
รู้หรือไม่? "ผู้ชาย" ก็สามารถเป็น "มะเร็งเต้านม" ได้ แล้วช่วงวัยไหนเสี่ยงสุด?
แม้ว่า "มะเร็งเต้านม" จะเป็นโรคที่พบได้บ่อยในผู้หญิง แต่ในผู้ชายก็สามารถเป็นมะเร็งเต้านมได้เช่นกัน แม้จะมีอัตราการเกิดที่ต่ำมากก็ตาม แต่สิ่งสำคัญคือ การรู้ข้อมูลเกี่ยวกับมะเร็งเต้านมในผู้ชายจะช่วยให้ผู้ชายสามารถรับมือกับโรคนี้ได้หากเกิดขึ้น
การเกิดมะเร็งเต้านมในผู้ชาย
มะเร็งเต้านมในผู้ชายเกิดจากการเจริญเติบโตผิดปกติของเซลล์ในเนื้อเยื่อเต้านม แม้ว่าเนื้อเยื่อเต้านมของผู้ชายจะน้อยกว่าในผู้หญิง แต่ผู้ชายก็ยังมีต่อมน้ำนมที่อาจพัฒนาเป็นมะเร็งได้ การพัฒนาของมะเร็งเต้านมในผู้ชายมักเกิดในเซลล์ของท่อน้ำนม หรือเนื้อเยื่อที่คล้ายกับเนื้อเยื่อของผู้หญิง ซึ่งแม้จะพบในผู้ชายได้ไม่บ่อย แต่เมื่อมันเกิดขึ้น ก็สามารถส่งผลกระทบต่อชีวิตของผู้ป่วยได้
ปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งเต้านมในผู้ชาย
แม้ว่าผู้ชายจะมีโอกาสเกิดมะเร็งเต้านมต่ำกว่าผู้หญิงมาก แต่บางปัจจัยสามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งเต้านมในผู้ชายได้ เช่น:
- ประวัติครอบครัว: หากมีสมาชิกในครอบครัวที่เคยป่วยเป็นมะเร็งเต้านม การมีประวัติครอบครัวที่เกี่ยวข้องกับมะเร็งเต้านมสามารถเพิ่มโอกาสในการเกิดมะเร็งในผู้ชายได้
- การได้รับรังสี: ผู้ชายที่ได้รับการรักษาด้วยรังสีที่บริเวณทรวงอกในวัยเด็กหรือวัยหนุ่มสาว อาจมีความเสี่ยงสูงขึ้นในการเกิดมะเร็งเต้านม
- ภาวะฮอร์โมนผิดปกติ: การมีระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงในร่างกาย อาจเป็นปัจจัยเสี่ยงหนึ่งของมะเร็งเต้านมในผู้ชาย ซึ่งอาจเกิดจากภาวะต่างๆ เช่น โรคตับ หรือการใช้ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน
- การมีภาวะทางพันธุกรรม: ผู้ชายที่มีการกลายพันธุ์ในยีน BRCA1 หรือ BRCA2 จะมีความเสี่ยงสูงกว่าปกติในการเป็นมะเร็งเต้านม
- อายุ: มะเร็งเต้านมในผู้ชายมักพบในช่วงอายุ 60-70 ปี
อาการของมะเร็งเต้านมในผู้ชาย
อาการของมะเร็งเต้านมในผู้ชายอาจคล้ายกับอาการในผู้หญิง โดยเฉพาะการคลำพบก้อนในบริเวณทรวงอก อาการที่อาจพบได้รวมถึง:
- ก้อนในทรวงอก: การคลำพบก้อนที่แข็งหรือไม่เจ็บในเนื้อเยื่อเต้านม
- การเปลี่ยนแปลงรูปร่างของเต้านม: อาจมีการบวม หรือลักษณะผิดปกติในเต้านม
- เจ็บปวดที่ทรวงอก: อาจรู้สึกเจ็บหรือไม่สบายที่บริเวณเต้านม
- มีน้ำไหลจากหัวนม: การมีน้ำไหลจากหัวนมในบางกรณีอาจเป็นสัญญาณของมะเร็ง
- เปลี่ยนแปลงในผิวหนัง: ผิวหนังบริเวณเต้านมอาจมีลักษณะเปลี่ยนแปลง เช่น รอยพับ หรือผิวหนังดูหนา
การวินิจฉัยและการรักษา
การตรวจวินิจฉัยมะเร็งเต้านมในผู้ชายจะคล้ายกับการตรวจในผู้หญิง โดยการตรวจทางการแพทย์มักเริ่มจากการคลำเต้านมเพื่อหาก้อน จากนั้นอาจใช้การตรวจเพิ่มเติม เช่น การทำแมมโมแกรม (X-ray ของเต้านม) หรือการตรวจอัลตราซาวด์
หากพบก้อนที่มีลักษณะสงสัยว่าอาจเป็นมะเร็ง แพทย์อาจแนะนำให้ทำการตรวจชิ้นเนื้อ (biopsy) เพื่อตรวจสอบเซลล์และหาความผิดปกติ
การรักษามะเร็งเต้านมในผู้ชายมักจะมีวิธีการรักษาเช่นเดียวกับในผู้หญิง ซึ่งรวมถึงการผ่าตัดเพื่อนำเนื้องอกออก การใช้เคมีบำบัด การฉายรังสี หรือการใช้ฮอร์โมนบำบัด ขึ้นอยู่กับลักษณะและระยะของโรค
สรุปคือ แม้มะเร็งเต้านมในผู้ชายจะพบได้น้อยกว่าผู้หญิง แต่ก็ยังเป็นไปได้ที่ผู้ชายจะเป็นโรคนี้ได้ หากมีอาการผิดปกติหรือมีปัจจัยเสี่ยง ควรไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยตั้งแต่เนิ่นๆ การมีความรู้เกี่ยวกับโรคนี้จะช่วยให้ผู้ชายสามารถดูแลสุขภาพและรับการรักษาได้ทันท่วงที หากพบอาการที่สงสัยว่าเป็นมะเร็งเต้านม