รวม "รหัสลับ" ที่พนักงานโรงแรมใช้สื่อสารกัน ตอนเข้าพักคุณเคยได้ยินบ้างมั้ย?

พนักงานโรงแรม มักใช้ "รหัสลับ" หรือ "โค้ดพิเศษ" ในการสื่อสารกัน เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น และบางกรณีเพื่อป้องกันไม่ให้แขกเข้าใจในสิ่งที่พวกเขาพูด นี่คือตัวอย่างรหัสลับที่ใช้กันในโรงแรม

รหัสลับเกี่ยวกับเหตุการณ์ต่างๆ

- Code 86 → สิ่งของหรือเมนูหมด เช่น "86 on towels" แปลว่า ผ้าขนหนูหมด
- Code Adam → แจ้งเหตุเด็กหายในโรงแรม (เป็นรหัสสากลที่ใช้ในหลายประเทศ)
- Code Brown → เหตุการณ์ฉุกเฉิน เช่น น้ำรั่ว ห้องน้ำพัง หรืออุบัติเหตุเกี่ยวกับของเสีย
- Code Red → ไฟไหม้หรือเหตุฉุกเฉินร้ายแรงที่ต้องอพยพ
- Code Yellow → แขกมีพฤติกรรมแปลกๆ หรือมีแนวโน้มก่อปัญหา
- Code Blue → เหตุการณ์ฉุกเฉินทางการแพทย์ มีแขกหรือพนักงานหมดสติ
- Code Black → แขกมีพฤติกรรมรุนแรง หรือมีเหตุการณ์ที่ต้องการเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย
- Code White → พนักงานต้องการความช่วยเหลือด่วนแต่ไม่ใช่เหตุรุนแรง
- Code Green → ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม เช่น ห้องมีแมลง หรือสัตว์หลุดเข้ามา

รหัสลับเกี่ยวกับแขก

- “High Maintenance” → แขกที่เรื่องเยอะ ขยันร้องเรียน หรือขอสิ่งพิเศษบ่อยๆ
- “Late Checkout” → แขกที่ขอเช็กเอาต์ช้า (บางโรงแรมเรียกเป็น LC)
- “VIP” หรือ “VVIP” → แขกคนสำคัญ เช่น คนดัง นักการเมือง หรือเจ้าของธุรกิจรายใหญ่
- “Sleeper” → แขกที่อยู่เกินเวลาเช็กเอาต์หรือไม่ยอมออกจากห้อง
- “Heavy Walker” → แขกที่เดินเสียงดังมากจนรบกวนห้องข้างเคียง
- “Whale” → แขกที่ใช้จ่ายเงินเยอะมาก เช่น คนที่จองห้องแพงสุด หรือใช้บริการสปา/ร้านอาหารบ่อย
- “Fogging” → ห้องที่ต้องใช้สเปรย์ฆ่าเชื้อ เพราะแขกสูบบุหรี่ในห้องที่ห้ามสูบ
- “Phantom Guest” → แขกที่มีชื่อในระบบ แต่ไม่มีตัวตนจริง อาจเกิดจากข้อผิดพลาดในการจอง หรือแขกยกเลิกแต่ระบบไม่ได้อัปเดต

รหัสลับเกี่ยวกับห้องพัก

- “OOO” (Out of Order) → ห้องที่ไม่สามารถพักได้ เช่น อยู่ระหว่างซ่อมแซม
- “OOS” (Out of Service) → ห้องที่มีปัญหาชั่วคราว แต่ยังพอพักได้ เช่น ทีวีเสีย แอร์ไม่เย็น
- “House Use” → ห้องที่กันไว้สำหรับพนักงานหรือแขกพิเศษ เช่น เจ้าของโรงแรม
- “DND Override” → พนักงานสามารถเข้าไปในห้องได้ แม้แขกจะแขวนป้าย “ห้ามรบกวน” (เช่น กรณีแขกไม่ออกจากห้องนานผิดปกติ)
- “Turn Down Service” → บริการจัดเตียงให้แขกก่อนนอน (มักมีในโรงแรมหรู)
- “Room Move” → แขกขอย้ายห้อง

รหัสลับเกี่ยวกับแผนกโรงแรม

- “BOH” (Back of House) → พื้นที่เฉพาะพนักงาน เช่น ครัว ห้องสต็อก
- “FOH” (Front of House) → พื้นที่ที่แขกสามารถเข้าไปได้ เช่น ล็อบบี้
- “Upsell” → การขายบริการเพิ่มเติมให้แขก เช่น อัปเกรดห้อง
- “Walk-in” → แขกที่เข้ามาพักโดยไม่ได้จองล่วงหน้า
- “No-Show” → แขกที่จองห้องแต่ไม่มาเข้าพัก
- “Walked Guest” → แขกที่ถูกย้ายไปโรงแรมอื่นเพราะโรงแรมเต็ม

ทั้งนี้ โรงแรมใช้รหัสลับและโค้ดพิเศษเพื่อให้พนักงานสื่อสารกันได้เร็วและป้องกันแขกรู้ข้อมูลบางอย่าง แต่ถ้าคุณได้ยินพนักงานใช้คำเหล่านี้ แสดงว่าอาจมีอะไรน่าสนใจเกิดขึ้นในโรงแรมก็ได้นะ