.jpg)
เปิดจดหมายรักหลอนลึก จากลายมือ "ฆาตกรที่อันตรายที่สุด" ถึงแฟนสาวที่ไม่เคยเจอ
รักต้องห้ามข้ามกำแพงเหล็ก! เปิดจดหมายรักสะเทือนใจจาก "อาชญากรอันตรายที่สุดในอังกฤษ" ถึงหญิงสาวที่ไม่เคยพบหน้า
สื่ออังกฤษเผยเรื่องราวสะเทือนใจจากเรือนจำความมั่นคงสูงสุด "Monster Mansion" เมื่อ "โรเบิร์ต ม็อดสลีย์" (Robert Maudsley) ฆาตกรต่อเนื่องวัย 71 ปี ซึ่งถูกขนานนามว่าเป็นนักโทษอันตรายที่สุดของอังกฤษ ได้เขียนจดหมายรักอย่างอ่อนโยนถึงหญิงคนรักที่ไม่เคยพบเจอกันมาก่อนตลอด 5 ปีที่ผ่านมา
ม็อดสลีย์ซึ่งกำลังรับโทษจำคุกตลอดชีวิตภายใต้การควบคุมสูงสุด เคยก่อเหตุฆาตกรรมมาแล้ว 4 ราย โดย 3 รายเกิดขึ้นในเรือนจำ ทำให้เขาถูกควบคุมตัวในห้องขังพิเศษที่มีขนาดเพียง 14x18 ฟุต ล้อมรอบด้วยกระจกกันกระสุนใต้ชั้นใต้ดินของเรือนจำ HMP Wakefield ที่ขึ้นชื่อว่ากักขังเฉพาะอาชญากรโหดร้ายที่สุดของอังกฤษ
แม้จะมีประวัติอาชญากรรมสุดโหดจนถูกขนานนามว่า “ฮัลนิบาล ผู้กินคน แห่งอังกฤษ” (แม้ว่าการชันสูตรจะไม่พบร่องรอยการกินมนุษย์) แต่ม็อดสลีย์กลับมีอีกมุมหนึ่งที่น้อยคนนักจะได้เห็น มุมที่อ่อนโยนผ่านถ้อยคำในจดหมายถึงหญิงสาวชื่อ "เลิฟวีนเนีย แม็คเค็นนี่" (Loveinia MacKenney) คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ตกหลุมรักเขาหลังชมสารคดี Killer in the Family
ทั้งสองเริ่มติดต่อกันผ่านจดหมายโดยไม่เคยพบหน้าหรือแม้แต่ได้คุยกันผ่านวิดีโอคอล ตลอดระยะเวลากว่า 5 ปีที่ผ่านมา เลิฟวีนเนียเผยว่า เธอมองเห็นด้านที่ถูกลืมของม็อดสลีย์ และเชื่อว่าการกักขังเดี่ยวเกือบครึ่งศตวรรษนั้น "ไม่ใช่ความยุติธรรม แต่คือการทรมาน"
ในจดหมายที่เขียนด้วยลายมือและเปี่ยมด้วยความรู้สึกม็อดสลีย์ เขียนว่า “เลิฟวีนเนียคนสวยของผม ความรักและความเมตตาที่คุณมอบให้ผมตลอดหลายปีที่ผ่านมา ได้ช่วยให้ผมมีชีวิตอยู่ต่อไป.... เมื่อเรารับความรักมากขึ้นในชีวิต สิ่งเลวร้ายก็จะจางหายไป”
อย่างไรก็ดี แม้จะมีความรักมอบให้กันลึกซึ้ง แต่เลิฟวีนเนียก็ยังคงมีสติและความเข้าใจในความเป็นจริง โดยเขาเคยบอกให้เธอ “หาผู้ชายที่สามารถอยู่เคียงข้างเธอได้จริงๆ ในโลกภายนอก”
ย้อนรอยม็อดสลีย์ ฆาตกรผู้เคย “เดินเข้าไปสารภาพเอง”
ย้อนกลับไปในปี 1974 ม็อดสลีย์ก่อเหตุฆาตกรรมครั้งแรกกับชายชื่อ "จอน แฟเรล" (John Farrell) ก่อนจะเดินเข้าไปมอบตัวกับตำรวจ และถูกส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลจิตเวช Broadmoor ซึ่งต่อมาเขาได้สังหารผู้ต้องขังอีกคนด้วยการทรมานจนเสียชีวิต เขาถูกตัดสินว่า “มีความผิดฐานฆ่าคนโดยไม่เจตนา” และถูกย้ายไปที่เรือนจำ Wakefield
แต่ในปี 1978 เขากลับก่อเหตุสะเทือนขวัญอีกครั้ง ด้วยการฆ่าเพื่อนร่วมห้องขังสองคนภายในวันเดียวกัน ใช้ช้อนที่ลับจนแหลมแทงเหยื่อ และใช้กำลังทุบศีรษะอีกคนจนเสียชีวิต แล้วเดินเข้าห้องเจ้าหน้าที่พร้อมพูดอย่างเย็นชา “วันนี้คุณจะขาดคนตอนเช็คชื่อสองคน” เหตุการณ์นั้นทำให้เขาถูกจัดให้อยู่ในการคุมขังเดี่ยว 23 ชั่วโมงต่อวัน และปัจจุบันถูกย้ายไปเรือนจำ HMP Whitemoor ในเขตกักกันสำหรับผู้ป่วยจิตเวชขั้นรุนแรง
แม้ต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมสุดทรมาน ม็อดสลีย์ และเลิฟวีนเนีย ยังคงเชื่อมโยงกันผ่านเสียงเพลง โดยมีสองบทเพลงที่พวกเขารักร่วมกัน คือ Someday We'll Be Together ของ Diana Ross และ Catch the Wind ของ Donovan โดยฝ่ายหญิงยืนกรานว่า ม็อดสลีย์ไม่ใช่ “คนกินคน” ตามภาพจำของสังคม แต่เป็นชายผู้ถูกบอบช้ำจากวัยเด็กและเลือกจะฆ่าคนที่เขาเชื่อว่าเป็นภัยต่อเด็กเท่านั้น
“เขาไม่ใช่คนเลว คนแบบเขาไม่ได้ต้องการการลงโทษ แต่ต้องการความรัก และนั่นคือสิ่งที่ฉันมอบให้เขา” เลิฟวีนเนียกล่าว อย่างไรก็ตาม ความกังวลของเธอยังไม่สิ้นสุด เมื่อมีข่าวว่าม็อดสลีย์อาจถูกย้ายไปอยู่ร่วมกับนักโทษรายอื่น ซึ่งอาจเสี่ยงต่อความปลอดภัยของตัวเขาเอง
- เอ๊า!!! ขับแท็กซี่อยู่ดีๆ ตร.โทรมาบอก "ผู้โดยสารเป็นฆาตกร" กลัวแต่ตีเนียน ใช้วิธีนี้ส่งเข้าคุก
- จากเจ้าแม่ TikTok สาวกติดตามนับแสน สู่ฆาตกรสุดเหี้ยม 2 ศพ กำจัดชู้วัย 21 ปีของแม่