เนื้อหาในหมวด ข่าว

ประวัติ ดีเจเตเต้ วราพงษ์ เป็นใคร ทำไมจึงเป็นเหยื่อฆาตกรรมโหด ของเจ้าพ่อใหญ่เมืองกาญจน์

ประวัติ ดีเจเตเต้ วราพงษ์ เป็นใคร ทำไมจึงเป็นเหยื่อฆาตกรรมโหด ของเจ้าพ่อใหญ่เมืองกาญจน์

ประวัติ “ดีเจเตเต้” ก่อนพบเป็นศพกลางป่ากาญจนบุรี ปมรักสามเส้าพัวพันแก๊งค้ายา

จากดีเจผู้อารมณ์ดีในผับกาญจนบุรี สู่การเป็นศพกลางป่าลึก คดีสะเทือนขวัญ “ดีเจเตเต้” หรือ นายวราพงษ์ ขุนศรีจตุรงค์ วัย 33 ปี กลายเป็นข่าวใหญ่ที่สังคมจับตามอง หลังถูกลักพาตัวอย่างอุกอาจและถูกฆาตกรรมโหด เหตุเกิดขึ้นเมื่อกลางดึกวันที่ 14 พฤษภาคม 2568 ขณะเขากำลังเดินทางกลับบ้านหลังเลิกงาน

วินาทีมรณะ: กล้องวงจรปิดจับภาพก่อนหายตัว

ช่วงเวลาประมาณ 03.53 น. ของคืนเกิดเหตุ กล้องวงจรปิดหน้าผับแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรีสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ระทึกไว้ได้ชัดเจน — รถกระบะสีขาวและรถเก๋งสีดำขับมาประกบรถของดีเจเตเต้ ก่อนที่กลุ่มชายฉกรรจ์จะลงมาลากตัวเขาขึ้นรถแล้วขับหายไปอย่างไร้ร่องรอย ท่ามกลางความตกใจของผู้พบเห็น

พบศพกลางป่าลาดหญ้า: ผูกมือ-ยิงหัว 2 นัด

ผ่านไป 4 วัน ในวันที่ 18 พฤษภาคม 2568 ตำรวจพบร่างของดีเจเตเต้ในป่าลึกใกล้หมู่บ้านทุ่งนานางหรอก ตำบลลาดหญ้า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี สภาพศพเริ่มบวมอืด มีกลิ่นเน่าโชยแรง มือถูกมัดไพล่หลังด้วยเชือกไนล่อนสีเขียว และที่ศีรษะมีบาดแผลจากกระสุนปืนถึง 2 นัด เป็นภาพที่สะเทือนใจผู้พบเห็นอย่างยิ่ง

เบื้องหลังโศกนาฏกรรม: ปมรักซ้อนพัวพัน “แฟนสาวเจ้าพ่อยา”

จากการสอบสวน ตำรวจให้น้ำหนักไปที่ประเด็น “รักต้องห้าม” เมื่อแฟนสาวของดีเจเตเต้เปิดเผยว่า ผู้ตายเคยมีความสัมพันธ์กับหญิงสาวชื่อ “น้ำ” ซึ่งเป็นคนสนิทของนักค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ แม้จะมีการเตือนและห้ามปรามหลายครั้ง แต่ดีเจเตเต้ยืนกรานว่าได้ยุติความสัมพันธ์กับน้ำไปแล้ว ทว่าทุกอย่างดูจะสายเกินไป

ศาลออกหมายจับ 4 มือปืน ล่าต่ออีก 3 ราย

ความคืบหน้าล่าสุด ศาลจังหวัดกาญจนบุรี ได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาแล้ว 4 ราย ในข้อหาหนักหลายกระทง ได้แก่:

  • ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
  • ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ
  • ร่วมกันลักทรัพย์
  • พกพาอาวุธปืน

จนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 1 ราย ส่วนอีก 3 รายยังอยู่ระหว่างการหลบหนี โดยตำรวจเร่งระดมกำลังไล่ล่าเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีโดยเร็ว

ปิดตำนานดีเจหนุ่ม…เปิดแฟ้มคดีสะเทือนขวัญ

การเสียชีวิตของดีเจเตเต้ไม่เพียงสร้างความเศร้าโศกให้แก่ครอบครัวและเพื่อนร่วมงาน แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงความอันตรายของการเข้าไปพัวพันกับบุคคลในวงการมืด ตำรวจยืนยันว่าจะปิดคดีนี้ให้ได้ เพื่อคืนความยุติธรรมให้กับผู้เสียชีวิตและส่งสัญญาณเตือนถึงอันตรายของรักต้องห้ามในโลกจริง