เหมือนฟ้าถล่ม เป็นพ่อมา 10 ปี เพิ่งรู้ว่าตัวเอง "มีลูกไม่ได้" แล้วเด็กๆ ที่เลี้ยงมา เมียท้องกับใคร?
ชายวัย 50 ตรวจดีเอ็นเอเพราะสงสัย "ลูกหน้าไม่เหมือนตนเอง" พบความจริงสุดสะเทือนใจ เขาไม่ใช่พ่อแท้ของเด็กทั้งสองคน เพราะเป็นหมันจากโรคทางพันธุกรรม ที่ไม่เคยรู้มาก่อน!
นายเหงียน เกียน (Nguyễn Kiên) ชายชาวเวียดนามอายุ 50 ปี จากกรุงฮานอย ผู้มีชีวิตครอบครัวที่ดูเหมือนจะสมบูรณ์แบบมาตลอด 10 ปี ต้องพบกับความจริงที่พลิกผันชีวิตครั้งใหญ่ หลังตัดสินใจพาลูกทั้งสองไปตรวจดีเอ็นเอเพราะเริ่มสงสัยว่า ลูกชายวัย 10 ขวบ และลูกสาววัย 7 ขวบของเขานั้น ดูไม่ค่อยมีลักษณะคล้ายเขาเลย
และหลังจากผลดีเอ็นเอถูกเปิดเผยก็ทำให้เขาช็อกจนแทบล้มทั้งยืน เพราะการวิเคราะห์ทางพันธุกรรมยืนยันว่า เด็กทั้งสองไม่มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือดกับเขาโดยตรง นักวิทยาศาสตร์จากศูนย์วิเคราะห์พันธุกรรมที่เขาเข้ารับการตรวจ ได้แนะนำให้เขาเข้ารับการตรวจโครโมโซมเพิ่มเติม (Karyotype test) เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง
ผลตรวจรอบนี้ยิ่งสะเทือนใจหนักขึ้นไปอีก เมื่อพบว่าเขาป่วยเป็น "กลุ่มอาการไคลน์เฟลเตอร์" (Klinefelter syndrome) ซึ่งเป็นความผิดปกติทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก โดยผู้ชายที่เป็นโรคนี้จะมีโครโมโซม X เกินมาหนึ่ง แทนที่จะเป็น XY แบบปกติ จึงทำให้ร่างกายไม่สามารถผลิตอสุจิได้ตามธรรมชาติ และส่งผลให้เป็นหมันแต่กำเนิด ไม่สามารถมีลูกตามธรรมชาติได้
เสียงจากผู้เชี่ยวชาญ "ไคลน์เฟลเตอร์" โรคที่หลายคนไม่รู้ว่ามีอยู่ในตัว
นพ. ฮา ง็อก มานห์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเวียดนาม-เบลเยียม ซึ่งเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านภาวะมีบุตรยาก เปิดเผยว่า กลุ่มอาการไคลน์เฟลเตอร์มักไม่แสดงอาการชัดเจนในช่วงวัยเด็กหรือวัยรุ่น ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะรู้ตัวก็ต่อเมื่อต้องการมีลูกแล้วพบว่าไม่สามารถมีได้ตามธรรมชาติ
“ผู้ป่วยมักจะมีอัณฑะขนาดเล็ก ฮอร์โมนเพศชายต่ำ และไม่สามารถสร้างอสุจิได้ตามปกติ เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของภาวะมีบุตรยากในผู้ชาย ซึ่งพบได้ประมาณ 3% ของผู้ป่วยภาวะมีบุตรยากชาย” นพ.มานห์กล่าว
แม้จะไม่มีอสุจิในน้ำอสุจิ แต่ทางการแพทย์ยังมีเทคโนโลยีช่วยเหลือสำหรับผู้ป่วยกลุ่มนี้ นั่นคือ การผ่าตัดหาตัวอสุจิจากเนื้อเยื่ออัณฑะด้วยกล้องจุลทรรศน์ (Micro TESE) ซึ่งหากพบอสุจิแม้เพียงเล็กน้อย ก็สามารถนำมาใช้ในการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) ร่วมกับไข่ของภรรยาได้
บทสรุปที่เลือก เมื่อสายเลือดไม่ใช่ทุกอย่างในความเป็น "พ่อ"
“ตอนฟังผล เขาเงียบไปสักพัก ไม่ร้องไห้ ไม่โกรธ เขาแค่ถามว่า ‘แล้วใครคือพ่อที่แท้จริงของลูกผม?’” พันเอกฮา กว๊อก คานห์ อดีตรองผู้อำนวยการสถาบันวิทยาศาสตร์อาชญากรรม (กระทรวงความมั่นคงสาธารณะ) ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์ของบริษัทวิเคราะห์พันธุกรรม ซึ่งเป็นผู้ทำการทดสอบดีเอ็นเอให้กับนายเกียนโดยตรง เล่าถึงเหตุการณ์วันนั้น
คำตอบนั้น... อาจมีเพียงแม่ของเด็กเท่านั้นที่รู้ และวันนี้สำหรับนายเกียน คำตอบว่าใครคือพ่อแท้จริงของลูก อาจไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดอีกต่อไป สิ่งที่ทำให้เขาช็อกยิ่งกว่า ก็คือความจริงเกี่ยวกับร่างกายของตัวเอง บางสิ่งที่ตลอด 50 ปีที่ผ่านมา เขาไม่เคยล่วงรู้เลย
แม้ความจริงจะเปิดเผยว่า นายเหงียนไม่ได้เป็นพ่อโดยสายเลือดของเด็กทั้งสอง และตัวเองก็ไม่สามารถมีลูกได้ แต่นั่นเปลี่ยนแปลงทุกอย่างจริงหรือ? ในเมื่อความรัก ความเอาใจใส่ และความผูกพันตลอดกว่าทศวรรษที่อยู่ร่วมกันสิ่งเหล่านั้นยังคงอยู่ครบถ้วน เพราะไม่ได้ขึ้นอยู่กับสายเลือด แต่เกิดจากหัวใจของคนเป็นพ่ออย่างแท้จริง
บางทีสายเลือดอาจเป็นจุดเริ่มต้นของคำว่า “ครอบครัว” แต่สิ่งที่หล่อเลี้ยงให้คำนี้มีความหมายอย่างแท้จริง คือความรักต่างหาก
- ผัวทำหมัน แต่เมียตั้งท้อง เดือดจัดท้าตรวจ DNA วางเงินเดิมพัน 10 ล้าน ล่าสุดผลออกแล้ว!
- ผัวซึม แต่งงาน 5 ปีไม่มีลูก ทั้งที่ไม่ได้เป็นหมัน หมอตรวจร่ายกาย "เมีย" ถึงรู้สาเหตุเศร้า
