.jpg)
เลือดกำเดาไหลอาจเป็นสัญญาณเตือน! หมอเผยอาการระยะแรกของ "มะเร็งหลังโพรงจมูก"
หมอไต้หวัน เผย "เลือดกำเดาไหล" อาจเป็นสัญญาณเตือนมะเร็ง เผยอาการระยะแรกของ "มะเร็งหลังโพรงจมูก"
หลายคนเคยมีประสบการณ์เลือดกำเดาไหล ซึ่งนอกจากสาเหตุจากบาดแผลหรือสภาพอากาศแล้ว ยังอาจเป็นสัญญาณเตือนของมะเร็งได้ แพทย์เผยว่า ในระยะแรกของมะเร็งหลังโพรงจมูก อาจเกิดเลือดออกจากเส้นเลือดใหม่ของก้อนเนื้อ ส่งผลให้เลือดกำเดาไหลมากผิดปกติ นอกจากนี้ ผู้ป่วยยังอาจมีอาการหูอื้อและคัดจมูกที่รุนแรงขึ้น ควรเฝ้าระวังเป็นพิเศษ
ดร.เซว จื้อเหริน หัวหน้าแผนกโสต ศอ นาสิก และศัลยกรรมศีรษะ-คอ โรงพยาบาลเจิ้นซิง ของไต้หวัน อธิบายว่า เยื่อบุโพรงจมูกมีเส้นเลือดฝอยจำนวนมาก หากเส้นเลือดเหล่านี้แตก จะทำให้เกิดอาการเลือดกำเดาไหล
สาเหตุที่พบบ่อยของเลือดกำเดาไหล ได้แก่ โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้, สภาพอากาศ, การใช้เครื่องทำความร้อน, เยื่อบุโพรงจมูกบาง, การบาดเจ็บ และหลอดเลือดที่เปราะบาง
ดร.เซว จื้อเหริน อธิบายว่า ฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวเป็นช่วงที่ไข้หวัดและโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ระบาดได้ง่าย ทำให้เยื่อบุโพรงจมูกอักเสบและมีเลือดคั่ง เมื่อเกิดอาการคันจมูก การขยี้จมูก การจาม หรือการสั่งน้ำมูก อาจทำให้เยื่อบุที่อักเสบเสียหายจนเลือดกำเดาไหล
ในช่วงฤดูหนาว อากาศที่เย็นจัดทำให้หลอดเลือดหดตัวอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ความดันโลหิตสูงขึ้นและหลอดเลือดเปราะแตกง่าย อาจทำให้เลือดกำเดาไหลได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ การใช้เครื่องทำความร้อนทำให้อากาศแห้ง ส่งผลให้เยื่อบุโพรงจมูกระคายเคืองและเกิดสะเก็ด เมื่อสะเก็ดถูกขูดออกหรือหลุดลอก ก็อาจทำให้เลือดกำเดาไหลได้ง่ายขึ้น
นอกจากสาเหตุทั่วไปแล้ว เลือดกำเดาไหลอาจเป็นสัญญาณเตือนของมะเร็งได้เช่นกัน ดร.เซว จื้อเหริน อธิบายว่า มะเร็งหลังโพรงจมูก อาจทำให้เส้นเลือดใหม่ในก้อนเนื้อแตกและมีเลือดออก บางครั้งอาจเป็นเพียงเลือดปนออกมาเล็กน้อย หรืออาจมีเลือดกำเดาไหลมากผิดปกติ
นอกจากเลือดกำเดาไหล ผู้ป่วยระยะแรกอาจมีอาการหูอื้อและคัดจมูกที่รุนแรงขึ้น หากโรคลุกลาม อาจพบก้อนบวมที่ลำคอ ซึ่งเกิดจากต่อมน้ำเหลืองโตเนื่องจากเซลล์มะเร็งแพร่กระจายไปที่คอ หากมีอาการเหล่านี้ ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและเข้ารับการรักษาโดยเร็ว