
บก.สื่อระดับโลก เขียนเล่า เพิ่งมาเที่ยวไทยก่อน #แผ่นดินไหว เผยมุมมองต่อ "กรุงเทพ"
บก.สื่อระดับโลก เผยความรู้สึกเสียใจ และมุมมองต่อกรุงเทพ เล่าเพิ่งมาเที่ยวพร้อมสามี ก่อนเกิดเหตุ #แผ่นดินไหว
นาดา ฟาร์ฮูด (Nada Farhoud) บรรณาธิการสิ่งแวดล้อม จากสำนักข่าว The Mirror ประเทศอังกฤษ เขียนบอกเล่าลงเว็บไซต์ของสำนักข่าวว่า เมื่อเดือนที่แล้วเธอได้ไปเยือนกรุงเทพฯ และอยู่ห่างออกไปแค่ถนนเดียวจากที่ที่ตึกสูงพังลงมาทับคนงานก่อสร้างมากกว่า 80 คนที่ถูกฝังใต้ซากปรักหักพัง
“เมื่อเดือนที่แล้วฉันได้เดินเล่นในถนนที่คึกคักของกรุงเทพฯ เมืองหลวงที่มีมนต์เสน่ห์และเต็มไปด้วยสีสันของประเทศไทยขณะที่ไปเที่ยวกับไนเจล สามีของฉัน เรากำลังมองหาร้านก๋วยเตี๋ยวใหม่ๆ และได้พูดคุยกันถึงการก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นอย่างมากตั้งแต่การเยือนครั้งล่าสุดของเราที่ในปี 2017 ตึกสูงใหม่ๆ ปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว กับท้องฟ้าและเส้นขอบฟ้าที่กำลังเติบโตขึ้นของเมือง โดยมีคนงานที่ทำงานอย่างหนักในอากาศร้อนชื้น ถ้าคุณเคยไปกรุงเทพฯ คุณคงจะรู้ว่าฉากถนนที่วุ่นวายเหล่านั้นเป็นส่วนหนึ่งของเสน่ห์ของเมือง เสียงดังเต็มไปด้วยชีวิตชีวาและความมีชีวิต แต่ก็ยังถูกปรับให้สมดุลด้วยเสน่ห์ของคนท้องถิ่นที่มีน้ำใจ”
ก่อนที่เธอจะเปิดเผยความรู้สึกของตนเอง หลังจากทราบข่าวภัยพิบัติที่เพิ่งเกิดขึ้น “ตอนนี้มันทำให้รู้สึกช็อกและเศร้าใจที่ได้เห็นพื้นที่กรุงเทพฯ ถูกประกาศให้เป็นเขตภัยพิบัติหลังจากเกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.7 ริกเตอร์ที่สั่นสะเทือนประเทศไทย และเมียนมาร์ที่อยู่ใกล้เคียง ขณะที่ผลกระทบเริ่มรู้สึกได้ในเมือง ผู้คนต่างวิ่งออกมาบนถนนในความตื่นตระหนก หลายคนเป็นแขกที่พักในโรงแรมในชุดคลุมอาบน้ำและชุดว่ายน้ำ ขณะที่น้ำตกลงมาจากสระว่ายน้ำบนชั้นสูงของโรงแรมหรู”
แม้ว่าแผ่นดินไหวจะเกิดขึ้นได้ยากในกรุงเทพฯ เมืองที่มีประชากรมากกว่า 17 ล้านคน ซึ่งหลายคนอาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์สูง และตอนนี้เมืองนี้มีความเสี่ยงอย่างมากจากการสั่นสะเทือนจากระยะไกล หนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดคือจตุจักร “ที่ตึกสูงซึ่งยังสร้างไม่เสร็จ ได้พังทลายหลังจากการสั่นสะเทือน คนงานก่อสร้าง 81 สูญหาย ซึ่งห่างจากตลาดนัดสุดสัปดาห์ที่ได้รับความนิยมของเมืองเพียงไม่กี่ก้าว ที่ซึ่งพ่อค้าแม่ค้าที่ยิ้มแย้มพร้อมต่อรองราคาขายของที่ระลึกให้ฉันเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน”
ทางการไทยได้เรียกร้องให้ผู้คนในตึกสูง "อพยพออกทันที" ขณะอยู่ระหว่างการตรวจสอบความเสียหายจากโครงสร้าง ก็เข้าใจได้ว่าทำไมชาวบ้านหลายคนจึงมองไปที่ตึกสูงในเขตที่มีความหนาแน่นของประชากรด้วยความหวาดกลัว ประชาชนที่ตกตะลึงก็เร่งรีบอยู่บนท้องถนนโดยไม่รู้ว่าจะต้องตอบสนองอย่างไรหลังจากที่ตึกเริ่มสั่น ทั้งนี้ ในบทความดังกล่าวยังระบุถึงความเสียหายที่รุนแรงยิ่งกว่าในเมียนมาร์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางของแผ่นดินไหว
- รีบแชร์ต่อ! สว.หมอวี ย้ำเวลาเฝ้าระวัง "อาฟเตอร์ช็อก" สอนวิธีเอาตัวรอดในอาคาร-กลางแจ้ง
- มาแล้ว! สส.แบงค์ เปิดชื่อคน 4 กลุ่ม ชี้เป้าตรวจสอบ "ตึกเดียว" ที่ถล่ม ลั่นต้องมีผู้รับผิดชอบ