.jpg)
วิจัยพบ แค่ดื่มชาชนิดนี้ "วันละแก้ว" อาจแก้ปัญหาความดัน-ความจำ-การนอน ปวดข้อก็ช่วยได้!!!
ไทยก็มี! อังกฤษเปิดงานวิจัย ดื่มชาชนิดนี้ "วันละแก้ว" แก้สารพัดปัญหาสุขภาพ ความดัน-ความจำ-การนอน-ปวดข้อ
จากการศึกษาพบ “ชา” ที่ช่วยส่งเสริมการทำงานของสมอง ลดความดันโลหิต บรรเทาอาการปวดข้อ เสริมสร้างสุขภาพระบบย่อยอาหาร และปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับ
ชาวอังกฤษที่ใส่ใจสุขภาพกำลังได้รับคำแนะนำให้ดื่ม “ชาเปปเปอร์มินต์” มากขึ้น เนื่องจากมีคุณสมบัติช่วยแก้ปัญหาสุขภาพต่างๆ เช่น ความดันโลหิตสูง โรคข้ออักเสบ ความจำไม่ดี และการนอนหลับไม่สนิท ตามหลักวิทยาศาสตร์แล้ว การดื่มเพียง 1-2 แก้วต่อวัน ก็เพียงพอแล้วที่จะได้รับประโยชน์จากเครื่องดื่มต้านการอักเสบชนิดนี้
บทวิจารณ์ทางวิทยาศาสตร์ฉบับใหม่ชื่อว่า A Narrative Review on the Mechanistic Actions and Potential Health Benefits of Peppermint and Spearmint Tea เน้นย้ำถึงประโยชน์ต่อสุขภาพที่น่าประทับใจของการดื่มชาเปปเปอร์มินต์ทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นการช่วยส่งเสริมการทำงานของสมอง ลดความดันโลหิต บรรเทาอาการปวดข้อ ช่วยดูแลสุขภาพระบบย่อยอาหาร และช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น
ชาเปปเปอร์มินต์ หรือชาสะระแหน่ มีโพลีฟีนอลซึ่งมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ และมีฤทธิ์ต้านจุลินทรีย์ ซึ่งช่วยดูแลสุขภาพได้หลายอย่าง ตัวอย่างเช่น การศึกษาวิจัยในสหราชอาณาจักรพบว่า ชาเปปเปอร์มินต์ช่วยเพิ่มความเร็วของการจดจำ รักษาความจำระยะยาว และความตื่นตัวได้อย่างมาก การวิจัยยังแสดงให้เห็นด้วยว่า สามารถลดความดันโลหิตและไตรกลีเซอไรด์ได้อย่างมาก
ชาเปปเปอร์มินต์ได้รับการยอมรับว่าช่วยย่อยอาหาร และช่วยดูแลสุขภาพทางเดินหายใจ ในขณะที่ชาสเปียร์มินต์อาจช่วยแก้ไขความไม่สมดุลของฮอร์โมนและบรรเทาอาการปวดประจำเดือน โดยชาทั้งสองประเภทอุดมไปด้วยสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพ เช่น เมนทอล ซึ่งสามารถช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อเรียบ ควบคุมความไวของอวัยวะภายใน และมีคุณสมบัติต้านเชื้อจุลินทรีย์และต้านการอักเสบ
ลดความดันโลหิตสูง
ชาเปปเปอร์มินต์ช่วยบรรเทาความเครียด และความวิตกกังวล ซึ่งอาจส่งผลให้ความดันโลหิตลดลงได้อีกด้วย โดยเมนทอลในชาเปปเปอร์มินต์สามารถส่งเสริมการผ่อนคลายของหลอดเลือด ซึ่งอาจส่งผลให้ความดันโลหิตลดลงเล็กน้อย
นอกจากนี้ สะระแหน่ยังมีคาร์โวน ซึ่งเป็นสารประกอบที่เลียนแบบการทำงานของยาบล็อกช่องแคลเซียม มักใช้รักษาความดันโลหิตสูง ตามที่งานวิจัยบางชิ้นระบุว่า เปเปอร์มินต์อาจช่วยลดน้ำตาลในเลือดและความดันโลหิต ขณะที่เมนทอลและเมทิลซาลิไซเลตที่พบยังช่วยคลายกล้ามเนื้อ ซึ่งมีประโยชน์ต่อระบบย่อยอาหาร
อย่างไรก็ตาม คุณสมบัติข้างต้นยังจำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติม เพื่อพิสูจน์ประสิทธิภาพในมนุษย์ ขณะเดียวกันยังพบด้วยว่า ชาเปเปอร์มินต์อาจทำให้ปัญหาไตหรือตับในบุคคลบางคนแย่ลงได้ ดังนั้น ก่อนที่จะดื่มชาเพื่อควบคุมความดันโลหิต ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีอาการป่วยอยู่ก่อนแล้ว หรือกำลังรับประทานยาอยู่
การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และจัดการความเครียด ถือเป็นสิ่งสำคัญในการควบคุมความดันโลหิต แม้ว่าชาเปเปอร์มินต์อาจมีประโยชน์บางประการ แต่ควรดื่มในปริมาณที่พอเหมาะเพื่อให้มีวิถีชีวิตที่สมดุล
ความจำที่ดีขึ้น
การศึกษาที่เก็บข้อมูลจากกลุ่มทดลองวัยรุ่น 144 คน พบว่ากลิ่นเปเปอร์มินต์ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการรับรู้ โดยการสูดดมน้ำมันหอมระเหยเปเปอร์มินต์ หรือการดื่มชาเปเปอร์มินต์ สามารถช่วยเพิ่มความจำ สมาธิ และความตื่นตัวได้
งานวิจัยระบุว่า สารสกัดจากสะระแหน่สามารถกระตุ้นความจำในการทำงานในผู้ที่ความจำเสื่อมตามวัยได้ พบว่าความจำในการทำงานเพิ่มขึ้น 15% ในผู้สูงอายุที่รับประทานอาหารเสริมสารสกัดจากสะระแหน่ทุกวัน
แม้ว่ายังไม่มีการกำหนดปริมาณที่แน่นอนสำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพความจำ แต่การดื่มชาสัก 2-3 แก้วทุกวันมีประโยชน์ต่อระบบรับรู้ อย่างไรก็ดี สิ่งสำคัญคือต้องตระหนักว่าปัจจัยต่างๆ เช่น การเลือกใช้ชีวิต อาหาร และพันธุกรรม ล้วนส่งผลต่อความจำและความสามารถทางปัญญา
การนอนหลับที่ดีขึ้น
ชาเปปเปอร์มินต์ไม่มีคาเฟอีน จึงเป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยมสำหรับเครื่องดื่มในตอนกลางคืน ขณะที่น้ำมันหอมระเหยในเปปเปอร์มินต์ ก็อาจช่วยคลายกล้ามเนื้อ ส่งผลให้คุณภาพการนอนหลับดีขึ้น กลิ่นหอมและรสชาติที่ผ่อนคลายของเปปเปอร์มินต์ ช่วยสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย เหมาะสำหรับการผ่อนคลายก่อนเข้านอน จึงมักถูกนำมาใช้เพื่อบรรเทาความเครียดและอาการนอนไม่หลับ
นอกจากนี้ยังช่วยบรรเทาอาการไม่สบายทางเดินอาหาร ทำให้มีโอกาสพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ในตอนกลางคืน เนื่องจากมีฤทธิ์ในการบรรเทาประสาทในร่างกาย ทั้งนี้ แม้จะมีหลักฐานเชิงประวัติศาสตร์และการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับสารสกัดสะระแหน่และน้ำมันหอมระเหยอยู่บ้าง แต่การวิจัยที่ตรวจสอบผลของชาสะระแหน่ต่อการนอนหลับโดยเฉพาะยังคงจำกัดอยู่
อาการปวดข้อลดลง
งานวิจัยระบุว่า ชาเปปเปอร์มินต์ โดยเฉพาะพันธุ์ที่มีกรดโรสมารินิกสูง สามารถบรรเทาอาการปวดข้อ และอาการตึงของข้อในผู้ป่วยโรคข้อเสื่อมได้อย่างมาก จากการศึกษาวิจัยพบว่าผู้เข้าร่วมที่เป็นโรคข้อเข่าเสื่อม ที่ดื่มชาเปปเปอร์มินต์ที่มีกรดโรสมารินิกสูง 600 มล. ทุกวันเป็นเวลา 4 เดือน ระดับความเจ็บปวดและสมรรถภาพทางกายดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ขณะเดียวกัน ยังมีคุณสมบัติที่อาจช่วยลดอาการปวดและการอักเสบได้ เนื่องขากเมนทอลที่พบในน้ำมันเปเปอร์มินต์มีฤทธิ์เย็นและอาจช่วยคลายกล้ามเนื้อซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการปวดหัวได้ อย่างไรก็ดี แม้ว่ากลิ่นของชาเปเปอร์มินต์อาจช่วยคลายกล้ามเนื้อและบรรเทาอาการปวดหัวได้ แต่ปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มาสนับสนุนข้ออ้างนี้
ข้อควรพิจารณาที่ควรคำนึงถึง โดยทั่วไปแล้ว ชาเปเปอร์มินต์และสเปียร์มินต์ ถือเป็นเครื่องดื่มที่ปลอดภัยสำหรับคนส่วนใหญ่ที่สามารถดื่มได้ทุกวัน อย่างไรก็ตาม บางคนอาจมีอาการเสียดท้อง หรือกรดไหลย้อนหลังจากดื่มชาเหล่านี้ และสิ่งสำคัญคือต้องทราบว่า มันอาจโต้ตอบกับยาบางชนิดที่ทานอยู่ได้
ดังนั้น ควรขอแนะนำให้ปรึกษาผู้ให้บริการด้านการแพทย์ก่อนใช้ โดยเฉพาะสตรีมีครรภ์หรือให้นมบุตร และผู้ที่มีปัญหาสุขภาพอยู่แล้ว หรือกำลังรับประทานยาอยู่
- เตือนแล้วนะ! ผัก 3 ชนิดที่เป็น "รังปรสิต" แต่คนส่วนใหญ่ไม่รู้ ยังกินดิบอยู่บ่อยๆ
- เครื่องดื่ม "ดัน" คอเลสเตอรอลพุ่ง ไม่ใช่แค่เหล้า-น้ำอัดลม อีกอย่างก็ร้าย!!!