เนื้อหาในหมวด ข่าว

กินอะไรเข้าไป?! ชายวัย 25 ปัสสาวะเป็นสีเขียว ร่างกายเป็นสีม่วงคล้ำ โคม่าลึกจากพิษร้าย

กินอะไรเข้าไป?! ชายวัย 25 ปัสสาวะเป็นสีเขียว ร่างกายเป็นสีม่วงคล้ำ โคม่าลึกจากพิษร้าย

หนุ่มวัย 25 ปัสสาวะเป็น “สีเขียวประหลาด” หามส่ง ICU ด่วน! แพทย์เตือนพิษไนไตรท์ในผักดอง-อาหารแปรรูป  สี่ยงทำเลือดขาดออกซิเจนเฉียบพลัน คร่าชีวิตไม่รู้ตัว

เมื่อไม่นานมานี้ โรงพยาบาลตงเต๋อ มหาวิทยาลัยการแพทย์เจ้อเจียง ประเทศจีน ได้รับเคสฉุกเฉินในยามดึก เป็นชายหนุ่มวัย 25 ปีถูกหามส่ง ICU ด้วยอาการรุนแรง ตัวเขียวคล้ำ ปากม่วง และหมดสติในภาวะโคม่าลึก สิ่งที่ทำให้ทีมแพทย์ตกตะลึงยิ่งขึ้นคือ ปัสสาวะของผู้ป่วยเปลี่ยนเป็นสีเขียวผิดธรรมชาติ แสดงถึงภาวะพิษรุนแรงในร่างกาย

หลังตรวจวินิจฉัย แพทย์พบตรวจพบพิษ “ไนไตรท์” รุนแรงในเลือด โดยค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดต่ำเพียง 64% (ปกติควร >95%) ความดันตกเหลือแค่ 70/40 mmHg ค่าระดับเมทเฮโมโกลบิน (Methemoglobin) สูงถึง 75% (ปกติไม่เกิน 2%) นั่นหมายความว่าเลือดของผู้ป่วยไม่สามารถลำเลียงออกซิเจนไปเลี้ยงร่างกายได้ ส่งผลให้สมองและหัวใจขาดออกซิเจนอย่างเฉียบพลัน

จากการสอบถามประวัติ แพทย์พบว่าผู้ป่วยได้เผลอกลืนไนไตรท์ ปริมาณ 50 มิลลิกรัม ซึ่งถือว่าเกินขีดอันตราย โดยไนไตรท์เป็นสารเคมีที่พบในอาหารหมักดอง เช่น ผักดอง หรือเนื้อแปรรูป และหากบริโภคเกิน 0.2 - 0.5 กรัม อาจถึงแก่ชีวิตได้

ทีมแพทย์รีบให้การรักษาโดยทันที ผ่านทางการใช้เครื่องช่วยหายใจ ฉีดยา “เมทิลีนบลู (Methylene Blue)” ซึ่งเป็นยาขับพิษเฉพาะทาง และเสริมด้วยวิตามินซีในขนาดสูง เพื่อเร่งการขับสารพิษออกจากร่างกาย หลังผ่านการรักษาอย่างเร่งด่วนตลอดคืน ผู้ป่วยมีสัญญาณดีขึ้น ค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนกลับมาที่ 95%, สีผิวกลับสู่ภาวะปกติ และความดันโลหิตดีขึ้นอย่างชัดเจน

ทำไมปัสสาวะจึงเป็นสีเขียว? แพทย์อธิบายว่า เมทิลีนบลูซึ่งใช้รักษามีสีฟ้าเข้ม เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะเปลี่ยนเป็นรูปแบบที่ไม่มีสี และถูกขับออกทางปัสสาวะ บางส่วนจึงยังคงมีสีฟ้าหรือเขียว จนทำให้ปัสสาวะเปลี่ยนสีได้ แต่ถือเป็นสัญญาณบวก แสดงว่าการรักษาได้ผล

พร้อมทั้งเตือนให้รู้ทันพิษไนไตรท์  (Nitrite) อันตรายที่อาจแฝงอยู่ในมื้ออาหาร เช่น ผักดองเค็มเก็บข้ามวัน, เนื้อสัตว์แปรรูป, อาหารหมักที่ไม่ได้ผ่านกรรมวิธีที่ปลอดภัย โดยมีฤทธิ์เปลี่ยนฮีโมโกลบินในเลือดให้ไร้ความสามารถในการลำเลียงออกซิเจน ทำให้ร่างกายเข้าสู่ภาวะขาดออกซิเจนอย่างรุนแรง หากไม่รักษาทันอาจถึงชีวิต

อาการของการ “ได้รับพิษไนไตรท์” คือ

  • อาการเริ่มต้น: วิงเวียน เหนื่อยง่าย หนาวสั่น ปลายมือปลายเท้าชา

  • อาการรุนแรง: หายใจถี่ กระสับกระส่าย ชัก หมดสติ

  • สีผิวเปลี่ยน: ริมฝีปากเขียว ม่านตาคล้ำ ปลายนิ้วดำคล้ำ

  • ระบบอื่น: คลื่นไส้ ปวดท้อง ท้องเสีย ตาพร่า มองไม่ชัด สับสนหรือพูดไม่รู้เรื่อง

คำแนะนำจากแพทย์สำหรับการ "ป้องกันพิษร้ายจากไนไตรท์"

  • ห้ามใช้สารไนไตรท์ผิดวัตถุประสงค์: โดยเฉพาะสารอุตสาหกรรมที่หน้าตาเหมือนเกลือ ควรติดฉลากชัดเจน

  • อย่าทานอาหารหมักดองข้ามคืน: ผักลวกเก็บข้ามวัน หรือดองแบบไม่ถูกสุขลักษณะ ควรบริโภคภายใน 24 ชั่วโมง และเก็บในตู้เย็น

  • หากสงสัยได้รับพิษ: รีบทำให้อาเจียน และดื่มนมหรือเต้าหู้เพื่อชะลอการดูดซึม ก่อนรีบนำส่งโรงพยาบาลทันที

  • กรณีชายวัย 25 ปีรายนี้ เป็นอุทาหรณ์สำคัญว่า ไนไตรท์ ซึ่งแฝงอยู่ในอาหารทั่วไป หากเข้าสู่ร่างกายเกินขนาด จะทำลายระบบไหลเวียนเลือดอย่างรุนแรง และอาจคร่าชีวิตได้ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง การใส่ใจต่ออาหารและการเก็บรักษาที่ปลอดภัย จึงเป็นทางป้องกันดีที่สุด