"กฎ ABCDE" หลักสังเกตความต่างระหว่าง "ไฝธรรมดา" หรือ "มะเร็งผิวหนัง"
เว็บไซต์ ladbible นำเสนอเรื่องราว "จอห์น ซีนา (John Cena) กับบทเรียนจากมะเร็งผิวหนัง" พร้อมวิธีสังเกตไฝผิดปกติด้วยกฎ ABCDE
เมื่อพูดถึง จอห์น ซีนา หลายคนคงนึกถึงนักมวยปล้ำร่างกำยำ ดาราฮอลลีวูดผู้รับบทแอ็กชันอย่างดุดัน แต่ล่าสุดเขาออกมาเผยเรื่องที่หลายคนอาจไม่คาดคิด เขาเคยเป็นมะเร็งผิวหนังถึง 2 ครั้งในช่วงวัย 20 ต้นๆ
ซีนา เปิดเผยว่า ในอดีตเขาไม่เคยใช้ครีมกันแดดเลย ทั้งในช่วงที่เติบโตในรัฐแมสซาชูเซตส์ ไปจนถึงตอนย้ายมาอยู่ที่ฟลอริดา รัฐที่มีแดดแรงแทบตลอดปี เขายอมรับว่าเคย "ดื้อ" คิดว่าเรื่องแบบนี้จะไม่เกิดกับตัวเอง จนกระทั่งตรวจพบจุดมะเร็งที่หน้าอกขวา และต่อมาอีกปีหนึ่งก็พบอีกจุดที่ไหล่ขวา
ประสบการณ์ตรงนี้ทำให้เขาเปลี่ยนทัศนคติ และเข้าร่วมรณรงค์กับแบรนด์ Neutrogena ในแคมเปญ "Sunscreen You Can’t See" เพื่อกระตุ้นให้คนใส่ใจการปกป้องผิวจากแสงแดดที่มองไม่เห็น
ตรวจไฝด้วยตัวเอง ง่ายๆ ด้วยกฎ ABCDE
มะเร็งผิวหนัง โดยเฉพาะชนิดเมลาโนมา (Melanoma) ถือเป็นชนิดที่รุนแรงที่สุด และสามารถเกิดได้แม้ในคนอายุน้อย การตรวจพบตั้งแต่ระยะแรกมีโอกาสรักษาให้หายได้สูง ซึ่งหนึ่งในวิธีพื้นฐานที่สุดในการสังเกตความผิดปกติของผิวหนัง ก็คือกฎ ABCDE ที่ทั้งง่ายและจำได้ไม่ยาก
A - Asymmetry (ความไม่สมมาตร): ไฝหรือจุดบนผิวหนังที่รูปร่างไม่เท่ากันทั้งสองฝั่ง เช่น ด้านหนึ่งนูน อีกด้านแบน
B - Border (ขอบเขต): ขอบไฝที่หยัก ไม่เรียบ หรือดูเหมือนรอยแฉก
C - Colour (สี): มีหลายสีในจุดเดียว เช่น น้ำตาลเข้ม น้ำตาลอ่อน เทา ดำ หรือมีสีแดงปน
D - Diameter (ขนาด) หรือ Dark (ความเข้ม): ไฝที่ใหญ่กว่า 6 มิลลิเมตร หรือแม้มีขนาดเล็กแต่สีเข้มผิดปกติ
E - Evolving (การเปลี่ยนแปลง): ไฝที่มีการเปลี่ยนแปลงในด้านสี รูปร่าง ขนาด หรือเริ่มมีอาการ เช่น คัน แสบ หรือเลือดออก
มะเร็งผิวหนังไม่เลือกคน
สิ่งสำคัญที่ ซีนา ต้องการสื่อคือ มะเร็งผิวหนังไม่ใช่เรื่องไกลตัว และไม่ได้เกิดเฉพาะกับคนที่มีสุขภาพอ่อนแอ ต่อให้คุณแข็งแรงแค่ไหน ถ้าไม่ป้องกันแสงแดดหรือไม่ใส่ใจสัญญาณของร่างกาย ก็ยังมีความเสี่ยงอยู่ดี
ดังนั้น อย่าลืมสังเกตไฝหรือจุดบนผิวหนังของตัวเองเป็นประจำ และหากพบสิ่งผิดปกติ อย่ารอช้า รีบปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพราะมะเร็งผิวหนัง หากตรวจพบไว ก็สามารถรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ