแซ่บ Show ทางช่อง One31 แล้วครั้งนึง เมื่อ น้องบุญ อายุ 1 เดือน ซึ่งถือว่าเป็นแขกรับเชิญที่อายุน้อยที่สุดเลยก็ว่าได้ และการมาเยือนอีกครั้ง ก็มาโต้คำครหาว่าเลี้ยงลูกเวอร์ไปไหม? เพราะใช้พี่เลี้ยงตั้ง 5 คน พร้อมเผยเรื่องสะเทือนใจ เมื่อลูกชายคนโตต้องเหตุการณ์ที่เกือบจะทำให้เป็นซึมเศร้า
ตอนนี้ คือลูกไปโรงเรียน และร้องไห้ทุกวัน เพราะติดแม่มาก?
บุ้ง : คือเราก็เครียด เราก็ไปปรึกษาคุณหมอ นักจิตบำบัด วิธีการของคุณหมอ เค้าก็ให้ความคิดเรามาว่า เด็กเขาสามารถสื่อกับเราได้ ซึ่งถ้าเรากังวลก่อนที่เค้าจะไปโรงเรียน เค้าก็จะกังวลเหมือนเรา เราก็เลยต้องมองเป็นเรื่องตลกในชีวิตของเรา มันก็ดีขึ้น จากที่ร้องไห้ทุกวัน ตอนนี้หนูเก่งขึ้นแล้วใช่ไหมลูก (หันไปถามลูก)
น้องบุญ : ร้องแค่ตอนเช้าอย่างเดียว ร้องไห้ตั้งแต่เช้ายัน 9 โมง (แต่ทำไมถึงไม่ให้ชอบให้พ่อไปรับ?) พ่อดุ พ่ออยากให้แข็งแรง พ่อไม่อยากให้อ่อนแอ อย่างเวลาพ่อดุ พ่อจะเสียงดังนิดหนึ่ง
เวฟ : ผมเป็นคนเสียงดัง ผมเป็นคนให้เวลาลูก นับหนึ่งถึงสาม ถ้าสามแล้วไม่มา ก็ค่อยว่ากัน เพราะถ้าเค้าใช้เวลาอยู่กับ iPad หรือการพับกระดาษ เขาจะไม่สนใจอะไร และถ้าเป็นเสียงที่สี่ เราก็ถือไม้เรียว แต่เราไม่เคยตีเขา มีอยู่ครั้งนึงเค้าขอลอง เค้าพูดว่ามาลองหน่อย ซึ่งผมโตมากับเวลา โตมากับระเบียบ ซึ่งการเลี้ยงของเรากับบุ้ง ตรงกันข้าม อย่างบุ้ง เพียงแค่ลูกบอกว่าอยากได้ หรือบางทีเค้าก็คิดเอง ไม่ได้มาแค่ชิ้นเดียว แต่มาเป็นโหล
ลูกสองคน ใครแสบกว่ากัน?
เวฟ : ตัวเล็กแสบกว่า สายว๊าก เวลาเค้าไม่พอใจ เค้าจะจ้อง บางทีมีชี้หน้าด้วย เค้าชอบแกล้งพี่
น้องบุญ : ที่ยอมเพราะว่าน้องเค้าน่ารัก
เวฟ : อย่างคนเล็กนี่คือจะไม่ยอม แต่คนโตเค้าเป็นอ่อนไหวง่าย เวลาพูดอะไรก็จะเป็นสไตล์ผู้ใหญ่ แต่ไปปรึกษาหมอแล้ว เค้าก็บอกว่าเป็นแค่ช่วงวัยนี้ หมอบอกว่าอย่าไปสติ๊กมาก
ทำไมอยู่ดีๆ ลูกชายถึงพูดว่า “ชีวิตใคร ชีวิตมัน”
เวฟ : เหตุการณ์วันนั้นที่มันเกิดขึ้น คือเค้าจะเป็นคนเปลี่ยนใจไปเรื่อย บางทีก็จะไป บางทีก็จะไม่ไป คือเราชวนเขาไปกางเต็นท์เพื่อไปรอแม่ ตอนกำลังจะออก อยู่ดีๆก็ไม่ไป เราก็ถามว่าทำไมไม่ไป เค้าก็ตอบกลับมาว่า ก็ชีวิตใครชีวิตมัน
ซึ่งคุณแม่ วางแผนไว้แล้วว่าจะให้ลูกชายคนเล็กคุมตลาดประตูน้ำ?
บุ้ง : ได้แน่นอน เพราะขนาดอยู่ที่หมู่บ้าน เค้าจะมีแก๊งค์เด็ก กับลูกคุณบุ๋มปนัดดา
ส่วนลูกชายคนโต ตอนอายุสี่ขวบครึ่ง อยู่ดีๆ อารมณ์ก็เปลี่ยนไป?
เวฟ : อยู่ดีๆ เค้าก็กรี๊ด เค้าต่อต้าน หลายๆ อย่างรวมกัน แต่ปัจจุบันนี้ก็โอเคแล้ว ว่านอนสอนง่าย เชื่อฟัง แล้วก็มีความคิดที่โตขึ้น ซึ่งพฤติกรรมที่เค้าเปลี่ยนไป อาจจะเกิดขึ้นหลายๆ อย่าง ซึ่งวิธีแก้ของเราก็คือ ถ้าเค้าอยากอยู่กับแม่ก็ให้เค้าอยู่กับแม่ ถ้าแม่ไม่อยู่ เค้าก็อยู่กับผมได้ ทำเองได้ทุกอย่างปกติ
อีกส่วนหนึ่งติดมาจากพฤติกรรมของพี่เลี้ยงในอดีต ?
บุ้ง : เราแอบเห็นพฤติกรรมพี่เลี้ยง ที่ก้าวร้าว โดยท่าของพี่เลี้ยง กับน้องบุญ คือท่าเดียวกัน อาทิการตะโกน ก็จะยืนเหมือนกัน พี่เลี้ยงเค้าอาจจะควบคุมตัวเอง เค้าก็เลยอาจจะก๊อปปี้พฤติกรรมพี่เลี้ยงออกมา ซึ่งมันอยู่ในช่วงที่อายุเขากำลังจำ และเราไปดูกล้องวงจรปิด เราเห็นเค้ายืนกระทืบเท้าต่อหน้าลูกเรา เวลาเราไม่อยู่ และใช้คำพูดรุนแรง และบ้านเราอยู่กันหลายคน ก็มีคนมาเล่าให้ฟังว่าพฤติกรรมเหมือนก๊อปปี้กันมา
และมีการแอบเตะลูกด้วย ?
เวฟ : ใช้คำว่าเขี่ยแล้วกัน
บุ้ง : ถามว่าเราจัดการยังไง คือบ้านบุ้ง และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ค่อนข้างศักดิ์สิทธิ์เลย แต่ก่อนน้องบุญอาจจะไม่ได้เป็นเยอะ แต่พี่เลี้ยง เค้าอาจจะมีปัญหาทางครอบครัว ความเครียดสะสมอะไรมา แล้วมาระเบิดช่วงนั้น เป็นช่วงที่เค้ามาขอลาพักพอดี พอเค้าขอพักไปสองเดือน ตอนแรกเค้าจะกลับมา แต่คนที่บ้านเค้ารักลูกเราเหมือนกัน เค้าก็เลยมากระซิบว่าอย่าเอากลับมานะ เราก็เลยไปย้อนดูคลิปต่างๆ
เวฟ : ก่อนหน้านี้ผมก็บอกกับภรรยาว่า อย่าไปยึดติดกับพี่เลี้ยง เด็กมันต้องโต เด็กมันต้องเจอกับใครหลายๆ คน เพราะฉะนั้นถ้าเห็นว่าลูกเราติดเขา เราจะเปลี่ยนไม่ได้ มันคือไม่ใช่ เราเอาความสบายใจของเรา เพราะสุดท้ายแล้วเด็กจะปรับด้วยตัวของเค้าเอง ตอนแรกเค้านอยด์มาก จะเอาคนเดิมกลับมา
บุ้ง : ด้วยความที่ไว้ใจ เพราะเค้าอยู่มาเกือบ 2-3 ปี
เวฟ : ถามว่าโกรธไหม คือเรื่องนี้ผมปล่อยให้ภรรยาตัดสินใจ แล้วถ้าเราตัดสินใจ และถ้าเค้าไม่แฮปปี้ มันก็อาจจะมีปากเสียงกัน ก็เลยให้เค้าตัดสินใจไปเลย
บุ้ง : เอาจริงๆนะเวลาเลือกพี่เลี้ยง ส่งดวงให้ ซินแส ดูโหงวเฮ้ง แต่คนที่เกิดเหตุการณ์นั้นขึ้น เราไม่ได้ส่งให้ดู
เห็นว่าเราก็เอาเหตุการณ์ตรงนี้ไปปรึกษากับนักจิตแพทย์ ?
บุ้ง : เราก็เอาไปเล่าให้เค้าฟัง ซึ่งก็มีนักจิตของบุ้งเอง และน้องบุญก็มีของตัวเอง ที่ต้องมีเพราะว่าเค้ามีช่วงที่เขาพีค เป็นเด็กวิตกจริต เป็นเด็กที่ไม่กล้าจะทำอะไรเลย เกือบซึมเศร้า ก่อนนอนเค้าร้องไห้ทุกคืน ตอนนี้ก็คือใช้นักบำบัด 3 คน เจอทุกอาทิตย์ และก็เพิ่มจิตแพทย์เพิ่มอีกหนึ่งคน ตอนนี้โอเคขึ้นเยอะแล้ว
เวฟ : ซึ่งมันไม่ได้อยู่ที่ดวง มันอยู่ที่เรานี่แหละ เราต้องดูแลเองเพราะเขาเป็นลูกเรา ส่วนใหญ่ที่เราไม่ว่าง หรือว่าเราต้องการกำลังเสริม ก็เอาเขาเข้ามาเสริม อย่างคนเล็กได้พี่เลี้ยงดี ได้ทั้งพี่เลี้ยง เป็นทั้งแม่ครัว ทำสวนด้วย และเป็นคนนั่งดริ้งค์เป็นเพื่อน (ยิ้ม)
บุ้ง : ตามความคิดของบุ้ง บุ้งคิดว่าไม่ควรใช้เขาทำงานหนักเกินไป ไม่งั้นเค้าจะมีความเครียด หลายคนอาจจะมองว่าทำไมเราใช้พี่เลี้ยงเยอะ ซึ่งจริงๆมี 3 คน แล้วก็มีพี่เลี้ยงที่เป็นกึ่งแม่ครัว แล้วก็มีคนรถ ที่ต้องดูแลพี่บุญ ทั้งหมด 5 คน
ชาวเน็ตบอกบ้านนี้เลี้ยงลูกเวอร์ไปไหม ?
บุ้ง : บุ้งไม่ค่อยได้แคร์เรื่องนี้ การที่เรามีพี่เลี้ยงเยอะขนาดนี้ ไม่ใช่ว่าเราไม่มีเวลาดูลูกนะ เรามีเวลาดูลูกได้เต็มเวลา ไปส่งไปรับตลอด การที่เราใช้พี่เลี้ยง แล้วเวลาเราไปงาน เราจะได้ไว้ใจพี่เลี้ยง ว่าเค้าเลี้ยงลูกเราดี 100%
อย่างก่อนหน้านี้ ไม่อยากให้ลูกไปออกแคมป์กับพ่อ?
บุ้ง : ตั้งแต่เราไปพบกับนักจิตบำบัด เราก็ให้เค้าพาไปได้ แล้วเราได้ดูพฤติกรรมลูกของเรา เราก็อยากให้เขาเพิ่มความแข็งแกร่ง ลุยขึ้นมาหน่อย
เวฟ : อย่าใช้คำว่าปล่อย ผมขโมยไปดีกว่า อย่างตอนที่ภรรยาไปกับลูกคนโตไปต่างประเทศ และเราก็ต้องเลี้ยงลูกคนเล็ก เราก็เลยบอกแม่บ้านว่าไปตั้งแคมป์กันดีกว่า ตัวเล็กอยู่ง่าย ชอบธรรมชาติ
ติดตามชมรายการคุยแซ่บ Show ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama