เนื้อหาในหมวด ข่าว

ดื้อไม่พักฟื้น! ซักผ้า 8 กะละมัง หญิงป่วยซ้ำ \

ดื้อไม่พักฟื้น! ซักผ้า 8 กะละมัง หญิงป่วยซ้ำ "ตับวาย" เกือบตาย แพทย์ย้ำพฤติกรรมเสี่ยง

"หายป่วย" ไม่ได้แปลว่า "หายขาด" หญิงวัย 40 ปีจากจีนล้มป่วยหนักอีกครั้ง หลังซักผ้า 8 กะละมังในวันเดียว ทั้งที่เพิ่งรักษาอาการตับวายจนหาย แพทย์เตือนผู้ป่วยโรคตับต้องระวังการใช้แรงมากเกินไป

นางหลี่ หญิงวัย 40 ปี จากประเทศจีน เป็นผู้ป่วยที่เพิ่งหายจากภาวะตับวาย หลังเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผลการรักษาเป็นไปในทางที่ดี ค่าเอนไซม์ตับกลับมาใกล้เคียงปกติ สุขภาพโดยรวมก็ดีขึ้นจนสามารถกลับบ้านได้

อย่างไรก็ดี แม้แพทย์และทีมพยาบาลจะเน้นย้ำว่าเธอต้องพักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงความเหนื่อยล้า และเข้าตรวจสุขภาพตามกำหนด แต่เมื่อกลับถึงบ้าน นางหลี่เห็นเสื้อผ้ากองโตที่ยังไม่ได้ซัก เธอตัดสินใจ "ลุยงานบ้าน" โดยซักผ้าถึง 8 กะละมังในวันเดียว และยังทำความสะอาดบ้านต่ออีกหลายชั่วโมง

ในคืนนั้น เธอเริ่มรู้สึกคลื่นไส้ และมีอาการตัวเหลืองตาเหลือง จนกระทั่งหมดสติลงบนโซฟา ครอบครัวต้องรีบนำส่งโรงพยาบาลทันที ผลการตรวจเลือดพบว่า ค่าเอนไซม์ตับ (Transaminase) และสารบิลิรูบิน (Bilirubin) พุ่งสูงผิดปกติ แสดงให้เห็นว่าตับของเธอกลับมาอักเสบและเสียหายอีกครั้ง แพทย์ระบุว่า สาเหตุหลักมาจากการทำงานหนักเกินไปทันทีหลังออกจากโรงพยาบาล

แพทย์ผู้ดูแลอธิบายว่า ช่วง 180 วันหลังฟื้นตัวจากภาวะตับวายถือเป็นช่วงเวลาสำคัญ ตับยังไม่สามารถกลับมาทำงานได้เต็มที่ ต้องใส่ใจเรื่องการพักฟื้น จึงจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงการใช้แรงงานหนัก หรือภาวะที่ทำให้ร่างกายเครียดมากเกินไป โดยมีข้อแนะนำหลักในการดูแลสุขภาพผู้ป่วยโรคตับหลังออกจากโรงพยาบาล ดังนี้

  • พักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการนอนดึก ควรนอนให้ได้วันละ 7–8 ชั่วโมง และควรนอนพักกลางวันหากรู้สึกอ่อนเพลีย
  • ออกกำลังกายเบาๆ เน้นกิจกรรมที่ไม่ใช้แรงมาก เช่น เดินเล่น โยคะเบาๆ หลีกเลี่ยงการยกของหนัก หรือทำงานบ้านที่ต้องยืนหรือนั่งงอตัวนานๆ
  • ควบคุมอาหาร เลือกอาหารที่ย่อยง่าย มีคุณค่าทางโภชนาการ เช่น ผัก ผลไม้ เนื้อปลา ไข่ขาว เต้าหู้ และหลีกเลี่ยงอาหารมัน ของทอด เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และบุหรี่
  • ดูแลสุขภาพจิต ควรผ่อนคลายความเครียด หลีกเลี่ยงความวิตกกังวลเกินเหตุ อาจใช้วิธีฟังเพลง อ่านหนังสือ หรือพูดคุยกับคนรอบข้างเพื่อคลายความเครียด
  • รับประทานยาตามแพทย์สั่ง ห้ามหยุดยาเองหรือลดปริมาณโดยไม่ปรึกษาแพทย์ และควรตรวจสุขภาพเป็นระยะเพื่อติดตามสภาพของตับ
  • กรณีของนางหลี่ เป็นบทเรียนสำคัญสำหรับผู้ป่วยที่หายจากโรคตับว่า "หายแล้ว ไม่ใช่หายขาดทันที" การฝืนทำงานหนักอาจนำไปสู่ภาวะตับวายซ้ำได้ เพื่อการฟื้นตัวที่สมบูรณ์ การพักผ่อนอย่างเพียงพอ การควบคุมอาหาร และการติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง เป็นสิ่งจำเป็นยิ่ง อย่ามองข้ามคำแนะนำทางการแพทย์ เพราะความประมาทแม้เพียงเล็กน้อย อาจส่งผลเสียอย่างร้ายแรงต่อสุขภาพระยะยาว