.jpg)
มกุฎราชกุมารีแห่งเบลเยียม เรียน ป.โทที่ฮาร์วาร์ด 1 ในผู้ได้รับผลกระทบจากคำสั่งทรัมป์
เจ้าหญิงก็ได้รับผลกระทบจากคำสั่งทรัมป์ มกุฎราชกุมารีแห่งเบลเยียม เรียน ป.โทที่ฮาร์วาร์ด ล่าสุด ราชวงศ์ออกแถลงแล้ว
เจ้าหญิงเอลิซาเบธ มกุฎราชกุมารีแห่งเบลเยียม วัยเพียง 23 ปี กำลังศึกษาอยู่ในระดับปริญญาโท สาขานโยบายสาธารณะที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด กลายเป็น 1 ในผู้ได้รับผลกระทบจากกรณีคำสั่งห้ามนักศึกษาต่างชาติของรัฐบาลทรัมป์ ซึ่งอาจส่งผลให้เธอไม่สามารถเรียนจบได้ตามแผน
ต่อมาฮาร์วาร์ดจึงยื่นฟ้องรัฐบาลสหรัฐฯ ฐานละเมิดรัฐธรรมนูญ เนื่องจากคำสั่งดังกล่าวส่งผลกระทบต่อนักศึกษาต่างชาติถึง 1 ใน 4 ของทั้งมหาวิทยาลัย ล่าสุด ศาลมีคำสั่งระงับชั่วคราวแล้วเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม ที่ผ่านมา
ตามรายงานจาก NBC และสื่ออเมริกันหลายแห่ง เจ้าหญิงเอลิซาเบธแห่งเบลเยียม พระธิดาพระองค์โตของสมเด็จพระราชาธิบดีฟิลิปป์ และสมเด็จพระราชินีมาทิลด์ ทรงดำรงตำแหน่งเป็นดัชเชสแห่งบราบันต์ และเป็นรัชทายาทลำดับแรกของราชบัลลังก์เบลเยียม
ก่อนหน้านี้ เจ้าหญิงเอลิซาเบธ มกุฎราชกุมารีแห่งเบลเยียม ทรงสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี ด้านประวัติศาสตร์และรัฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ และเมื่อปีที่ผ่านมาได้เข้าศึกษาต่อระดับปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐอเมริกา
แต่แล้วเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม รัฐบาลทรัมป์กลับประกาศห้ามมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดรับนักศึกษาต่างชาติ ทำให้แผนการศึกษาของพระองค์ต้องเผชิญกับความไม่แน่นอน
โฆษกราชวงศ์เบลเยียม ลอร์ วานดูร์น ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า "เจ้าหญิงเอลิซาเบธเพิ่งเรียนจบปีการศึกษาแรก" ส่วนผลกระทบจากนโยบายของทรัมป์ยังต้องจับตาดูต่อไป โดยกล่าวว่า "เรากำลังติดตามและทำความเข้าใจสถานการณ์อยู่"
ขณะที่หัวหน้าฝ่ายสื่อสารของราชวงศ์ ซาเวียร์ แบร์ต (Xavier Baert) กล่าวเสริมว่า "เราจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และในอีกไม่กี่วันหรือไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า อาจมีความคืบหน้าเพิ่มเติม"
รายงานระบุว่า คำสั่งห้ามรับนักศึกษาต่างชาติของรัฐบาลทรัมป์มีสาเหตุมาจากความขัดแย้งระหว่างมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดกับหน่วยงานพิเศษของรัฐบาลที่ทำงานต่อต้านการต่อต้านชาวยิว โดยฮาร์วาร์ดปฏิเสธข้อเรียกร้องหลายประการจากหน่วยงานดังกล่าว ซึ่งรวมถึงการควบคุมการรับสมัครนักศึกษา
อธิการบดีมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด อลัน เอ็ม. การ์เบอร์ ได้ส่งจดหมายถึงคณาจารย์และนักศึกษาเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม โดยประณามคำสั่งนี้ว่า “ผิดกฎหมายและไม่มีเหตุผลอันชอบธรรม” และเตือนว่ามาตรการดังกล่าวไม่เพียงแต่จะส่งผลกระทบต่อชาวต่างชาติกว่าหลายพันคนในฮาร์วาร์ด แต่ยังสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อระบบการศึกษาระดับอุดมศึกษาทั่วสหรัฐฯ อีกด้วย