หน้าฝนต้องระวัง! 4 วิธีตากผ้า ที่นำโรคเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายๆ แต่หลายคนยังทำกันอยู่

07/04/2025 (07:10 น.)

4 วิธีตากผ้าที่นำโรคเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย ๆ ในช่วงหน้าฝน แนะวิธิตากผ้าให้ผ้าแห้งเร็วในช่วงฤดูฝน

เสื้อผ้าสัมผัสกับผิวโดยตรง หากทำความสะอาดไม่ถูกวิธีอาจก่อให้เกิดโรคได้ แต่ที่หลายคนมองข้ามคือการตากผ้าที่ไม่ถูกต้องก็เสี่ยงทำให้เกิดอาการคัน ผื่น หรือแม้แต่ฝีหนองได้เช่นกัน

ฤดูฝนที่ยาวนานทำให้การตากผ้ากลายเป็นเรื่องท้าทายสำหรับบ้านที่ไม่มีเครื่องอบผ้า มีหลายจุดที่ต้องระวัง เพราะหากตากไม่ถูกวิธี นอกจากผ้าจะแห้งช้า ยังอาจเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียและเชื้อรา ส่งผลเสียต่อสุขภาพโดยตรง

1. ตากผ้าในบ้าน อากาศไม่ถ่ายเท

หลายครอบครัว โดยเฉพาะบ้านที่มีพื้นที่ระเบียงจำกัด มักเลือกตากผ้าในบ้านหรือใกล้หน้าต่าง แม้ว่าวิธีนี้อาจไม่เป็นปัญหาในฤดูร้อน แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงหน้าฝนหรืออากาศชื้น ผ้าจะแห้งช้าลงมาก บางชิ้นอาจใช้เวลาถึง 4-5 วันกว่าจะสนิท

ผ้าที่อับชื้นเป็นเวลานานจะกลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อราและแบคทีเรีย ทำให้มีกลิ่นเหม็นอับ และอาจกระตุ้นปัญหาผิว โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย เสี่ยงเป็นผื่น ผิวอักเสบ คัน หรือแม้แต่เกิดสิวจากการใส่เสื้อผ้าประเภทนี้

2. ตากผ้าใกล้พื้นที่มีมลพิษและฝุ่นมาก

หลายบ้านที่อยู่ติดถนนใหญ่มักตากผ้าไว้หน้าบ้าน คิดว่าแค่มีแสงแดดเพียงพอก็เพียงพอแล้ว แต่ในความเป็นจริง การตากผ้าในบริเวณที่เต็มไปด้วยฝุ่นและมลพิษ อาจทำให้เสื้อผ้ากลายเป็นแหล่งสะสมของฝุ่นละอองและสารพิษต่าง ๆ

เมื่อสวมใส่เสื้อผ้าที่ปนเปื้อนเหล่านี้ อาจทำให้ผิวระคายเคือง เกิดอาการแพ้ หรือหากสูดดมสารพิษสะสมเป็นเวลานาน อาจกระตุ้นอาการแพ้ทางเดินหายใจ ส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว

3. ไม่ตากผ้าทันทีหลังซัก

หลายคนมักปล่อยให้ผ้าค้างอยู่ในเครื่องซักผ้า แล้วค่อยนำมาตากเมื่อมีเวลาหรือเมื่อนึกขึ้นได้ แต่นี่เป็นพฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยงอย่างยิ่ง

หลังการซัก เครื่องซักผ้ายังคงมีความชื้นสูง ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะแก่การเจริญเติบโตของแบคทีเรีย หากปล่อยผ้าไว้นาน อาจเกิดการปนเปื้อนซ้ำ ทำให้ผ้าที่เพิ่งซักสะอาดกลับเต็มไปด้วยเชื้อโรค ดังนั้นควรรีบนำผ้าออกมาตากทันทีหลังซักเสร็จ เพื่อลดความเสี่ยงของการสะสมเชื้อแบคทีเรียและป้องกันปัญหาสุขภาพ

4. ตากผ้าซ้อนกันหลายชั้น

บางครั้งเมื่อที่แขวนผ้าไม่พอ หลายคนเลือกตากผ้าซ้อนกันเป็นชั้น ๆ โดยไม่รู้ว่าวิธีนี้ทำให้ผ้าแห้งช้าลง และจุดที่อับลมอาจไม่แห้งสนิท กลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อแบคทีเรีย ส่งผลให้เสื้อผ้ามีกลิ่นอับและอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้

 

ตากผ้าในช่วงฤดูฝนอย่างไรให้แห้งเร็ว?

อันดับแรก อย่ากองเสื้อผ้าสกปรกไว้ และรอจนกว่าจะมีแดดจัดจึงค่อยซัก ควรซักให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ ในช่วงฤดูฝน ควรซักผ้าในตอนเช้าเพื่อให้ผ้ามีเวลาแห้งระหว่างวัน หลีกเลี่ยงการซักตอนกลางคืนเพราะเป็นช่วงที่ความชื้นในอากาศสูง หลังซักเสร็จ ควรบิดน้ำออกให้มากที่สุดและสะบัดผ้าก่อนตาก เพื่อลดปริมาณน้ำที่สะสมในเนื้อผ้า

เคล็ดลับช่วยให้ผ้าแห้งเร็วขึ้น ได้แก่ ตากผ้าแบบกลับด้าน แขวนผ้าให้มีระยะห่างอย่างน้อย 5 ซม. ระหว่างไม้แขวน และนำผ้าเข้าตู้ก็ต่อเมื่อแห้งสนิทเท่านั้น อย่าเก็บทั้งที่ยังชื้น เพราะอาจทำให้เกิดเชื้อราสะสมในตู้เสื้อผ้าได้