เนื้อหาในหมวด ข่าว

แพทย์จีนยกย่อง \

แพทย์จีนยกย่อง "ผลไม้แห่งศตวรรษที่ 21" อวยกินดีกว่าโสม ซูเปอร์ฟู้ดที่คนไทยมองข้าม!

แพทย์จีนยกย่อง “ลูกหม่อน” คือผลไม้ที่ดีที่สุดแห่งศตวรรษที่ 21 ยิ่งกว่าโสมเสียอีก เมืองไทยก็มีปลูกเยอะ แต่กลับไม่ค่อยมีคนกิน

แม้จะพบได้ทั่วไปตามบ้านเรือนในไทย แต่ “ลูกหม่อน” หรือ มัลเบอร์รี่ (Mulberry) กลับไม่ค่อยได้รับความนิยมในการบริโภค ทั้งที่มีรสหวานอมเปรี้ยว ชุ่มฉ่ำ และเต็มไปด้วยสารอาหารหลากชนิด

ล่าสุด แพทย์จีนชื่อดัง ดร. อู๋ นว นู่หลิน จากโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยการแพทย์กวางโจว ประเทศจีน ออกมายกย่องด้วยตนเองว่า ผลหม่อนคือผลไม้ที่ดีที่สุดของศตวรรษที่ 21 มีคุณสมบัติเป็นทั้งอาหารและยาสมุนไพรตามศาสตร์แพทย์แผนจีน

“ลูกหม่อน” คือสุดยอดผลไม้ที่ถูกยกย่องจากวงการแพทย์จีนว่าดีไม่แพ้โสม มีทั้งคุณค่าทางโภชนาการและสรรพคุณทางยา ช่วยชะลอวัย บำรุงเลือด บำรุงสายตา และช่วยระบบขับถ่ายได้ดี แต่ต้องรับประทานอย่างพอดีถึงจะได้ผลดีที่สุด

ประโยชน์ของ “ลูกหม่อน” ที่คนไทยควรรู้

  • สารต้านอนุมูลอิสระสูง – ชะลอวัย บำรุงหัวใจ
    ลูกหม่อนอุดมไปด้วยแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) ซึ่งมีปริมาณสูงกว่าผลบลูเบอร์รี่ถึง 2 เท่า และยังมีเรสเวอราทรอล (Resveratrol) ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นสารต้านอนุมูลอิสระทรงพลัง ช่วยชะลอความแก่ ลดเลือนริ้วรอย และลดความเสี่ยงโรคหัวใจ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้สูงอายุและผู้ที่ใส่ใจสุขภาพระยะยาว

  • เสริมสร้างเลือด – ธาตุเหล็กสูงกว่าผลไม้ทั่วไป
    ลูกหม่อนมีธาตุเหล็กสูงกว่าผลแอปเปิล 10-15 เท่า อีกทั้งยังมีวิตามินซีซึ่งช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้ดีขึ้น จึงเป็นผลไม้ที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีภาวะโลหิตจาง หรือผู้หญิงที่มีรอบเดือน

  • ใยอาหารสูง – แก้ท้องผูกได้อย่างเป็นธรรมชาติ
    ใยอาหารในลูกหม่อนมีปริมาณสูงถึง 3-4 เท่าเมื่อเทียบกับผลไม้ทั่วไป จึงช่วยกระตุ้นการขับถ่าย แก้ปัญหาท้องผูก โดยเฉพาะในผู้ที่มีอาการอุจจาระแข็งหรือระบบขับถ่ายไม่เป็นปกติ

  • บำรุงสายตา – ลดอาการล้าจากการจ้องหน้าจอ
    สารแอนโทไซยานินในลูกหม่อนยังมีสรรพคุณบำรุงเลือดที่ไปเลี้ยงดวงตา ช่วยลดความล้า ลดอาการตาพร่ามัวจากการใช้สายตาหนัก เหมาะสำหรับพนักงานออฟฟิศ นักเรียน นักศึกษา และผู้ที่ใช้อุปกรณ์ดิจิทัลเป็นเวลานาน
  • อย่างไรก็ดี แพทย์แนะนำว่า อย่าทานมากเกินไป เพราะแม้ว่าลูกหม่อนจะมีประโยชน์หลากหลาย แต่ควรบริโภคในปริมาณที่เหมาะสม โดยผู้ใหญ่ไม่ควรทานเกิน 100 กรัมต่อวัน (ประมาณ 20–30 ผลต่อวัน) เพราะลูกหม่อนมีลักษณะเป็น “ผลไม้เย็น” ตามศาสตร์แพทย์แผนจีน ผู้ที่มีอาการท้องอืด ท้องเสียง่าย หรือมีระบบย่อยอาหารอ่อนแอ ควรบริโภคอย่างระมัดระวัง และปรึกษาแพทย์หากมีโรคประจำตัวหรืออาการแพ้

    หากคุณมีต้นหม่อนอยู่ในสวน ลองหันกลับมาให้ความสำคัญกับผลไม้พื้นบ้านชนิดนี้ เพราะมันอาจเป็น “ของดีที่ถูกมองข้าม” มานาน

    หมอแนะนำ ผลไม้ไทยใกล้ตัว เพิ่งรู้ว่าประโยชน์มหาศาล เมื่อก่อนไม่ได้ปลูกให้คนกินด้วยซ้ำ

    หมอแนะนำ ผลไม้ไทยใกล้ตัว เพิ่งรู้ว่าประโยชน์มหาศาล เมื่อก่อนไม่ได้ปลูกให้คนกินด้วยซ้ำ

    "ลูกหม่อน" ผลไม้พื้นบ้านธรรมดา แต่สรรพคุณไม่ธรรมดา! บำรุงหัวใจ สายตา ลดเสี่ยงหลายโรค