เนื้อหาในหมวด ข่าว

\

"อีแจมยอง" ผู้นำฝ่ายค้าน คว้าเก้าอี้ประธานาธิบดีเกาหลีใต้คนที่ 14

"อีแจมยอง" คว้าชัยศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีเกาหลีใต้ หลัง "ยุนซอกยอล" ถูกถอดจากตำแหน่ง

เมื่อวันที่ 3 มิถุนายนที่ผ่านมา เกาหลีใต้จัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งพิเศษ เพื่อหาผู้นำคนใหม่แทน ยุนซอกยอล ซึ่งถูกถอดออกจากตำแหน่งหลังประกาศกฎอัยการศึกเมื่อปลายปี 2024

คณะกรรมการการเลือกตั้งของเกาหลีใต้ประกาศผลคะแนนอย่างเป็นทางการว่า อีแจมยอง ผู้นำพรรคฝ่ายค้านจากพรรคประชาธิปไตย (Democratic Party: DP) ได้รับคะแนนเสียง 49.42% เอาชนะ คิมมุนซู ผู้สมัครจากพรรคพลังประชาชน (People Power Party: PPP) ซึ่งได้ 41.15% โดยมีประชาชนเกือบ 35 ล้านคนออกมาใช้สิทธิ์ ถือเป็นอัตราสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1997

อัตราการออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งอยู่ที่ 77.8% เพิ่มขึ้นจากการเลือกตั้งเมื่อปี 2022 โดยมีประชาชนมากกว่า 1 ใน 3 ของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งกว่า 44 ล้านคน ใช้สิทธิล่วงหน้าระหว่างวันที่ 29-30 พฤษภาคม
03skorea-martiallaw-who-is-leหลังได้รับชัยชนะ อีแจมยอง วัย 61 ปี กล่าวขอบคุณประชาชนที่หน้าบ้านพักของตน โดยย้ำว่า "ผมจะไม่มีวันลืมความรับผิดชอบของประธานาธิบดีในการรวมใจคนในชาติ" พร้อมระบุว่า หน้าที่แรกของเขาคือการเยียวยาบาดแผลทางการเมืองและป้องกันไม่ให้เกิดความพยายามทำรัฐประหารโดยใช้กำลังทหารอีกในอนาคต

"ผมจะมองหาช่องทางในการสื่อสารกับเกาหลีเหนือ และสร้างหนทางแห่งการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ เพื่อความรุ่งเรืองร่วมกันของคาบสมุทรเกาหลี" เขากล่าว

อีแจมยอง เป็นอดีตทนายความด้านสิทธิมนุษยชน เคยลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีมาแล้วสองครั้งแต่ไม่สำเร็จ จนกระทั่งครั้งนี้ได้รับแรงสนับสนุนจากกระแสความไม่พอใจต่อรัฐบาลยุน โดยเฉพาะกรณีการประกาศกฎอัยการศึกที่จุดชนวนวิกฤตทางการเมืองรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปีของเกาหลีใต้

นอกเหนือจากปัญหาทางการเมือง รัฐบาลชุดใหม่ยังต้องรับมือกับความท้าทายทางเศรษฐกิจ ทั้งภาวะถดถอย ความเหลื่อมล้ำทางรายได้ และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับพันธสัญญาด้านความมั่นคงกับสหรัฐฯ ภายใต้รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
iขณะที่ คิมมุนซู ผู้สมัครจากพรรครัฐบาลไม่สามารถช่วงชิงคะแนนเสียงจากกลุ่มผู้มีสิทธิเลือกตั้งสายกลางได้ โดยพรรคของเขาเองยังมีความเห็นแตกแยกภายในเกี่ยวกับการกระทำของอดีตประธานาธิบดียุนซอกยอล

การเลือกตั้งครั้งนี้มีขึ้นหลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำตัดสินยืนยันการถอดถอนยุนเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งประชาชนจำนวนไม่น้อยมองว่าเป็นเครื่องยืนยันถึงเสถียรภาพและความเข้มแข็งของประชาธิปไตยในเกาหลีใต้

อย่างไรก็ตาม บาดแผลทางการเมืองที่ยุนทิ้งไว้ยังคงส่งผลต่อบรรยากาศในประเทศ โดย อีแจมยอง จะเริ่มปฏิบัติหน้าที่ทันทีในวันที่ 4 มิถุนายนนี้ โดยไม่มีช่วงเปลี่ยนผ่าน 2 เดือนตามธรรมเนียม

ช่วงหลายเดือนก่อนเลือกตั้ง เกาหลีใต้เต็มไปด้วยการชุมนุมทั้งฝั่งสนับสนุนและต่อต้านอดีตประธานาธิบดี จนนำไปสู่สุญญากาศทางอำนาจ กระทบต่อการทูตและเสถียรภาพของตลาดการเงิน

อีแจมยอง ซึ่งเป็นตัวเต็งมาตั้งแต่ต้น จะต้องเผชิญกับภารกิจใหญ่ในการฟื้นฟูประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมือง ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และภัยคุกคามด้านความมั่นคงจากเกาหลีเหนือ