
เทียบเป็นข้อๆ สรุปให้กระจ่าง น้ำเย็น vs น้ำอุณหภูมิห้อง เลือกดื่มตอนไหนดีที่สุด?!
น้ำเย็นหรืออุณหภูมิห้อง? สรุปข้อดี-ข้อเสีย ดื่มเวลาไหนช่วยสุขภาพดีสุด!
“ดื่มน้ำให้มากขึ้น” กลายเป็นคำขวัญในการมีสุขภาพดี มีพลังงานมากขึ้น ผิวสวย และช่วยในการลดน้ำหนัก คำแนะนำการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขแห่งชาติของสหราชอาณาจักร แนะนำให้ดื่มน้ำวันละ 2 ลิตร แต่บางคนอาจต้องการมากกว่านั้น สถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติของสหรัฐอเมริกาแนะนำให้ผู้หญิงดื่มน้ำ 2.7 ลิตรต่อวัน และผู้ชายดื่ม 3.7 ลิตรต่อวัน
น้ำมีหลายรูปแบบ และบางคนก็รู้สึกถึงความแตกต่างระหว่างการดื่มน้ำเย็นกับน้ำอุณหภูมิห้อง หากไม่เช่นนั้น คนทั่วไปก็มักจะมีแบบที่ชอบอย่างใดอย่างหนึ่งเมื่อต้องการดับกระหาย แล้วความแตกต่างระหว่างสองสิ่งนี้คืออะไร?
กระเพาะอาหารมีปฏิกิริยาแตกต่างกันกับน้ำเย็นและน้ำอุ่น ซึ่งอาจส่งผลต่อการย่อยอาหาร ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าอุณหภูมิของน้ำอาจส่งผลต่อการไหลเวียนของเลือด และอาจทำให้เกิดอาการอย่างปวดหัวได้ อย่างไรก็ตามเมื่อพูดถึงเรื่องการให้ความชุ่มชื้นแก่ร่างกาย สิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้คือน้ำก็คือน้ำ ไม่ว่าอุณหภูมิจะเป็นอย่างไร
ดร. จิลล์ แบล็ควเวย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการฝังเข็มและแพทย์แผนจีน ผู้ก่อตั้งและนักสมุนไพรคลินิกแห่ง Yinova ให้สัมภาษณ์กับ Bustle ว่า "น้ำแบบไหนก็มีประโยชน์ทั้งนั้น" , “น้ำเย็นสดชื่นมาก เหมาะสำหรับดื่มในวันที่อากาศร้อน และเป็นทางเลือกที่ดีหลังออกกำลังกาย” แบล็ควเวย์กล่าว
ทุกคนสามารถเลือกอุณหภูมิของน้ำที่ตัวเองชอบได้ “ในบางกรณี น้ำอุ่นอาจดีกว่า และในบางกรณี น้ำเย็นก็อาจให้ประโยชน์มากกว่า” นักโภชนาการผู้มีใบรับรอง Vanessa Rissetto กล่าวกับ Bustle “มันขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวและอุณหภูมิที่คุณรู้สึกว่าเหมาะกับคุณที่สุด”
7 ข้อที่ควรรู้เกี่ยวกับน้ำอุณหภูมิห้องและน้ำเย็น
น้ำอุณหภูมิห้องช่วยดับกระหาย
การดื่มน้ำอุ่นสามารถช่วยดับกระหายได้ดี ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรจำหากคุณต้องการคงระดับน้ำในร่างกายให้เหมาะสม ริเซตโตกล่าวว่า “ในวันที่ร่างกายขับเหงื่อเพื่อรักษาความเย็น การดื่มน้ำอุ่นอาจไม่ปลอดภัย” พร้อมเตือนว่าหากคุณเลือกดื่มน้ำอุ่น คุณอาจไม่รู้สึกกระหายน้ำเท่าปกติ ซึ่งทำให้ดื่มน้ำน้อยลง เหงื่อน้อยลง และเสี่ยงต่อการเกิดภาวะร้อนเกิน
น้ำเย็นเหมาะสำหรับหลังออกกำลังกาย
แม้ว่าน้ำทุกอุณหภูมิจะช่วยเติมน้ำให้ร่างกายหลังออกกำลังกายได้ แต่ถ้าร่างกายคุณรู้สึกร้อนและมีเหงื่อ น้ำเย็นก็เป็นตัวเลือกที่ดี “น้ำเย็นช่วยทำให้ร่างกายเย็นลง จึงเหมาะสำหรับหลังออกกำลังกายหรือเมื่อร่างกายร้อนมาก” แบล็ควเวย์กล่าว
น้ำอุณหภูมิห้องช่วยในการย่อยอาหาร
หากต้องการย่อยอาหารให้ดีที่สุด ควรดื่มน้ำอุณหภูมิห้องหรือน้ำอุ่นจะดีกว่า “แพทย์แผนจีนแนะนำให้ดื่มน้ำอุ่นเพราะช่วยในระบบย่อยอาหาร” แบล็ควเวย์กล่าว “น้ำเย็นอาจทำให้ไขมันในอาหารจับตัวแข็ง ทำให้การย่อยอาหารช้าลง”
น้ำเย็นอาจทำให้ปวดหัว
แบล็ควเวย์กล่าวว่ามีงานวิจัยพบว่า การดื่มน้ำเย็นอาจเพิ่มความเสี่ยงในการปวดหัว และอาจกระตุ้นไมเกรน
น้ำอุณหภูมิห้องช่วยลดอาการท้องผูก
“ต่างจากน้ำเย็น น้ำอุ่นช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดและคลายกล้ามเนื้อ ซึ่งสามารถบรรเทาอาการท้องผูกและปวดท้องได้” แบล็ควเวย์กล่าว
น้ำเย็นอาจทำให้โพรงไซนัสอุดตัน
แบล็ควเวย์กล่าวว่ามีการศึกษาชี้ว่าการดื่มน้ำเย็นทำให้เสมหะข้นขึ้น ทำให้ระบายออกยาก หากคุณป่วยและมีน้ำมูกเยอะ ควรเลือกดื่มน้ำอุ่น
น้ำอุณหภูมิห้องช่วยกระตุ้นการเผาผลาญ
แบล็ควเวย์กล่าวว่าการดื่มน้ำอุ่นสามารถเพิ่มอุณหภูมิร่างกาย ซึ่งดีต่อระบบเผาผลาญ
น้ำมีประโยชน์อย่างไรต่อสุขภาพอย่างไร? จากข้อมูลของ Mayo Clinic ในสหรัฐอเมริกา น้ำเป็นองค์ประกอบทางเคมีหลักของร่างกายมนุษย์ โดยคิดเป็นประมาณ 50% ถึง 70% ของน้ำหนักตัว
ทุกเซลล์และอวัยวะในร่างกายต้องการน้ำเพื่อทำงาน เช่น การขับของเสียทางปัสสาวะ เหงื่อ และการขับถ่าย, ควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย, หล่อลื่นข้อต่อ และป้องกันเนื้อเยื่อที่บอบบาง การขาดน้ำอาจทำให้เกิดภาวะขาดน้ำ ซึ่งเป็นสภาวะที่ร่างกายไม่มีน้ำเพียงพอในการทำหน้าที่ตามปกติ แม้เพียงเล็กน้อยก็อาจทำให้รู้สึกเหนื่อยล้าได้มาก
Mayo Clinic แนะนำว่าช่วงเวลาที่เหมาะสมในการดื่มน้ำคือ ขณะรับประทานอาหาร, ระหว่างมื้ออาหาร, ก่อน ระหว่าง และหลังออกกำลังกาย รวมถึงเมื่อคุณรู้สึกกระหาย อย่างไรก็ตาม เมื่อคุณต้องการน้ำสักแก้ว คุณสามารถเลือกดื่มจากตู้เย็นหรือน้ำอุณหภูมิห้องก็ได้ ทั้งสองแบบมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน ดังนั้นขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวของแต่ละคน