เนื้อหาในหมวด ข่าว

\

"สายฉีดก้น" มีใช้แค่ในไทยจริงหรือ? แล้วใครเป็นผู้คิดค้นคนแรก?

สายฉีดชำระ (สายฉีดก้น) มีใช้แค่ในไทยจริงหรือ? แล้วใครเป็นผู้คิดค้นคนแรก?

สายฉีดชำระ หรือที่บางคนเรียกติดตลกว่าสายฉีดก้น ไม่ได้เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ใช้เฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น แต่มีการใช้อย่างแพร่หลายในหลายประเทศ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียและตะวันออกกลาง เช่น อินเดีย ศรีลังกา เวียดนาม ฟิลิปปินส์ กัมพูชา จีน รวมถึงบางประเทศในแอฟริกาเหนือ ที่น่าสนใจคือ ต้นกำเนิดของอุปกรณ์ชำระล้างชนิดนี้มีความเกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมของชาวมุสลิม ซึ่งเน้นการทำความสะอาดร่างกายด้วยน้ำหลังการขับถ่าย

ต้นกำเนิดของสายฉีดชำระมาจากไหน?

แนวคิดการใช้น้ำเพื่อชำระล้างหลังขับถ่ายมีรากฐานมาจากหลักคำสอนของศาสนาอิสลาม ที่เน้นเรื่องความสะอาดและความบริสุทธิ์ของร่างกาย ชาวมุสลิมในเอเชียกลางและอินเดียจึงคิดค้นอุปกรณ์ที่เรียกว่า Shattaf หรือสายฉีดน้ำ เพื่อใช้งานในชีวิตประจำวัน ซึ่งเหมาะกับภูมิอากาศร้อนและลักษณะการแต่งกายของพวกเขา

ในขณะที่ฝั่งยุโรป โดยเฉพาะในฝรั่งเศสตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 เริ่มใช้สุขภัณฑ์ที่ชื่อว่า บิเด (Bidet) ซึ่งเป็นอ่างสำหรับล้างก้นหลังขับถ่ายเช่นกัน แม้ว่าวิธีใช้งานจะแตกต่างจากสายฉีดชำระ แต่ก็มีจุดประสงค์เดียวกัน นั่นคือ การรักษาความสะอาดหลังเข้าห้องน้ำ

แล้วสายฉีดชำระในไทยล่ะ ใครเป็นคนคิด?

แม้สายฉีดชำระจะไม่ใช่สิ่งประดิษฐ์ที่ไทยคิดค้นขึ้นคนแรก แต่ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในประเทศที่ พัฒนาและทำให้สายฉีดชำระกลายเป็นของใช้ประจำบ้าน อย่างแพร่หลาย โดยเริ่มต้นในปี พ.ศ. 2515 จากการผลิตของ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ณรงค์ โลหะกิจ (ปัจจุบันคือแบรนด์ HANG) โดยคุณณรงค์ กูลมงคลรัตน์ เป็นผู้บุกเบิกตลาดสายฉีดชำระในเชิงพาณิชย์

จากนั้นเป็นต้นมา สายฉีดชำระก็กลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในห้องน้ำไทย และยังได้รับเสียงชื่นชมจากชาวต่างชาติที่มาเยือนไทยจำนวนมาก ว่าเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่สะดวกและช่วยรักษาความสะอาดได้อย่างยอดเยี่ยม

สายฉีดชำระกับบิเด ต่างกันอย่างไร?

ทั้งสายฉีดชำระและบิเดมีเป้าหมายเดียวกันคือการทำความสะอาดร่างกายด้วยน้ำหลังขับถ่าย แต่ต่างกันในรูปแบบการใช้งาน โดย:

  • สายฉีดชำระ: ใช้งานง่าย ติดตั้งกับผนังห้องน้ำ ราคาถูก และเหมาะกับพื้นที่จำกัด
  • บิเด: เป็นสุขภัณฑ์แยกต่างหาก ต้องมีพื้นที่และงบประมาณมากขึ้น มักพบในยุโรป

ความแตกต่างนี้สะท้อนถึงวัฒนธรรมและความเชื่อของแต่ละพื้นที่ เช่น ชาวมุสลิมใช้สายฉีดเพื่อรักษาความบริสุทธิ์ตามหลักศาสนา ส่วนในยุโรปใช้บิเดเพื่อสุขอนามัยส่วนบุคคล

สรุป

สายฉีดชำระไม่ได้มีใช้เฉพาะในไทย และไม่ใช่สิ่งที่ไทยเป็นผู้คิดค้นคนแรก แต่ไทยเป็นประเทศที่พัฒนาอุปกรณ์นี้จนกลายเป็นของใช้จำเป็นในครัวเรือน และได้รับความนิยมแพร่หลาย จุดเริ่มต้นของสายฉีดชำระมาจากวัฒนธรรมชาวมุสลิมในเอเชียกลางและอินเดีย ส่วนในยุโรปก็มีการพัฒนาอุปกรณ์เพื่อวัตถุประสงค์เดียวกัน คือการล้างหลังขับถ่าย เพียงแต่แตกต่างกันในรูปแบบ

สายฉีดชำระ จึงไม่ใช่แค่ของใช้ แต่เป็นภาพสะท้อนของวัฒนธรรม สุขอนามัย และวิถีชีวิตที่หลากหลายของมนุษย์ทั่วโลก

แหล่งอ้างอิง