สาววัย 19 โพสต์รูปร้องไห้ แต่ "สวยเกินไป" จนถูกเอารูปไปใช้โฆษณา "ของไม่ดี"

สวยจนเป็นภัย! สาววัย 19 น้ำตาไหลกลายเป็น "พรีเซนเตอร์ยาปลุกเซ็กซ์" โดยไม่รู้ตัว

เรื่องราวสุดสะเทือนใจของสาวน้อยวัย 19 จากเมืองฮาร์บิน มณฑลเฮย์หลงเจียง ประเทศจีน กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ เมื่อภาพถ่ายเซลฟี่ของเธอขณะร้องไห้ถูกนำไปใช้โฆษณาสินค้าทางเพศ โดยที่เธอไม่เคยอนุญาตหรือรับรู้มาก่อน

เธอใช้ชื่อในโลกออนไลน์ว่า “เสี่ยวเหลียงต้าหวาง” ได้โพสต์ภาพเซลฟี่ขณะร้องไห้ลงบนโซเชียลเมื่อกว่า 2 ปีก่อน เพื่อแสดงความรู้สึกซาบซึ้งหลังอ่านนิยายเรื่องหนึ่ง แต่ใครจะคิดว่า "ภาพร้องไห้ที่สวยเกินไป" ของเธอจะกลายเป็นฝันร้ายที่ยังไม่จบมาจนถึงวันนี้

ภาพร้องไห้กลายเป็นโฆษณา "ยาปลุกเซ็กซ์"

ไม่นานหลังจากโพสต์ ภาพของเธอถูกนำไปใช้โดยเว็บไซต์ลามกและบริษัทผลิตยาปลุกอารมณ์หลายแห่ง โดยเฉพาะภาพที่ถูกนำไปใช้ในโฆษณายี่ห้อหนึ่ง ซึ่งใส่คำโปรยอย่างโจ่งแจ้ง เช่น “เข็มปลุกอารมณ์” หรือ “ยาปลุกเซ็กซ์สำหรับผู้ชาย” โดยมีใบหน้าของเธอปรากฏอยู่ข้างผลิตภัณฑ์เหล่านั้น

ครู เพื่อน และญาติพี่น้องก็เห็นหมด

ไม่ใช่แค่เพื่อน แต่แม้แต่ครู อาจารย์ และคนในครอบครัวก็เห็นโฆษณาที่มีใบหน้าของเธอ เธอกลายเป็นเป้าสายตาและคำพูดของคนแปลกหน้าที่ไม่เข้าใจว่าเธอไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์เหล่านั้นเลย

พยายามร้องเรียน แต่กลับต้องมี “ผู้ติดตาม 10,000 คน” ถึงจะได้รับการปกป้อง

เสี่ยวเหลียงเล่าว่า เธอเคยพยายามร้องเรียนหลายครั้ง แต่กลับได้รับคำตอบจากแพลตฟอร์มว่า เธอจำเป็นต้องมีผู้ติดตามอย่างน้อย 10,000 คน จึงจะสามารถร้องขอให้ลบภาพหรือคุ้มครองสิทธิ์ส่วนตัวได้ ทำให้ตลอด 2 ปีที่ผ่านมาเธอแทบไม่สามารถแก้ไขหรือปกป้องตัวเองได้เลย

น้ำเสียงสะอื้น: “เหมือนถูกข่มขืนทางสายตา”

“ฉันรู้สึกเหมือนโดนข่มขืนทางสายตา” เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือในการให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่น พร้อมวิงวอนให้ผู้คนในสังคมหยุดโยนความผิดให้เหยื่อ และเข้าใจว่านี่คือการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลอย่างร้ายแรง

“ภาพนั้นเป็นเพียงภาพธรรมดาๆ ที่แสดงความรู้สึก...แต่กลับถูกตีความและใช้ในทางลามก ทั้งที่ฉันไม่ได้แต่งตัวโป๊ หรือโพสท่าเย้ายวนอะไรเลย” เธอกล่าวอย่างเจ็บปวด

สะท้อนปัญหาการคุ้มครองสิทธิ์ในโลกออนไลน์

กรณีนี้สะท้อนปัญหาสำคัญในยุคดิจิทัล ที่ภาพถ่ายของบุคคลสามารถถูกละเมิดและนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเฉพาะในประเทศที่ยังขาดระบบการคุ้มครองสิทธิส่วนบุคคลที่มีประสิทธิภาพ แสดงให้เห็นถึงความจำเป็นในการผลักดันกฎหมายและกลไกคุ้มครองผู้ใช้งานให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น

ขณะเดียวกัน เหตุการณ์นี้ยังเป็นบทเรียนสำคัญว่า “ความสวย” ในโลกออนไลน์ อาจกลายเป็นช่องทางให้ผู้ไม่หวังดีฉวยโอกาสละเมิดสิทธิ์ได้อย่างน่ากลัวโดยไม่ต้องรับผิดชอบใดๆ