เนื้อหาในหมวด ข่าว

เตือน 5 อาหาร ยิ่งล้าง ยิ่งสกปรก \

เตือน 5 อาหาร ยิ่งล้าง ยิ่งสกปรก "บ่มเชื้อ" แบคทีเรียแทรกซึมลึกขึ้น ไม่ใช่แค่ไข่-เนื้อสัตว์!

คิดว่าล้างสะอาดแล้ว? รู้ทันก่อนสาย! 5 อาหารที่เรามักล้างผิด ยิ่งทำ...ยิ่งแย่ พฤติกรรมที่อันตรายกว่าที่คิด เสี่ยงเชื้อโรคซึมลึกเข้าปากไม่รู้ตัว

การล้างผัก ล้างเนื้อสัตว์ หรือวัตถุดิบต่างๆ ก่อนนำไปปรุงอาหารนั้น เป็นขั้นตอนพื้นฐานที่ทุกบ้านทำเป็นประจำ เพื่อความสะอาดและปลอดภัยจากสารเคมีหรือเชื้อโรคที่อาจปนเปื้อนในอาหาร แต่รู้หรือไม่ว่า... มีอาหารบางประเภทที่ "ยิ่งล้างแบบผิดๆ" กลับยิ่งพาเชื้อโรคเข้าปากโดยไม่รู้ตัว!

ตามรายงานของเว็บไซต์ต่างประเทศ SOHA ระบุคำเตือนถึง 5 อาหาร ที่หลายคนมักล้างผิดวิธี จนทำให้ครัวกลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค

ไข่ดิบ – ล้างแล้วแย่!

หลายคนคิดว่าการล้างไข่ก่อนแช่ตู้เย็นคือวิธีรักษาความสะอาด แต่จริง ๆ แล้ว เป็นการทำลาย "เกราะป้องกันธรรมชาติ" ที่อยู่บนเปลือกไข่ เรียกว่า “คิวติเคิล” (cuticle) ซึ่งป้องกันไม่ให้เชื้อโรคอย่าง Salmonella ซึมเข้าสู่ภายใน การล้างไข่ด้วยน้ำเปล่าอาจทำให้เชื้อโรคซึมเข้าไข่ผ่านรูพรุนบนเปลือก ทางที่ดีที่สุดคือ เช็ดไข่ด้วยผ้าแห้ง และเก็บไว้ในกล่องปิดฝาในตู้เย็นช่องธรรมดา 

เนื้อดิบ – อย่าล้างใต้ก๊อกน้ำ!

การล้างเนื้อดิบโดยตรงใต้น้ำ อาจทำให้เชื้อโรคที่อยู่บนผิวเนื้อกระจายไปทั่วครัว ไม่ว่าจะเป็นอ่าง จาน ช้อน หรือแม้กระทั่งเสื้อผ้าของคุณเอง โดยเฉพาะเนื้อไก่ที่อาจมีเชื้อ Campylobacter และ Salmonella ดังนั้นแนะนำให้แช่ในน้ำเย็นเพื่อให้เลือดหรือน้ำคาวออก แล้วล้างภาชนะที่ใช้ทันที พร้อมฆ่าเชื้อบรรดาอุปกรณ์ที่สัมผัสเนื้อดิบทั้งหมดด้วย

สตรอว์เบอร์รี – อย่าดึงขั้วก่อนล้าง!

สตรอว์เบอร์รีมักถูกพ่นด้วยสารเคมี และการ “ดึงขั้วออกก่อนล้าง” จะเปิดทางให้สารเคมีและเชื้อโรคซึมลึกเข้าเนื้อผลไม้ได้ง่าย แถมยังทำให้ผลไม้บอบช้ำอีกด้วย วิธีที่ถูกต้องคือ ล้างทั้งผลโดยไม่ต้องดึงขั้ว ใต้น้ำไหลเบาๆ ประมาณ 30 วินาที หรือจะแช่น้ำเกลือเจือจาง 5 นาที แล้วล้างน้ำเปล่าซ้ำก็ได้

บรอกโคลี (ดอกกะหล่ำ) – ล้างผิดกลายเป็น "บ่มเชื้อ"

บรอกโคลีมีโครงสร้างแน่นและซับซ้อน ทำให้ฝุ่นละออง สารเคมี และแมลงแอบซ่อนอยู่ตามซอกเล็กๆ หากล้างแบบเร็วๆ อาจทำให้สิ่งสกปรกถูกดันลึกเข้าไปอีก แนะนำให้ล้างใต้ก๊อกน้ำโดยคว่ำหัวลงประมาณ 1 นาที จากนั้นแช่ในน้ำผสมเบกกิ้งโซดา 5–10 นาที ก่อนนำไปต้มหรือนึ่งเพื่อฆ่าเชื้ออย่างปลอดภัย

หอย, หอยแมลงภู่, หอยลาย – ล้างเร็วเท่ากับ “ยัดตะกอนเข้าปาก”

หลายบ้านเพียงแค่ล้างหอยผ่านน้ำแล้วใส่หม้อทันที โดยเข้าใจว่าแค่เติมเกลือหรือน้ำส้มสายชูจะช่วยให้สะอาด แต่จริงๆ แล้ว ยังมีทรายและตะกอนในตัวหอย ที่ต้องกำจัดอย่างถูกวิธี ดังนั้นวิธีที่แนะนำคือ แช่ในน้ำเกลือ 1–2 ชั่วโมง โดยอาจเติมน้ำมันพืชหรือพริกสดลงไป เพื่อช่วยกระตุ้นให้หอยคายตะกอน แล้วเขย่าในภาชนะปิดฝาเพื่อขจัดเศษดินที่ติดเปลือก หลังต้มให้เทน้ำแรกทิ้ง เพราะเต็มไปด้วยสิ่งปนเปื้อนจากภายในหอย

อย่าลืมว่า การล้างทำความสะอาดวัตถุดิบอาหาร "ไม่ใช่แค่ให้ดูสะอาด แต่ต้องปลอดภัยจริง" เพราะวิธีล้างที่ผิดไม่เพียงแต่ไม่ช่วยอะไร แต่ยังเพิ่มความเสี่ยงเรื่องเชื้อโรคและสารเคมีอีกด้วย เพียงแค่ปรับพฤติกรรมเล็กน้อย อาจช่วยให้ทั้งบ้านปลอดภัยมากขึ้น!