สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส: ชีวิต ความเชื่อ และมรดกด้านสิทธิมนุษยชน

22/04/2025 (08:00 น.)

ในโลกที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง ความเหลื่อมล้ำ และความไม่เป็นธรรม สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงเป็นบุคคลหนึ่งที่เปล่งแสงแห่งความหวังให้กับผู้คนจำนวนมากทั่วโลก ด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตนและหัวใจที่เปี่ยมด้วยเมตตา พระองค์มิใช่เพียงผู้นำสูงสุดของศาสนจักรคาทอลิกเท่านั้น หากยังทรงเป็นกระบอกเสียงเพื่อสิทธิมนุษยชน ความยุติธรรมทางสังคม และศักดิ์ศรีของเพื่อนมนุษย์ทุกคน Sanook พาย้อนรอยชีวิตของพระองค์ ตั้งแต่จุดเริ่มต้นในกรุงบัวโนสไอเรส จนถึงบทบาทสำคัญในฐานะพระสันตะปาปาผู้เปลี่ยนแปลงโลก

สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส

สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส (Pope Francis) หรือพระนามเดิมว่า ฆอร์เฆ มาริโอ แบร์โกกลิโอ (Jorge Mario Bergoglio) ทรงเป็นพระสันตะปาปาพระองค์แรกจากทวีปอเมริกาใต้ และพระองค์แรกในรอบกว่า 1,000 ปีที่มิใช่ชาวยุโรป พระองค์ทรงเป็นผู้นำที่เปี่ยมด้วยความเมตตาและความอ่อนน้อมถ่อมตน ทรงเน้นย้ำถึงความยุติธรรมทางสังคมและการปฏิรูปภายในศาสนจักรคาทอลิก​

ชีวิตและเส้นทางสู่ตำแหน่งพระสันตะปาปา

พระสันตะปาปาฟรานซิสประสูติเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2479 ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา พระองค์ทรงเข้าร่วมคณะเยซูอิตในปี พ.ศ. 2501 และได้รับการอุปสมบทเป็นพระสงฆ์ในปี พ.ศ. 2512 ต่อมาในปี พ.ศ. 2541 ทรงได้รับแต่งตั้งเป็นอัครสังฆราชแห่งบัวโนสไอเรส และได้รับการแต่งตั้งเป็นพระคาร์ดินัลในปี พ.ศ. 2544 โดยสมเด็จพระสันตะปาปายอห์น ปอล ที่ 2

พระองค์ทรงได้รับเลือกเป็นพระสันตะปาปาเมื่อวันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2556 นับเป็นพระสันตะปาปาพระองค์แรกจากทวีปอเมริกาใต้ และพระองค์แรกจากคณะเยซูอิต พระองค์ทรงเลือกพระนามว่า "ฟรานซิส" เพื่อเป็นเกียรติแก่เซนต์ฟรานซิสแห่งอัสซีซี​

การปฏิรูปและบทบาทด้านสิทธิมนุษยชน

ตลอดระยะเวลาที่ทรงดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา พระองค์ทรงมุ่งมั่นในการปฏิรูปศาสนจักรคาทอลิก ทรงเน้นความโปร่งใสในการบริหารงานและการจัดการทางการเงินภายในวาติกัน พระองค์ทรงให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือผู้ยากไร้ ผู้อพยพ และชุมชน LGBTQ+ นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและความยุติธรรมทางสังคมทั่วโลก​

สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงเป็นผู้นำที่เปี่ยมด้วยความเมตตาและความอ่อนน้อมถ่อมตน พระองค์ทรงเน้นย้ำถึงความยุติธรรมทางสังคมและการปฏิรูปภายในศาสนจักรคาทอลิก แม้ว่าจะทรงเผชิญกับความท้าทายและการวิพากษ์วิจารณ์จากกลุ่มอนุรักษ์นิยม แต่พระองค์ทรงยึดมั่นในหลักการและค่านิยมที่ทรงเชื่อมั่น พระองค์ทรงได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางในฐานะผู้นำที่เปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ของศาสนจักรคาทอลิกให้มีความทันสมัยและเปิดกว้างมากยิ่งขึ้น

​

มรณกรรมและการไว้อาลัย

สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสสิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2568 ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ณ ที่พำนักในวาติกัน พระองค์ทรงปรากฏตัวต่อสาธารณชนครั้งสุดท้ายในวันอาทิตย์อีสเตอร์ โดยทรงอวยพร Urbi et Orbi และเรียกร้องให้มีสันติภาพในยูเครนและกาซา การสิ้นพระชนม์ของพระองค์นำมาซึ่งการไว้อาลัยจากผู้นำทั่วโลก พิธีศพของพระองค์จะจัดขึ้นภายใน 4-6 วันหลังจากการสิ้นพระชนม์ และมีการไว้อาลัยเป็นเวลา 9 วันตามธรรมเนียมของศาสนจักรคาทอลิก