นี่แค่วันแรก! ซักฟอกนายกฯ อิงค์ ดีลร้อนแลกประเทศ หนีภาษีโยง "บุคคลในครอบครัว"

เริ่มแล้ว! ซักฟอกนายกฯ อิงค์ ฝ่ายค้านจัดทัพตัวตึง เดินเครื่องรุกหนักตั้งแต่วันแรก เปิดปมร้อนดีลแลกประเทศ และบุคคลในครอบครัว

วันนี้ (24 มี.ค.68) คอการเมืองจับตาการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ซึ่ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางถึงอาคารรัฐสภาตั้งแต่เวลา 08.10 น. โดยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า เมื่อคืนนอนหลับสบายดี ไม่ได้กังวลอะไร และเมื่อถูกถามถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และ สส.บัญชีรายชื่อ ที่เตรียมลุกขึ้นอภิปรายด้วยนั้น ทางนายกฯ ก็กล่าวว่า ก็ต้องถามว่าท่านตื่นเต้นหรือเปล่า

เวลา 09.00 น. เปิดฉากด้วย นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคพลังประชาชน และผู้นำฝ่ายค้าน เริ่มญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151  โดยกล่าวหาว่า นายกรัฐมนตรีขาดคุณสมบัติในการบริหารประเทศ ปล่อยให้บุคคลในครอบครัวชี้นำการตัดสินใจ รวมทั้งประเด็นร้อนที่คนจับตาอย่าง “ดีลแลกประเทศ” เพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มการเมืองและทุนใหญ่

โดนไปหลายดอก นายกฯ อิงค์ ล้อเรื่องนาฬิกา แถมเลียนแบบบทพูด "ลุงป้อมในอดีต"

 กระทั่งเวลาประมาณ 09:10 น. ถึงเวลาที่ พล.อ.ประวิตร ได้ลุกขึ้นยืนอภิปรายครั้งแรกในชีวิต โดยระบุว่าไม่สามาถไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้บริหารราชการแผ่นดินต่อไปได้อีก ลั่นไม่ใช่ที่ของมือสมัครเล่น ซัดนโยบายทางด้านเศรษฐกิฐล้มเหลว เสี่ยงเสียดินแดน สนใจคนในครอบครัวมากกว่าประชาชน และยื่นบัญชีภาษีเท็จ ถือว่าขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งสามารถปิดจบได้ 10 นาทีตามที่ขอเวลาไว้ก่อนหน้า

ทันทีที่ พล.อ.ประวิตร อภิปรายจบนั้น น.ส.แพทองธาร ก็ได้ยืนชี้แจงทันที โดยเรียกแทนว่า "ผู้อาวุโส" และเริ่มเหน็บกลับด้วยการพูดว่า "ดิฉันได้จับเวลาด้วยนาฬิกาของตัวเอง" และปิดท้ายทันทีว่า "สิ่งที่ท่านผู้อาวุโสอภิปรายนั้น ไม่เป็นความจริงค่ะ" ซึ่งเมื่อคอการเมืองฟังก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นการเลียนแบบคำพูดของ พล.อ.ประวิตร เมื่อครั้งนั่งตำแหน่งรองนายกฯ สมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

 ห้ามชื่อทักษิณ ฝ่ายค้านจัดให้ "บุคคลในครอบครัว" กางข้อมูลกลางสภาฯ

ดาวสภาที่ทุกคนจับตารอยคอยเสมอ หนึ่งชื่อคงหนีไม่พ้น นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ครั้งนี้เปิดข้อมูลแรง อ้าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีพฤติกรรมหนีภาษี พร้อมตั้งข้อกังขาถึงวิธีการโอนหุ้นให้กับคนในครอบครัว 2 บริษัท จำนวน 19 บริษัท มูลค่ากว่า 9 พันล้านบาท และการโอนหุ้นบริษัทที่ให้กับแม่และพี่สาว รวม 393.5 ล้านบาทนั้น 

โดยเปิดข้อมูลเจาะลึกไปอีกว่า โอนหุ้นให้กับคุณแม่ คือบริษัทอัลไพน์ กอล์ฟ แอนด์ สปอร์ตคลับ จำกัด มูลค่าตามทุนจดทะเบียน 224.4.1 ล้านบาท และโอนให้กับพี่สาว คือบริษัทประไหมสุหรี พร้อพเพอร์ตี้ จำกัด มูลค่าตามทุนจดทะเบียน 169.4 ล้านบ้าน ซึ่งในฐานะผู้รับต้องจ่ายภาษีการรับให้จำนวน 18.2 ล้านบาท ให้กับรัฐด้วย

• สส.โรม โพสต์ภาพ "ดีลแลกประเทศ ตระกูลชินวัตรได้อะไร??" คนแห่ถอดรหัส แปลข้อความ