
ช็อก เงินร่วงเพดานบ้าน 77 ล้าน หนุ่มไม่โลภ รีบแจ้งความ พีก ตร.บอก "คุณได้ช่วยตัวเองไว้!"
ฮือฮา! หนุ่มซื้อบ้านหลุดจำนอง พบเงินสดซุกในเพดานกว่า 77 ล้าน ไม่โลภรวยข้ามคืน แต่ตัดสินใจแจ้งตำรวจ
เกิดเหตุไม่คาดฝันในประเทศจีน ย้อนกลับไปเมื่อปี 2021 เมื่อนายหลี่ (นามสมมติ) ชายชาวเหอหนาน ได้ซื้อบ้านมือสองจากการประมูลทรัพย์สินของรัฐ ขนาด 120 ตารางเมตร ในราคาสุดคุ้มเพียง 590,000 หยวน (ประมาณ 2.95 ล้านบาท) ซึ่งถูกกว่าราคาตลาดถึงเกือบ 40%
หลังจากใช้ชีวิตในบ้านหลังนี้เป็นเวลา 3 ปี ในเดือนตุลาคม 2024 นายหลี่ได้เริ่มปรับปรุงบ้านใหม่ โดยระหว่างที่ช่างกำลังถอดโคมไฟเพดานออก ก็พบว่ามีสิ่งผิดปกติภายในฝ้า เมื่อเปิดดูจึงต้องตกตะลึง เพราะภายในซ่อนเงินสดเป็นฟ่อนๆ จนแทบล้นออกมา เมื่อนับจำนวนเงินทั้งหมดปรากฏว่ามีมากถึง 77 ล้านหยวน (ราว 396 ล้านบาท) ซึ่งถือเป็นเงินจำนวนมหาศาลที่คนทั่วไปอาจหาไม่ได้แม้ใช้เวลาทั้งชีวิต
แม้จะมีโอกาสกลายเป็นเศรษฐีในพริบตา แต่นายหลี่กลับไม่เก็บเงินเหล่านั้นไว้กับตัว เขาตัดสินใจปรึกษาเพื่อนๆ ซึ่งมีทั้งฝ่ายที่สนับสนุนให้เก็บไว้ และฝ่ายที่เตือนว่าเงินนี้อาจเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมาย สุดท้ายหลังจากไตร่ตรองอย่างรอบคอบ นายหลี่เลือกที่จะแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเข้ามาตรวจสอบและยึดเงินจำนวนดังกล่าวไว้เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย พร้อมทั้งมอบรางวัลน้ำใจจำนวน 2 หมื่นหยวน (ประมาณ 1 แสนบาท) ให้กับเขา
ตำรวจยังกล่าวกับเขาด้วยว่า “คุณได้ช่วยตัวเองไว้” เนื่องจากหากนายหลี่เลือกเก็บเงินไว้ อาจเข้าข่ายความผิดฐาน "ซ่อนเร้นหรือยักย้ายทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิด"
ข่าวนี้กลายเป็นกระแสไวรัลบนโลกออนไลน์ของจีน หลายคนชื่นชมในความซื่อสัตย์ของนายหลี่ ยกย่องว่าเขาเป็นแบบอย่างของพลเมืองดีที่ยึดถือหลักจริยธรรมและกฎหมาย ยืนหยัดบนความถูกต้อง ท่ามกลางคำล่อใจ แต่ก็ยังคงมีบางคนแสดงความเสียดายแทนที่เขา “พลาดโอกาสร่ำรวยในชั่วข้ามคืน” อย่างไรก็ดี “การไม่เลือกทางลัด” ย่อมเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและมีคุณค่าที่สุด
ตามประมวลกฎหมายแพ่งของจีน ระบุว่า ทรัพย์สินที่สูญหายต้องถูกส่งคืนเจ้าของ หรือหากไม่สามารถระบุเจ้าของได้ต้องนำส่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ หากทรัพย์สินนั้นเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมาย ก็จะถือเป็นของกลางและผู้เก็บไว้โดยมิชอบอาจมีความผิดตามกฎหมาย
เหตุการณ์นี้ยังสะท้อนอีกมุมหนึ่งของการซื้อบ้านหลุดจำนอง แม้ว่าราคาจะย่อมเยาและคุ้มค่า แต่ก็อาจมี “ภาระซ่อนเร้น” หรือประวัติที่เกี่ยวพันกับคดีความ เช่นเดียวกับกรณีของนายหลี่ นอกจากนี้ เรื่องนี้ยังตั้งคำถามให้คนในสังคมได้ฉุกคิดถึง "ความหมายของความร่ำรวย" ว่ามิใช่เพียงแค่จำนวนเงินที่มีอยู่ในมือ แต่คือการมีจิตใจที่มั่นคง ไม่หวั่นไหวต่อสิ่งยั่วยวน และยึดมั่นในความถูกต้อง