เนื้อหาในหมวด ข่าว

\

"พีท พามานา" เจอรักลวงในแอปหาคู่คบ 3 ปี ไม่เคยเห็นหน้าสุดท้ายโดนหลอก!

รายการ "เกิดมาเว่า" โดยมี หนุ่ม ม้าม่วง รับหน้าที่เป็นพิธีกร สัปดาห์นี้พบกับ "พีท พามานา" ดาว Tiktok ชื่อดังขวัญใจโซเชียล เผยจุดเริ่มต้นเข้าสู่วงการและการสร้างตัวตน พร้อมเล่าประสบการณ์ความรักที่ครั้งหนึ่งเคยเจอรักลวงจากแอปหาคู่คบกัน 3 ปีไม่เคยเห็นหน้า สุดท้ายไม่ตรงปกเพราะโดนผู้ชายหลอกใช้รูปปลอมแอบอ้าง

ตอนนี้ใช้ชีวิตส่วนใหญ่ที่กรุงเทพฯ หรือที่ไหนคะ ?

พีท พามานา : ส่วนใหญ่ก็อยู่ในป่า ในดง อยู่นา ตั้งแต่กลับไปอยู่บ้านเชื่อไหม ไม่ได้นอนบ้านเลยสักคืน นอนอยู่แต่เถียงนา แต่ว่าตรงที่เราอยู่เป็นสังกะสีอ้อมเลย ปัจจุบันก็ยังนอนที่นั่นอยู่

พูดถึงคอนเทนต์ เป็นมายังไงเราถึงได้มาทำคอนเทนต์ที่บ้าน แล้วทำไมถึงเรียกว่า พีท พามานา ?

พีท พามานา : ตอนแรกก็เป็นพนักงานประจำอยู่กรุงเทพฯ แล้วก็อยากกลับบ้าน คิดถึงพ่อแม่ เพราะพ่อแม่อยู่บ้านสองคน เลยอยากกลับไปอยู่กับเขา ตอนนั้นก็ยังไม่มีเป้าหมายอะไรเลยจะไปทำอะไร แค่อยากกลับบ้าน อยากอยู่กับครอบครัว ช่วงนั้นก็เป็นช่วงโควิดพอดี กลับไปก็ต้องกักตัว 14 วัน อยู่คนเดียว อยู่กลางทุ่งนา แต่ก็เป็น 14 วันที่โคตรมีความสุขเลย ถ้าย้อนกลับไปก็อยากรู้สึกแบบนั้นอีก ซึ่งปัจจุบันนี้หาไม่ได้ ช่วงนั้นเป็นช่วงที่อยู่กับตัวเองมีตวามสุขมาก และคิดว่าตัวเองมาถูกทางแล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่าจะไปรอดยังไง แล้วช่วงนั้นก็เริ่มเล่น TikTok ก็ลองโหลดมาดู เพราช่วงนั้นคนอยู่บ้านกันไม่มีอะไรทำ จุดเริ่มต้นก็ตรงนั้นแหล่ะ ส่วนชื่อก็ไม่มีอะไรซับซ้อนเลย พีท พามานา พาคนดูมานา แต่ว่าจะพามาทำอะไรไม่รู้

เลือกบทละครเองหมดเลย ใช้เวลาถ่ายทำนานไหม ?

พีท พามานา : เลือกซีนบทเราเลือกเอง เริ่มจากละครที่เราดูก่อน เราก็ดูไปเรื่อยๆจนเจออันที่มันถูกจริตเรา อยากละครนี้มีตบกัน ถ้าเป็นเราจะตีลังกากระโดดถีบไปเลย ไม่ยืนตบเฉย ๆ เพราะเราเป็นคนชอบดูละครพื้นเพมาตั้งแต่เด็กๆ เรื่องการถ่ายทำเราก็แพลนเองทุกอย่างเหมือนกันไม่มี Story Board อยู่ในหัวหมด ปัจจุบันมีทีมงาน 3 คน รวมเราเป็น 4 คน แต่ก็ช่วยในกระบวนการถ่ายทำ แต่อื่นๆก็ยังเป็นเราเหมือนเดิม คิด ครีเอท หาชุด หาพร็อพ หาโลเคชั่น หาซีน คุยลูกค้า ตอบลูกค้า รวมไปถึงการตัดต่อ

ความยากของการทำคลิปพวกนี้อุปสรรคคืออะไร ?

พีท พามานา : สำหรับเราก็มาจากการที่ทำคนเดียวนี่แหล่ะ ไม่มีคนมาแชร์ ไม่มีคนมาแบ่ง อย่างถ่ายงานนี้เสร็จก็มาตัดงานเก่า แล้วอีกวันก็ต้องมาถ่ายอีกงานหนึ่ง หัวเราก็ต้องคิดว่าพรุ่งนี้เราจะไปยังไงต่อ ในขณะที่เรากำลังตัดงานตัวนี้อยู่ แล้วลูกค้าก็แชทเข้ามา ก็เลยจะเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ตอบช้าก็ต้องฝากขอโทษด้วย คือถ้าเราไม่พร้อมก็จะไม่ตอบ เพราะถ้าตอบก็ต้องตอบให้จบ แต่ตอนนี้ก็มีผู้ช่วยแล้วครับ

เวลาเราทำคลิปแล้วเจอนักเลงคีย์บอร์ดเรามีวิธีรับมือยังไง ?

พีท พามานา : ไม่รับ จะรับมาทำไมในเมื่อไม่มีประโยชน์กับเรา ความรู้สึกมันก็กระทบเป็นธรรมดา แต่ว่าไม่จำเป็นต้องถือไว้ หรือต้องรับมัน ปล่อยมันไปทิ้งมันไป รับแต่สิ่งที่มีประโยชน์

คิดเห็นยังไงกับปัจจุบันที่มีการเปิดมุมมองเรื่องเพศมากขึ้น ?

พีท พามานา : รู้สึกดี ถ้าเทียบกับเมื่อก่อน ทุกวันนี้มันเปิดมาก แต่ก็ยังมีบางบุคคล บางกลุ่มคนที่ยังมีอคติในเรื่องนี้อยุ่ หรือว่ายังไม่ยอมรับ 100% แต่สุดท้ายแล้ว มันก็ยังดีกว่าถ้าย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ที่ลงรถมาแล้วเด็กน้อยชี้ กระเทยๆ ที่บ้านพ่อกับแม่ก็ไม่ได้ยอมรับ 100% หรอก แต่ก็อาจจะมีบางเรื่องที่พอถ่วงกันได้ เพราะเราเป็นครอบครัวคนต่างจังหวัดที่ไม่ได้พูดกันได้ทุกเรื่อง มีแฟน มีผู้ชาย เราก็พูดไม่ได้ เพราะว่าพ่อแม่ไม่ได้สอนว่ามีอะไรให้บอก พ่อแม่ไม่ได้เปิดใจกับเราตั้งแต่เด็ก พอมีแฟนก็ไม่กล้าให้ครอบครัวเรารู้ แล้วพ่อแม่ก็เป็นแนวไม่พูดเวลาเห็นเราแต่งตัว แต่ว่าก็รู้อยู่ว่าเขาอาจจะไม่ชอบก็ได้ ด้วยความที่เขาเป็นคนสมัยนั้น มาในยุคปัจจุบันไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ก็เริ่มปรับตัวได้ ยอมรับได้มากขึ้น รวมถึงพ่อกับแม่ที่บ้านเหมือนกัน ท่านก็แฮปปี้กับสิ่งที่เราเป็น เราก็แฮปปี้ในสิ่งที่ท่านรับเราได้เหมือนกัน ต่างคนก็ต่างเข้าใจซึ่งกันและกัน

ตอนนี้สถานะหัวใจเป็นยังไง ?

พีท พามานา : ไม่มีแฟนเลย

ได้ข่าวว่าเคยคบกับผู้ชายที่ไม่เคยเห็นหน้าถึง 3 ปี ?

พีท พามานา : เรื่องจริง ที่จริงมันเป็นเรื่องที่ซับซ้อน เราก็รู้จักกันจากแอฟหาคู่ ขอไลน์คุยกันแต่ไม่เคยเปิดกล้องเลย มีแชทแล้ว ก็โทรคุยกัน พอคุยกันมาสักพักหนึ่งก็นัด แต่พอถึงเวลาเขาก็ติดธุระนั่นนี่ ก็ไม่เป็นไรเพราะว่าช่วงนั้นเราก็ไม่มีใครด้วยแหล่ะ ก็มันเสียเวลาไปแล้ว 1 ปีเราก็เสียดาย ก็เลยต่ออีกหน่อยเผื่อมันดีขึ้น เผื่อเขาเปิดใจมาหาเราได้ พอเข้าปีที่ 3 เราก็เริ่มถามตัวเองว่าเป็นเพราะอะไร เขามีอะไรปิดบังเรา ก็เลยไปค้นหาซึ่งก็มีข้อมูลเขาอยู่ในระดับหนึ่ง พอไปเจอใน Facebook เราก็รู้ว่ารูปที่เขาส่งมาให้กับตัวจริงไม่ใช่คนเดียวกัน แอบอ้างเอารูปคนอื่นมาหลอกเรา พอรู้ความจริงเราก็บอกเขา เพราะการรู้ของเราถึงจะไม่ใช่คนที่เราคิดแต่ก็พยายามทำใจอยู่ว่าจะเป็นไปได้ไหม เรายังยอมรับเขาอยู่นะ สุดท้ายก็กลายเป็นว่ายิ่งเราพยายาม เขาก็ไม่ได้มีความพยายามอะไรกับเราเลย ก็เลยกลายเป็นเอื้อมระอาไปเอง ก็เลยห่างกันไปและหยุด

 

สามารถติดตาม “เกิดมาเว่า” ได้ที่ช่องทาง Facebook: WE DO , Youtube: WE DO วันอังคาร เวลา 18.00 น.

คลิกชมคลิปย้อนหลัง : https://www.youtube.com/watch?v=GbTwjdMUv3s&t=7s