เนื้อหาในหมวด ข่าว

เปิดตำนาน 4 ความงามขั้นสุด \

เปิดตำนาน 4 ความงามขั้นสุด "สายลับสาว" ผู้พลิกชาติเวียดนาม หนึ่งในนั้นเป็นถึงเจ้าหญิง!

เปิดตำนาน สวย-สง่า-กล้าหาญ  เรื่องจริงของ 4 สายลับหญิงเวียดนาม ผู้เปลี่ยนหน้าประวัติศาสตร์ ด้วยความงามและมันสมอง

ในสงคราม เวียดนามไม่ได้มีเพียงเสียงปืนและการต่อสู้ของชายชาติทหาร แต่ยังมี "แนวหน้าเงียบ" ที่ดำเนินภารกิจเสี่ยงตายอยู่ในเงามืดอย่างไม่เป็นที่รู้จัก พวกเธอคือสายลับหญิง ผู้ใช้ความเฉลียวฉลาด ความกล้าหาญ และแม้กระทั่ง "ความงาม" เป็นอาวุธในการแทรกซึม เข้าถึงข้อมูลลับ และทำให้ข้าศึกต้องหวาดหวั่น

บทความนี้จะพาคุณไปรู้จัก 4 หญิงแกร่งแห่งโลกข่าวกรองเวียดนาม ผู้มีบทบาทสำคัญใน สงครามเวียดนาม (1955–1975) พวกเธอคือบุคคลที่ประวัติศาสตร์ไม่เคยลืม ไม่ใช่เพียงเพราะภารกิจที่ทำสำเร็จ แต่เพราะพวกเธอได้เปลี่ยนภาพจำของคำว่า “สายลับ” ไปตลอดกาล

“ต๊าม เทา” จากลูกสาวเจ้าของร้านผ้า สู่สายลับระดับสูง

เหงียน ถิ มี้ ญุง (Nguyễn Thị Mỹ Nhung) หรือที่รู้จักในนาม ต๊าม เทา (Tám Thảo) เกิดเมื่อปี 1932 ในครอบครัวมั่งคั่งที่ค้าขายผ้าไหมในไซง่อน แต่เลือกเดินเส้นทางปฏิวัติตั้งแต่อายุยังน้อย อายุ 16 ปี เริ่มงานขนส่งลับพาคนข้ามแม่น้ำ โดยหนึ่งในผู้โดยสารประจำคือนาย ฟาม ง็อก เทา (Phạm Ngọc Thảo) นักสืบในตำนาน

ในปี 1950 เธอได้รับภารกิจกลับเข้าไซง่อน ทำหน้าที่สายส่งในเมือง และในปี 1966 เข้าไปเป็นล่ามในหน่วยงานรัฐบาลเวียดนามใต้ ใช้ตัวตนนี้แฝงตัวเก็บข้อมูลลับให้กับฝ่ายปฏิวัติ กระทั่งภายหลังสงคราม เธอได้ทำงานในสำนักงานวัฒนธรรมและข้อมูลเมืองหลวง (ปัจจุบันคือโฮจิมินห์ซิตี้) และเกษียณในปี 2002 ใช้ชีวิตอย่างเงียบสงบกับครอบครัวจนถึงบั้นปลาย

ลาม ถิ เฝิ่น – “เทพีตะวันออก” แห่งสายลับตะวันตก

ลาม ถิ เฝิ่น (Lâm Thị Phấn)  เกิดปี 1918 ที่เมืองเกิ่นเทอ ในครอบครัวเจ้าที่ดินและเจ้าของโรงเรียนชื่อดัง ด้วยความสวยโดดเด่นและความรู้สูง เธอจึงได้รับฉายา “คนสวยแห่งเตย์โด” ในวัย 17 เธอแต่งงานกับเครือญาติของ คงตรึ๋งฮุย (Trần Trinh Huy) หรือ “เจ้าชายแห่งบั๊กลีเยิว” กระทั่งปี 1944 ตัดสินใจละทิ้งครอบครัว ร่วมจัดตั้งกลุ่มสตรีปฏิวัติในจังหวัดบั๊กลีเยิว และเข้าพรรคคอมมิวนิสต์ในปี 1950 

เธอใช้ชีวิตด้วยความมุ่งมั่นในอุดมการอันแรงกล้า ก่อนกลับมาทำงานข่าวกรองในเกิ่นเทอ และได้รับตำแหน่งหัวหน้าหน่วยข่าวกรองภาคตะวันตก ต่อมาในปี 1954 เดินทางไปฮานอย เรียนเศรษฐศาสตร์และฝึกข่าวกรองในโซเวียต ก่อนกลับมาปฏิบัติภารกิจระดับสูงในไซง่อนปี 1962 ท้ายที่สุดตัดสินใจเกษียณในปี 1984 และเสียชีวิตปี 2010 ขณะที่อายุ 92 ปี

ลาม ถิ เผ็ด  – ผู้ปิดทองหลังพระแห่งหน่วยข่าวกรอง

ลาม ถิ เผ็ด (Lâm Thị Phết) คือน้องสาวของลาม ถิ เฝิ่น ผู้เกิดในปี 1923 และมีบทบาทเบื้องหลังอย่างมากในพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะเขตข่าวกรอง “เขต 9” โดยร่วมปฏิบัติภารกิจเป็นล่ามกับเจ้าหน้าที่ฝรั่งเศส เพื่อสกัดข้อมูลลับ ช่วยฝึกและสร้างเครือข่ายสายลับในพื้นที่ที่ถูกครอบครอง

ในปี 1950 เธอถูกส่งเข้าไปทำภารกิจในไซง่อน โดยรับหน้าที่เป็นผู้ติดต่อและดูแลกล่องจดหมายลับของหน่วยข่าวกรอง. หลังจากนั้น เธอย้ายออกจากไซง่อนไประยะหนึ่ง ก่อนจะกลับมาอีกครั้งในปี 1963 เพื่อร่วมวางแผนและปฏิบัติภารกิจข่าวกรองอย่างเข้มข้นในพื้นที่ศัตรู ตามประวัติพบว่าเธอเสียชีวิตปี 2014 ขณะที่อายุ 91 ปี และปัจจุบันหลุมศพตั้งอยู่ที่บ้านเกิดในเกิ่นเทอ

ดั่ง หว่าง อั๊ง – เจ้าหญิงสายลับจากราชวงศ์เวียดนาม

ดั่ง หว่าง อั๊ง (Đặng Hoàng Ánh)  หรือ เหงียน ฟุ๊ก ง็อก ดิ๊บ (Nguyễn Phúc Ngọc Diệp) เกิดเมื่อปี 1932 ในตระกูลขุนนางสูงศักดิ์ เป็นเชื้อพระวงศ์ของราชวงศ์เหงียน มีสายสัมพันธ์กับจักรพรรดิบ๋าว ดั่ย และพระราชมารดาตือซู (Thái hậu Từ Dũ) โดยเธอเข้าร่วมขบวนการปฏิวัติเมื่ออายุ 11 ปี หลังครอบครัวถูกสังหารในช่วงสงคราม 

เธอเลือกปฏิบัติภารกิจในหน่วยกล้าตายและหน่วยลับในไซง่อน ซึ่งต้องเปลี่ยนชื่อและตัวตนตลอดเวลา และได้ร่วมในเหตุการณ์สำคัญต่างๆ เช่น การบุกสถานทูตสหรัฐฯ ปี 1965 และเหตุระเบิดโรงภาพยนตร์ดาลัดปี 1969 กระทั่งหลังสงครามจึงเปลี่ยนชื่อเป็น ดั่ง หว่าง อั๊ง ตามคำแนะนำของนักข่าวกรองชื่อดัง หวู ง็อก ญา (Vũ Ngọc Nhạ) ได้รับเกียรติเป็นตัวแทนประวัติศาสตร์ในหลายงานสำคัญ และเคยพบกับประธานาธิบดีโฮจิมินห์ด้วย สุดท้ายเสียชีวิตในปี 2018 ขณะที่อายุ 86 ปี

หญิงสาวนักสืบเหล่านี้ไม่เพียงเป็นเสาหลักของงานข่าวกรองเวียดนาม แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงบทบาทสำคัญของผู้หญิงในประวัติศาสตร์การปฏิวัติ พวกเธอผสมผสาน “ความงาม” เข้ากับ “มันสมอง” และ “หัวใจกล้า” จนกลายเป็นตำนานที่ยังคงถูกเล่าขานมาจนถึงทุกวันนี้