อุ๊ย! "ไฮโซเก๊" ถูกขุด เคยโพสต์รับงานสยิว "ลีลาเด็ด" แต่ไม่ยืนยัน ตัวจริงโพสต์เองไหม?
อุ๊ย! "ไฮโซเก๊" ถูกขุดโพสต์รับงานสยิว "ลีลาเด็ด" แต่ยังไม่ยืนยันว่าเป็นเจ้าตัวโพสต์เอง
ดูเหมือนว่ากระแสข่าวของ “ไฮโซเก๊” ยังไม่จบง่ายๆ หลังล่าสุดในรายการ โหนกระแส เทปวันที่ 8 เมษายน 2568 ได้มีการเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติม โดยเฉพาะการขุดโพสต์เก่าในปี 2013 หรือเมื่อ 12 ปีก่อน ซึ่งมีชายคนหนึ่งโพสต์ข้อความลักษณะคล้ายรับงานแนวเซ็กซี่ พร้อมใช้รูปโปรไฟล์ที่ดูแล้วคล้ายกับชายคนนี้มาก ข้อความระบุว่า “อายุ 22 สูง 170 หนัก 65 พี่สาวคนไหนต้องการ โทรมาได้นะครับ แอดมาคุยกันได้ครับ ลีลาเด็ด อยากได้แบบไหนจัดให้ได้หมดครับ ขอในกรุงเทพนะครับ”
ถึงแม้โพสต์ดังกล่าวจะสร้างความฮือฮาในโลกออนไลน์ แต่ทางรายการก็ย้ำให้ความเป็นธรรมว่า ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าเป็นชายคนนี้จริงๆ หรือไม่ อาจเป็นการกลั่นแกล้ง หรืออาจมีผู้นำรูปไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตก็เป็นได้ หากเจ้าตัวต้องการชี้แจงก็สามารถออกมาพูดได้ทุกเมื่อ
เพื่อนเมียเล่าแซ่บ! อ้างรวยแต่ขึ้นวินมอ’ไซค์ทุกวัน เพราะกลัวศัตรูการเมืองลอบยิง
หนึ่งในประเด็นที่ถูกขุดในเทปรายการวันนี้ คือคำบอกเล่าจาก “เพื่อนของภรรยา” ที่เคยใช้ชีวิตใกล้ชิดกับชายคนนี้ เธอเล่าว่า นายฮอตอ้างว่าตนเองเป็นผู้มีอิทธิพล สนับสนุนพรรคการเมืองใหญ่ เป็นถึงสปอนเซอร์ของม็อบการเมือง จนถึงขั้นต้องใช้วินมอเตอร์ไซค์เปลี่ยนสายทุกวัน เพราะกลัวถูกลอบยิงจากศัตรูทางการเมือง ซึ่งขัดกับภาพลักษณ์ของคนที่บอกว่าตนเองรวยระดับเจ้าสัว มีรถหลายคัน แต่ไม่เคยเห็นรถเหล่านั้นเลย
เธอยังเปิดเผยอีกว่าค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ล้วนเป็นฝ่ายหญิงออกหมด แม้ฝ่ายชายจะเคยเปิดบัญชีโชว์เงินฝากหลักร้อยล้าน แต่พฤติกรรมจริงกลับสวนทาง ตั้งแต่รองเท้าขาดยันการใช้ชีวิตแบบพยายามประหยัดสุดขีด
ความสัมพันธ์ที่เริ่มจากแอปฯ แต่จบด้วย “แหกตา”
ต้นตอความสัมพันธ์เริ่มต้นเมื่อปี 2560 เพื่อนของเธอซึ่งเป็นสัตวแพทย์ รู้จักกับชายคนนี้ผ่านแอปฯ นัดเดต ซึ่งชายคนดังกล่าวอ้างว่ารักสัตว์ ชอบช่วยเหลือสัตว์ ทำให้ฝ่ายหญิงรู้สึกประทับใจและเปิดใจคบหา แม้ฝ่ายชายจะขอมาอยู่บ้านด้วยตั้งแต่วันแรกๆ โดยอ้างว่ายังสร้างบ้านใหม่ไม่เสร็จ
ไม่นาน ฝ่ายชายก็ขอเป็นแฟน พร้อมโชว์บัญชีเงินฝากและอ้างว่าตัวเองเป็นถึงลูกนักการเมืองระดับสูง เพื่อนๆ แม้จะสงสัย แต่ก็ไม่สามารถห้ามเพื่อนได้ เพราะเจ้าตัวหลงเชื่อในความรักอย่างสุดใจ แม้จะพบพฤติกรรมแปลกๆ เช่น ใช้วินมอเตอร์ไซค์ตลอดเวลา ทั้งที่อ้างว่ามีรถหรูหลายคัน แต่ไม่เคยเห็นกับตาเลยสักครั้ง
โกหกซ้ำซ้อน จนถึงขั้น "จัดงานแต่งหลอก"
เรื่องราวยิ่งน่าตกใจขึ้นเรื่อยๆ เมื่อฝ่ายหญิงบอกครอบครัวว่าจะได้แต่งงานกับเจ้าสัวเจ้าของร้านอาหารชื่อดังในปี 2564 ถึงขั้นแจกการ์ดเชิญ และให้ญาติช่วยกันเตรียมงาน ทั้งยังจองโรงแรมหรูไว้หมดแล้ว แต่ก่อนถึงวันงานแค่ 2 วัน ฝ่ายชายอ้างว่าติดโควิด
แม้จะผิดหวัง แต่ครอบครัวก็ให้อภัย และยังคงเชื่อใจในครั้งที่สองที่ฝ่ายชายขอจัดงานใหม่อีกครั้ง คราวนี้ก็เกิดเรื่องซ้ำเดิมอีก ก่อนวันงาน 3 วัน ชายคนเดิมส่งรูปตัวเองพันแขน พันขา อ้างว่าตกบันได ไม่สามารถมาร่วมพิธีได้ พร้อมอ้างคำจากพ่อที่เป็นพระว่า "มีเจ้ากรรมนายเวร" ต้องสะเดาะเคราะห์ก่อน ถึงจะแต่งได้
ญาติพี่น้องรวมถึงแม่ของฝ่ายหญิงเริ่มทนไม่ไหว และรู้สึกเสียหน้าจากการจองโรงแรมแต่ไม่ได้จัดงานจริง แม้จะเตือนอย่างไร ฝ่ายหญิงก็ยังเลือกเชื่อชายคนนี้ต่อไป
ทอง 50 บาทที่แท้แค่ทองชุบ "หลอมปุ๊บ หายหมด!"
ในรายการยังมีการพูดถึง "ทองคำ 50 บาท" ที่ชายคนดังกล่าวเคยใช้เป็นสินสอดวางกับครอบครัวของคะน้า โดยเชิญผู้เชี่ยวชาญอย่างคุณนะโม เจ้าของร้าน "นะโม บ้านช่างทอง สระบุรี" มาเปิดเผยผลตรวจสอบด้วยเครื่องสแกนโลหะอย่างละเอียด
ผลปรากฏว่า ทองคำแท้มีอยู่เพียงแค่ 2% เท่านั้น! ที่เหลือคือทองชุบระดับไมครอน ส่วนประกอบหลักคือทองเหลืองผสมกับสังกะสีและทองแดง หากนำไปหลอม ทองจะระเหยหายหมดทันที
เช่นเดียวกับแหวนเพชรที่ตรวจสอบพบว่า ตัวเรือนทำจากเงินและทองแดง ไม่ใช่ทองคำขาวอย่างที่กล่าวอ้าง และเมื่อลองนำเพชรไปขูดกับกระดาษทราย สีติดออกมาอย่างชัดเจน แสดงว่าเป็นเพชรปลอม ราคาเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น
พรรคเพื่อไทยยืนยัน “ไม่รู้จัก” ชายคนนี้
ท้ายที่สุด รายการยังเปิดสายตรงสัมภาษณ์ นายวิม รุ่งวัฒนจินดา หนึ่งในทีมงานก่อตั้งพรรคเพื่อไทย และเป็นหนึ่งในคณะทำงานของนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ซึ่งออกมายืนยันชัดว่า “ไม่เคยรู้จักชายคนนี้มาก่อนเลยแม้แต่นิดเดียว” พร้อมระบุว่าทางพรรคได้ส่งตัวแทนลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้ว หากมีความเสียหายเกิดขึ้น เชื่อว่านายกฯ จะแต่งตั้งทนายไปดำเนินคดีอย่างแน่นอน
