
ดีลใหญ่สุดในปวศ.! "ทรัมป์" ขายอาวุธให้ซาอุดีอาระเบีย 4.8 ล้านล้านบาท
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เดินหน้าภารกิจเยือนตะวันออกกลาง ซึ่งนับเป็นการเยือนต่างประเทศครั้งแรกของเขาหลังเข้ารับตำแหน่งสมัยที่สอง โดยเลือก ซาอุดีอาระเบีย เป็นจุดหมายปลายทางแรก เช่นเดียวกับช่วงเริ่มต้นวาระแรกของเขา
ในการเยือนกรุงริยาด วันแรก ทรัมป์ ได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือทางเศรษฐกิจมูลค่ากว่า 600,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 20 ล้านล้านบาท โดยหนึ่งในไฮไลต์สำคัญ คือ ข้อตกลงขายอาวุธมูลค่า 142,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 4.8 ล้านล้านบาท) ซึ่งครอบคลุมระบบป้องกันภัยทางอากาศ เทคโนโลยีการทหารทางอากาศ อวกาศ ความมั่นคงทางทะเล และระบบสื่อสาร โดยร่วมมือกับบริษัทด้านกลาโหมชั้นนำของสหรัฐฯทำเนียบขาวแถลงว่า ข้อตกลงนี้ถือเป็นข้อตกลงด้านกลาโหมที่มีมูลค่าสูงสุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ สะท้อนถึงความตั้งใจในการกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างสองประเทศ
ระหว่างการพบปะกับผู้นำซาอุฯ ทรัมป์ กล่าวสุนทรพจน์แสดงความปรารถนาให้ซาอุดีอาระเบียเข้าร่วม "ข้อตกลงอับราฮัม (Abraham Accords)" ซึ่งริเริ่มในช่วงที่เขาดำรงตำแหน่งสมัยแรก เพื่อสร้างความร่วมมือระหว่างอิสราเอลกับประเทศอาหรับบางชาติ
อย่างไรก็ตาม มกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ยืนยันว่า ซาอุฯ จะไม่เข้าร่วมข้อตกลงดังกล่าว จนกว่าสงครามในฉนวนกาซาจะยุติลงอย่างถาวร และมีแนวทางชัดเจนในการจัดตั้งรัฐปาเลสไตน์ทรัมป์ กล่าวถึงสถานการณ์ในกาซาเพียงสั้นๆ โดยระบุว่า "ประชาชนในกาซาสมควรได้รับอนาคตที่ดีกว่า" แต่ก็กล่าวโทษกลุ่มฮามาสว่าเป็นอุปสรรค ด้วยพฤติกรรมลักพาตัว ทรมาน และโจมตีเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง
อีกหนึ่งประเด็นสำคัญคือ การที่ ทรัมป์ ประกาศแผนยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรซีเรีย ตามคำร้องขอของ เจ้าชายโมฮัมเหม็ด เพื่อสนับสนุนรัฐบาลใหม่ของซีเรียให้มีสถานะที่ดีขึ้นในเวทีโลก
ทั้งนี้ ซาอุดีอาระเบียถือเป็นหนึ่งในลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของอุตสาหกรรมอาวุธสหรัฐฯ โดยเมื่อปี 2017 ทรัมป์ เคยประกาศดีลขายอาวุธมูลค่า 110,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3.7 ล้านล้านบาท) แต่ท้ายที่สุดมีการส่งมอบจริงเพียงราว 500,000 ล้านบาท ก่อนจะเผชิญแรงกดดันจากสภาคองเกรสภายหลังเหตุการณ์สังหาร จามาล คาช็อกกี นักข่าวชื่อดังผู้วิจารณ์รัฐบาลซาอุฯ