.jpg)
น่าจะรู้เร็วกว่านี้ หนุ่มแชร์ทุกข์ที่เรียกว่าการซื้อ "คอนโดสูง" เผย 4 ข้อดี-5 ข้อเสีย
หนุ่มจีนแชร์ความทุกข์แบบหนึ่งที่ชื่อว่า “ซื้อคอนโดชั้นสูง” เผยมีข้อดี 4 อย่าง ข้อเสีย 5 อย่าง ที่อยากรู้ให้เร็วกว่านี้
เพื่อจะได้ดื่มด่ำกับวิวสวยและความเป็นส่วนตัวอันเงียบสงบบนชั้นสูงของคอนโด เราก็ต้องเตรียมใจรับมือกับความไม่สะดวกหลายอย่างที่มาพร้อมกันด้วย
ประสบการณ์จากคุณจาง วัย 40 ปี ผู้อาศัยอยู่ในนครกว่างโจว ประเทศจีน
การซื้อบ้านเป็นหนึ่งในเรื่องสำคัญที่สุดของชีวิต ไม่มีใครอยากตัดสินใจอย่างเร่งรีบ โดยเฉพาะในยุคที่อาคารสูงเป็นกระแสนิยม และคอนโดบนชั้น 30 ขึ้นไปกำลังเป็นที่ต้องการอย่างมาก คำโฆษณาสวยหรูอย่าง “ชมเมืองได้ทั่วถึงเพียงแค่เปิดหน้าต่าง” หรือ “ความเป็นส่วนตัวสูงสุด” ล้วนดึงดูดให้หลายคนยอมควักกระเป๋าโดยไม่ลังเล
แน่นอนว่า คอนโดชั้นสูงก็มีข้อดีที่โดดเด่นหลายประการ เช่น
ข้อดี 4 อย่างของคอนโดชั้นสูง
วิวสวยจับใจ
แค่เปิดหน้าต่างจากชั้น 33 ก็เห็นท้องฟ้าสีคราม เมฆขาวลอยละลิ่ว ยามค่ำคืนยังมองเห็นแสงไฟระยิบระยับทั่วทั้งเมือง ถ้าวันไหนอากาศดี ก็อาจมองเห็นแนวเขาอยู่ลิบ ๆ ด้วย สำหรับคนที่ชอบถ่ายรูป ทุกมุมจากระเบียงแทบจะกลายเป็น “ภาพล้านไลก์” ได้เลยทีเดียว
เงียบสงบ เป็นส่วนตัวอย่างแท้จริง
ต่างจากชั้นล่างที่ต้องทนเสียงรถ เสียงผู้คน หรือเสียงตามสาย คอนโดชั้นสูงแทบจะแยกขาดจากโลกเบื้องล่าง ไม่มีใครเดินผ่านหน้าห้องให้รบกวน ความเป็นส่วนตัวจึงได้รับการปกป้องอย่างเต็มที่
แสงธรรมชาติและลมเย็นมีตลอดทั้งวัน
เพราะไม่มีตึกอื่นบัง คอนโดชั้นสูงจึงรับแสงแดดและลมธรรมชาติได้เต็มที่ แสงสว่างเพียงพอตลอดวัน เสื้อผ้าแห้งเร็ว แทบไม่ต้องเปิดไฟในเวลากลางวัน ฤดูร้อนแค่เปิดหน้าต่าง ลมก็พัดเย็นสบาย ช่วยประหยัดค่าไฟจากแอร์ได้อีกทาง
ราคาย่อมเยากว่าที่คิด
ในหลายโครงการกลับกลายเป็นว่าชั้นสูงราคาถูกกว่าชั้นกลางเสียอีก โดยเฉพาะชั้นบนสุด มักแถมดาดฟ้าหรือห้องใต้หลังคาให้ด้วย จึงไม่แปลกที่หลายคนตัดสินใจซื้อโดยไม่ลังเล
ข้อเสีย 5 อย่างของคอนโดชั้นสูง
อย่างไรก็ตาม หลังจากย้ายเข้าอยู่คอนโดชั้น 33 ได้ไม่นาน คุณจางจากเมืองกว่างโจวก็ต้องเอ่ยปากอย่างเจ็บปวดว่า “วิวสวยก็จริง แต่ชีวิตกลับเหนื่อยเกินคาด”
ในมุมมองของเขา เบื้องหลังความหรูหรานั้นคือปัญหาจุกจิกในชีวิตประจำวันมากมาย ที่หลายคนอาจไม่เคยคาดคิดมาก่อน
รอลิฟต์เหมือนออกรบ
ช่วงเวลาเร่งด่วน คนเป็นสิบมายืนรอลิฟต์พร้อมกัน ทำให้การขึ้นลงกลายเป็นเรื่องทรมาน ลิฟต์ไม่กี่ตัวต้องรองรับผู้พักอาศัยนับร้อย บางคนถึงกับต้องตื่นเช้ากว่าเดิมครึ่งชั่วโมงเพื่อไปทำงานให้ทัน และถ้าลิฟต์เสียขึ้นมา ทางเลือกเดียวที่เหลือก็คือ เดินขึ้นลง 33 ชั้น!
ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่มองข้ามไม่ได้
การอยู่ชั้นสูงหมายถึงความยากลำบากในการหนีภัยเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน เพราะบันไดหนีไฟหรือรถดับเพลิงมักขึ้นไปได้แค่ชั้น 10–15 เท่านั้น หากเกิดไฟไหม้หรือแผ่นดินไหว ไม่ใช่ทุกคนจะมีทักษะหรือความกล้าพอที่จะใช้เชือกหนีภัยลงมาเอง
แรงดันน้ำอ่อน ใช้งานไม่สะดวก
คอนโดชั้นสูงมักต้องพึ่งระบบสูบน้ำขึ้นอาคาร และยิ่งอยู่สูง แรงดันน้ำยิ่งไม่คงที่ โดยเฉพาะชั้นบนสุดที่มักได้รับผลกระทบหนักที่สุด ช่วงเวลาเร่งด่วนตอนเย็น น้ำอาจไหลเบาจนแทบใช้งานไม่ได้ ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก
ความกลัวความสูง ไม่ใช่ทุกคนจะเอาชนะได้
หลายคนที่อยู่ชั้นสูงมักรู้สึกเวียนหัว หัวใจเต้นเร็วเมื่อออกไปยืนบนระเบียงหรือมองลงไปข้างล่าง ไม่ใช่แค่ผู้สูงอายุหรือเด็กเล็ก แต่แม้กระทั่งคนหนุ่มสาวก็อาจเกิดความไม่มั่นใจ สัตว์เลี้ยงบางครั้งก็แสดงอาการกลัวเมื่อเข้าใกล้ราวกันตกด้วยเช่นกัน
แม้จะมีข้อเสียบางประการตามที่กล่าวมา การเลือกอยู่ชั้นสูงหรือต่ำก็ยังขึ้นอยู่กับความชอบและความต้องการของแต่ละคน สำหรับหลายครอบครัว คอนโดชั้นสูงยังคงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม หากคุณได้ย้ายมาอยู่คอนโดชั้นสูงแล้ว ก็ยังมีวิธีปรับปรุงข้อจำกัดเหล่านั้นเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตได้ดังนี้
ปรับจังหวะชีวิตประจำวัน
-
เข้างานเร็วหรือเลื่อนเวลาออกไป 20–30 นาที เพื่อลดเวลารอลิฟต์ช่วงเร่งด่วน
-
ซื้อของทีละเยอะๆ เก็บไว้ให้เพียงพอ ลดการขึ้นลงบ่อยๆ
เตรียมอุปกรณ์ความปลอดภัยให้ครบ
-
มีถังดับเพลิง หน้ากากกันควัน และเชือกช่วยหนีไฟประจำบ้าน
-
ติดตั้งตาข่ายหรือล็อกหน้าต่าง ป้องกันเด็กและสัตว์เลี้ยงตก
-
รัดยึดของบนระเบียง เช่น กระถางต้นไม้ ด้วยอุปกรณ์แขวนที่มั่นคง
กันความร้อนและเก็บความอบอุ่น
-
ติดตั้งฉนวนกันร้อนหลังคา เช่น กระเบื้องกันความร้อน หรือสีสะท้อนแสง
-
ใช้กระจกหลายชั้น พร้อมซีลขอบประตูป้องกันลม
-
เลือกผ้าม่านกันความร้อน พรมหนา และเฟอร์นิเจอร์ที่อบอุ่นในฤดูหนาว
แก้ปัญหาแรงดันน้ำต่ำ
-
ติดตั้งถังสำรองน้ำขนาดเล็กที่ครัวและห้องน้ำไว้ใช้ยามน้ำอ่อน
-
ใช้เครื่องซักผ้าที่ประหยัดน้ำ หรือซักผ้าในช่วงเวลานอกเร่งด่วน
ลดความกลัวความสูง
-
ติดตั้งกระจกฝ้า หรือปลูกต้นไม้สูงที่ราวกันตก เพื่อบดบังมุมมองด้านล่าง
-
จัดแต่งภายในโทนอุ่น สร้างความรู้สึกปลอดภัยและผ่อนคลาย
-
ใช้ไฟสีวอร์ม ไฟโทนอุ่น พร้อมพรมและโซฟานุ่ม ๆ เพื่อบรรยากาศอบอุ่นเป็นกันเอง
ทั้งนี้ การเลือกวิธีใดก็ขึ้นกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนเป็นสำคัญ