เนื้อหาในหมวด ข่าว

พ่อทรุดร้องไห้โฮ ลูกแค่ 6 ขวบ มะเร็งไตระยะสุดท้าย หมอชี้สาเหตุ \

พ่อทรุดร้องไห้โฮ ลูกแค่ 6 ขวบ มะเร็งไตระยะสุดท้าย หมอชี้สาเหตุ "เครื่องดื่ม" ที่มองข้าม!

เตือนภัยสุขภาพ!  เด็กชายวัย 6 ปีป่วยมะเร็งไตระยะสุดท้าย แพทย์ชี้ต้นเหตุจาก "เครื่องดื่มยอดฮิต" ภัยเงียบที่หลายครอบครัวมองข้าม

เมื่อรสหวานกลายเป็นภัยเงียบ..... กรณีของ "หมิงหมิง" เด็กชายวัย 6 ขวบในประเทศจีน กลายเป็นเสียงเตือนสังคม หลังพ่อแม่พาไปพบแพทย์เนื่องจากมีอาการปวดท้องและพบก้อนเนื้อบริเวณท้อง ก่อนถูกวินิจฉัยว่าเป็น "มะเร็งไตระยะลุกลาม"

แพทย์เปิดเผยว่า แม้มะเร็งไตในเด็กมักมีปัจจัยทางพันธุกรรม แต่การดื่มน้ำหวานมากเกินไป โดยเฉพาะน้ำอัดลม เป็นหนึ่งในพฤติกรรมที่ซ้ำเติมสุขภาพไต และเพิ่มความเสี่ยงโรคร้าย ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่พบบ่อยในเด็กยุคใหม่ แต่กลับส่งผลร้ายแรงต่อไตอย่างไม่รู้ตัว

ในรายงานของโรงพยาบาลเด็ก พบว่ามากถึง 30% ของเด็กที่เป็นโรคไต หรือมะเร็งไต มีพฤติกรรมดื่มน้ำหวานมากเกินไป และมักมีภาวะอ้วนร่วมด้วย ทำให้ไตต้องทำงานหนักและเสี่ยงต่อความเสียหายสะสมในระยะยาว

แล้วทำไมน้ำอัดลม-เครื่องดื่มรสหวานๆ ถึงเป็นภัย?

  • ปริมาณน้ำตาลเกินมาตรฐาน
    เครื่องดื่มขนาด 500 มล. อาจมีน้ำตาลสูงถึง 53 กรัม  เกินกว่าค่าที่แนะนำสำหรับเด็กถึง 2 เท่า (ไม่เกิน 25 กรัมต่อวัน) การสะสมน้ำตาลมากเกินไปอาจนำไปสู่ภาวะดื้อต่ออินซูลิน และเปิดโอกาสให้เซลล์มะเร็งเจริญเติบโต

  • ฟอสเฟตในน้ำอัดลม
    ฟอสเฟตในน้ำอัดลมสามารถรบกวนการเผาผลาญแคลเซียม-ฟอสฟอรัส และเพิ่มภาระให้กับไต โดยมีงานวิจัยพบว่าเพียง 2 ชั่วโมงหลังดื่มน้ำอัดลม ระดับแคลเซียมในปัสสาวะอาจเพิ่มขึ้นถึง 20%

  • สีผสมอาหารและสารก่อมะเร็ง
    สีคาราเมลในน้ำอัดลมบางชนิดอาจมีสาร 4-MEI ซึ่งมีผลวิจัยในสัตว์ทดลองว่าก่อให้เกิดมะเร็ง โดยเฉพาะในเด็กที่ระบบเผาผลาญยังไม่สมบูรณ์

  • เตือนเพิ่ม 4 เครื่องดื่ม ที่หลายคนคิดว่าปลอดภัย แต่จริงๆ อาจไม่ใช่

  • นมเปรี้ยวหรือน้ำดื่มโปรไบโอติก: บางยี่ห้อมีน้ำตาลสูงถึง 15 กรัมต่อ 100 มล.

  • น้ำผลไม้ 100%: แม้จะดูดี แต่หลายชนิดผ่านกระบวนการรีคอนสติทิวท์ และยังคงมีน้ำตาลสูง

  • เครื่องดื่มเกลือแร่: หากไม่ได้ออกกำลังกายหนัก อาจเพิ่มภาระให้ไตโดยไม่จำเป็น

  • วิธีดูแลไตของลูกให้ปลอดภัยในระยะยาว ควรทำอย่างไร?

  • ฝึกนิสัยดื่มน้ำเปล่า: เด็กควรดื่มน้ำตามสูตร “น้ำหนัก (กก.) × 30 มล.” ต่อวัน

  • อ่านฉลากโภชนาการ: หากน้ำตาล (carbohydrate) เกิน 5 กรัม/100 มล. ถือว่าเป็นเครื่องดื่มหวาน

  • ทำเครื่องดื่มสุขภาพเอง: เช่น โซดาผลไม้สด, ไอศกรีมนมสดใส่ผงโกโก้ไม่หวาน

  • รู้ไว้ดีกว่า! สัญญาณเตือนโรคร้ายที่ไม่ควรละเลย

  • เด็กมีอาการอ่อนเพลียตลอดเวลาเกิน 2 สัปดาห์

  • ปัสสาวะมีเลือดโดยไม่เจ็บ

  • คลำเจอก้อนที่ท้องขณะอาบน้ำ

  • “รสนิยมการกินของเด็กต้องถูกปลูกฝัง ไม่ใช่ตามใจ” พ่อแม่ควรมองทุกการเลือกซื้ออาหารเป็นโอกาสในการเรียนรู้ เปลี่ยนห้างสรรพสินค้าให้กลายเป็นห้องเรียนโภชนาการ ชวนลูกอ่านฉลากสินค้าไปด้วยกัน ฝึกให้เด็กแยกแยะว่าอะไรดีต่อร่างกาย และอะไรควรหลีกเลี่ยง ฝึกให้เขาเข้าใจว่า "หวาน" ไม่เท่ากับ "ดี" และ "อร่อย" ไม่ควรแลกมาด้วยสุขภาพ

    การสร้างนิสัยการกินอย่างมีสติ ไม่เพียงป้องกันโรคร้ายในอนาคต แต่ยังเป็นการวางรากฐานชีวิตที่แข็งแรงให้ลูกเติบโตอย่างมีคุณภาพ เพราะสุขภาพของลูก... เริ่มต้นได้จากการเลือกของในรถเข็นทุกครั้งที่คุณเข็นผ่านชั้นวางน้ำหวาน เพียงเปลี่ยนแค่หนึ่งแก้ววันนี้ อาจเปลี่ยนทั้งชีวิตในวันข้างหน้า เริ่มต้นตอนนี้ ยังไม่สายเกินไปที่จะเลือกเพื่อสุขภาพของคนที่คุณรักที่สุด