.jpg)
รู้หรือไม่? "คันหู" อาจเป็นสัญญาณโรครักษาไม่หาย หมอเตือนวิธีใช้ "คัตเตอร์บัต" เสี่ยงหูพัง!
อาการ "หูคัน" อาจเป็นสัญญาณเตือนโรคเรื้อรังที่รักษาไม่หาย แพทย์เตือนใช้ "คัตเตอร์บัต" ทำความสะอาด หรือแก้คันเอง
แพทย์เวชปฏิบัติทั่วไปในอังกฤษออกมาเตือนว่า อาการหูคันอาจเป็นสัญญาณของโรคผิวหนังเรื้อรังชนิดหนึ่ง ที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ พร้อมแนะนำวิธีดูแลหูอย่างถูกต้อง หลีกเลี่ยงการใช้สำลีก้านแคะหู ซึ่งอาจก่อให้เกิดการติดเชื้อหรือกระทบกระเทือนภายในหู
ดร. สเตฟานี อูอี (Dr. Stephanie Ooi) แพทย์จากคลินิก My Healthcare Clinic และผู้ให้ความรู้ด้านสุขภาพผ่านโซเชียลมีเดีย ได้อธิบายผ่านวิดีโอบนอินสตราแกรม @Drstephanieooi ว่าการใช้สำลีก้านทำความสะอาดหูอาจทำให้ขี้หูถูกดันลึกเข้าไปในช่องหู ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการระคายเคือง การติดเชื้อ หรือแม้แต่บาดเจ็บต่อแก้วหู
“ขี้หูเล็กน้อยนั้นถือว่าเป็นเรื่องปกติ และยังมีหน้าที่ในการปกป้องช่องหู” ดร. สเตฟานีกล่าว “หากคุณมีแนวโน้มที่จะมีขี้หูสะสม แนะนำให้ใช้น้ำมันมะกอกหยดหูเป็นประจำ เพื่อช่วยให้นุ่มและหลุดออกได้เองตามธรรมชาติ หรืออาจพิจารณาการทำ ‘ไมโครซักชัน’ ซึ่งเป็นวิธีดูดขี้หูออกด้วยอุปกรณ์พิเศษที่คล้ายเครื่องดูดฝุ่นขนาดเล็ก”
ทั้งนี้ แม้การรักษาดังกล่าวอาจไม่มีให้บริการฟรีในระบบ NHS (ระบบสุขภาพแห่งชาติของสหราชอาณาจักร) ทุกแห่ง แต่ผู้ป่วยสามารถสอบถามแพทย์ประจำตัวเพื่อขอคำแนะนำได้ บางคลินิกอาจมีการล้างหูด้วยน้ำหรือขูดขี้หูออกด้วยเครื่องมือเฉพาะ
นอกจากนี้ ดร. สเตฟานี ยังกล่าวถึงอีกหนึ่งปัญหาที่พบได้บ่อยในคนไข้ คืออาการ "คันหู" ซึ่งหลายคนมักจะแคะหูเพื่อบรรเทาอาการ แต่กลับอาจทำให้แย่ลง “อาการคันในหูร่วมกับผิวลอก อาจเป็นอาการของ ‘โรคหูเอ็กซีมา’ (Ear Eczema) ซึ่งเป็นโรคผิวหนังชนิดเดียวกับที่พบตามร่างกาย แต่เกิดขึ้นภายในช่องหู” เธออธิบาย
ข้อมูลจาก Cleveland Clinic ระบุว่าโรคหูเอ็กซีมาไม่ใช่โรคติดต่อ แต่อาจเกิดได้บ่อยในผู้ที่มีประวัติภูมิแพ้ หอบหืด หรือโรคผิวหนังเรื้อรังในครอบครัว โดยแพทย์จะตรวจวินิจฉัยจากลักษณะผิวในและรอบๆ หู เช่น ความแห้ง ผิวลอก หรือการเปลี่ยนสี พร้อมตรวจดูภายในหูด้วยอุปกรณ์ส่องแสง ซึ่งยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถควบคุมอาการได้ด้วยยาและการดูแลที่เหมาะสม
ดังนั้น หากคุณมีอาการคันหู หรือรู้สึกไม่สบายหูบ่อยครั้ง ควรเข้าพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม อย่าแคะหูด้วยตนเองเด็ดขาด เพราะอาจเสี่ยงทำให้ปัญหารุนแรงขึ้น
- ด.ช. 9 ขวบ มีนิ่วในท้อง 56 ก้อน หมอเผยต้นเหตุทำแม่ทรุด ที่แท้คือสิ่งที่ให้ลูกกินทุกวัน
- รู้ไว้ดีกว่า! สัญญาณเตือน "โรคสมองเสื่อม" ที่รู้ได้ขณะเดินขึ้นบันได สำคัญมากแต่คนไม่ค่อยรู้