เนื้อหาในหมวด ข่าว

5 ประโยคที่ \

5 ประโยคที่ "พนักงานใหม่" ไม่ควรพูดในที่ทำงาน ข้อแรกถือเป็น "คำต้องห้าม"

5 ประโยคที่พนักงานใหม่ไม่ควรพูดในที่ทำงาน ข้อแรกถือเป็น “คำต้องห้าม” คนที่มี EQ สูงควรหลีกเลี่ยง

ในสภาพแวดล้อมการทำงานที่เต็มไปด้วยการแข่งขันและความกดดัน คำพูดแต่ละคำสามารถเป็นได้ทั้งโอกาสสร้างความประทับใจ หรือเป็นต้นเหตุของปัญหาได้เช่นกัน

ในที่ทำงาน คำพูดแต่ละคำของเราสามารถส่งผลต่อภาพลักษณ์ หน้าที่การงาน และความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานได้โดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะสำหรับพนักงานใหม่ ยิ่งต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ

ต่อไปนี้คือ 5 ประโยคที่ไม่ควรพูดในที่ทำงาน หากไม่อยากสร้างปัญหาให้ตัวเอง

  • “ฉันทำไม่เป็น”

  • ประโยคแรกที่พนักงานใหม่ไม่ควรพูดเด็ดขาดในที่ทำงานก็คือ “ฉันทำไม่เป็น”

    แม้จะฟังดูตรงไปตรงมา แต่ในสายตาของหัวหน้า นี่คือคำพูดที่สะท้อนถึงความไม่มีความรับผิดชอบและขาดความกระตือรือร้น ทุกคนต่างก็เริ่มต้นจากศูนย์ แต่แทนที่จะปฏิเสธทันที ควรแสดงทัศนคติที่พร้อมเรียนรู้ เช่น “เดี๋ยวฉันจะลองศึกษาดู และจะพยายามทำให้ดีที่สุด” ประโยคแบบนี้จะทำให้คนรอบข้างเชื่อมั่นในตัวคุณมากกว่าการปฏิเสธแบบไม่มีเยื่อใย

  • “ไม่ใช่ความผิดของฉัน”

  • ประโยคนี้เป็นอีกหนึ่งคำพูดที่อาจทำให้พนักงานใหม่ตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก และถูกมองในแง่ลบจากหัวหน้าได้ง่ายมาก

    เมื่อเกิดปัญหา หลายคนมักรีบปัดความรับผิดชอบทันที แต่การโยนความผิดไม่เคยเป็นทางออกที่ดี โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมการทำงานแบบมืออาชีพ แม้คุณจะไม่ได้เป็นต้นเหตุของปัญหา ก็ยังควรแสดงน้ำใจและความร่วมมือในการช่วยทีมตรวจสอบและเรียนรู้จากข้อผิดพลาด แค่แสดงความรับผิดชอบเล็กน้อย ก็ทำให้คุณดูมีภาวะผู้นำและทำงานเป็นทีมได้อย่างน่าชื่นชม

  • “ฉันไม่มีเวลา”

  • ประโยคนี้แม้จะสะท้อนความจริงว่าเรายุ่งแค่ไหน แต่การพูดปฏิเสธตรงๆ เช่นนี้อาจทำให้คนอื่นรู้สึกว่าคุณขาดความรับผิดชอบ และไม่สามารถจัดการเวลาได้ดี

    ทางที่ดีควรเลือกใช้คำพูดที่สุภาพและเปิดโอกาสให้หัวหน้าได้ช่วยแนะนำ เช่น “ตอนนี้หนูกำลังรับผิดชอบงานเร่งด่วนอยู่หลายชิ้น ไม่ทราบว่าพี่ช่วยแนะนำได้ไหมคะว่างานไหนควรทำก่อน?”

    คำพูดแบบนี้นอกจากจะดูมีมารยาท ยังแสดงถึงความเป็นมืออาชีพและทักษะในการสื่อสารเชิงบวกอีกด้วย

  • “ทำไมต้องเป็นฉันทุกครั้ง”

  • ประโยคอย่าง “ทำไมงานอะไรๆ ก็ต้องมาลงที่ฉัน?” ฟังดูเหมือนเป็นคำถามที่สมเหตุสมผล แต่จริงๆ แล้วถือว่าอ่อนไหวและเสี่ยงต่อการถูกมองในแง่ลบ โดยเฉพาะในสายตาหัวหน้า เพราะมักถูกตีความว่าเป็นการบ่นหรือแสดงท่าทีต่อต้าน

    ทางที่ดีกว่าคือ ควรพูดคุยด้วยน้ำเสียงสุภาพ อธิบายเหตุผลส่วนตัวอย่างจริงใจ พร้อมเสนอแนวทางหรือทางเลือกที่ยืดหยุ่น เช่น ขอแบ่งงาน หรือต่อรองเวลาให้เหมาะสม วิธีนี้จะช่วยรักษาภาพลักษณ์ของคุณ และยังหลีกเลี่ยงการถูกมองว่าไม่มีความร่วมมืออีกด้วย

  • “ฉันไม่ทำโอที”

  • สุดท้าย คำพูดที่สามารถสร้างปัญหามากที่สุดคือ “ฉันไม่ทำโอที!”

    ทุกคนมีชีวิตส่วนตัว ไม่ใครอยากทำงานล่วงเวลา แต่การปฏิเสธอย่างเด็ดขาดไม่เพียงทำให้หัวหน้าเสียใจ แต่ยังทำให้เพื่อนร่วมงานรู้สึกไม่ดีอีกด้วย ทางที่ดี ควรแสดงให้เห็นว่าคุณพยายามทำงานให้เสร็จตามกำหนดเวลา และจะทำงานล่วงเวลาเฉพาะเมื่อจำเป็นจริงๆ ความยืดหยุ่นและการทำงานร่วมกันอย่างเต็มใจจะทำให้คุณดูเป็นมืออาชีพในสายตาของทีมมากขึ้น

    ที่ทำงานไม่ใช่สถานที่สำหรับแสดงอารมณ์ตามใจตัวเอง การพูดจาอย่างมีศิลปะไม่ได้แปลว่าต้องเสแสร้ง แต่คือการรู้จักเลือกเวลา น้ำเสียง และวิธีสื่อสารให้เหมาะสม เพราะบางครั้ง เพียงคำพูดผิดเพียงคำเดียวก็อาจทำให้คุณพลาดโอกาสสำคัญ การรู้จักวางตัวและระมัดระวังคำพูด คือหนทางที่ชาญฉลาดในการอยู่รอดและเติบโตอย่างมั่นคงในสภาพแวดล้อมการทำงานที่แข่งขันกันมากขึ้นทุกวัน

    CEO พูดเอง! สัมภาษณ์พนักงานใหม่ ถ้าพูดประโยคแบบนี้ \

    CEO พูดเอง! สัมภาษณ์พนักงานใหม่ ถ้าพูดประโยคแบบนี้ "ไม่มีทางรับเข้าทำงาน"

    CEO สาว เผยเอง ถ้าผู้มาสมัครงานพูดประโยคหนึ่งระหว่างการสัมภาษณ์ จะไม่รับเข้าทำงานเด็ดขาด เพราะจะนำความเสียหายมาสู่บริษัท

    พนง.ใหม่อึ้ง บริษัทมีกฎให้ช่วยกันทำความสะอาดออฟฟิศ แถมทุกคนชอบมาก!

    พนง.ใหม่อึ้ง บริษัทมีกฎให้ช่วยกันทำความสะอาดออฟฟิศ แถมทุกคนชอบมาก!

    พนักงานใหม่ถึงกับอึ้ง บริษัทมีกฎให้ช่วยกันทำความสะอาดออฟฟิศ รู้เบื้องลึกแล้วหายสงสัย ทำไมทุกคนถึงจริงจังกันขนาดนี้

    เริ่มงานวันแรก พนง.ขอลาพาแฟนป่วยไปหาหมอ คนดูแชตแล้วไม่เห็นใจ HR บอกไม่ต้องมาแล้ว

    เริ่มงานวันแรก พนง.ขอลาพาแฟนป่วยไปหาหมอ คนดูแชตแล้วไม่เห็นใจ HR บอกไม่ต้องมาแล้ว

    พนักงานป้ายแดง เริ่มงานวันแรกก็ขอลาพาแฟนป่วยไปหาหมอ เจอบอกไม่ต้องมาแล้ว คนเห็นแชตแล้วไม่เห็นใจ ทำไมเป็นแบบนี้