
วิทยาศาสตร์ไขปริศนา: จริงหรือไม่ที่สุนัขและคนเลี้ยงจะมีลักษณะคล้ายกัน?
คุณเคยได้ยินไหมว่า "เจ้าของมักหน้าเหมือนหมา" – ฟังดูเหมือนมุกขำๆ แต่ความเชื่อนี้มีพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์มากกว่าที่คิด
เพราะงานวิจัยล่าสุดพบว่า คนกับสุนัขของพวกเขามักจะมีความ "คล้ายคลึงกันทั้งรูปลักษณ์และนิสัย" มากกว่าที่เราคาดไว้
วิทยาศาสตร์ว่าไง? คนกับหมาคล้ายกันจริงหรือคิดไปเอง
งานวิจัยจากหลายสถาบันชั้นนำ เช่น สถาบัน Max Planck, มหาวิทยาลัยฟรีดริช ชิลเลอร์ และมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ต่างให้ข้อมูลในทิศทางเดียวกันว่า:
- บุคลิกของเจ้าของส่งผลต่อพฤติกรรมของสุนัข
- ระดับความเปิดเผย วิตกกังวล หรือชอบเข้าสังคม มักพบในทั้งเจ้าของและหมาที่อยู่ด้วยกัน
- รูปลักษณ์ภายนอก ก็มีแนวโน้มคล้าย เช่น เจ้าของผมหยักศกมักเลี้ยงหมาหูหยิก หรือหญิงผมสั้นมักชอบหมาหูตั้ง
หนึ่งในการทดลองที่น่าสนใจคือ การให้กลุ่มคนที่ไม่รู้จักเจ้าของและหมา มา "จับคู่ภาพถ่าย" ปรากฏว่า "ส่วนใหญ่ทายถูก" ว่าหมาตัวไหนเป็นของใคร แสดงว่า ความคล้ายคลึงกันนั้นสามารถรับรู้ได้ชัดเจน แม้จะไม่รู้จักกันมาก่อน
ทำไมถึงเหมือนกัน? คำตอบอยู่ในสมองและพฤติกรรมเรา
เรนาตา โรมา นักวิจัยด้านพฤติกรรมจากมหาวิทยาลัยซัสแคตเชวันอธิบายว่า ความคล้ายกันระหว่างคนกับหมาอาจมาจากหลายเหตุผล:
- เรามักเลือกสิ่งที่สะท้อนตัวเอง ไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่
- ความผูกพันที่แน่นแฟ้น ทำให้คนกับหมามีอิทธิพลต่อกัน ทั้งทางอารมณ์และพฤติกรรม
- พฤติกรรมบางอย่างของสุนัขอาจเกิดจากการ "เลียนแบบ" เจ้านาย โดยไม่รู้ตัว
- วิถีชีวิตที่เหมือนกัน ก็ทำให้เกิดผลลัพธ์คล้ายกัน เช่น คนอ้วนเลี้ยงหมาที่มีน้ำหนักเกิน เพราะกินอยู่และออกกำลังในลักษณะเดียวกัน
คล้ายแต่ไม่จำเป็นต้องเหมือน ถึงต่างกันก็เข้ากันได้
แม้การวิจัยจะชี้ว่า "เจ้าของกับหมามีแนวโน้มคล้ายกัน" แต่สิ่งสำคัญจริงๆคือ "ความเข้ากันได้"
บางคนเงียบๆ ก็อาจเลี้ยงหมาแสนซนเพื่อเติมเต็มชีวิต บางคนชอบเที่ยว ก็มีหมาคู่ใจที่พร้อมผจญภัยไปด้วยกัน
ความรัก ความเข้าใจ และการยอมรับความต่าง ต่างหาก ที่ทำให้สายสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสุนัขยั่งยืน ไม่ใช่แค่ความเหมือน
สรุป: คนกับหมาคล้ายกันเพราะ "เลือก" หรือ "กลายเป็นเหมือนกัน"?
ความเหมือนกันอาจเริ่มจาก "การเลือก" สุนัขที่ตรงกับบุคลิกตัวเอง แต่เมื่ออยู่ด้วยกันนานขึ้น ก็อาจ "หล่อหลอม" ให้คล้ายกันมากขึ้น แต่ไม่ว่าจะเหมือนหรือไม่ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ "ความผูกพันที่จริงใจระหว่างกัน"