
แม่เคยร้องไห้ คลอดลูกชาย "ขี้เหร่" แต่โต 4 ขวบขึ้นแท่นนายแบบเด็ก หล่อจนแบรนด์รุมจีบ!
แม่ถึงกับร้องไห้โฮหลังคลอด เพราะลูกชายเกิดมาหน้าตาไม่น่ารัก แต่ 4 ปีต่อมากลายเป็นหน้าตาดีแบบลูกครึ่ง ขึ้นแท่นนายแบบเด็กสุดฮอต!
ประโยคที่ว่า “เด็กโตแล้วหน้าจะเปลี่ยน” เป็นคำพูดติดปากของพยาบาลและคุณหมอหลายคน แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นคำกล่าวที่คุณแม่มือใหม่ไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่นัก โดยมองว่าเป็นเพียงกสนปลอบใจเมื่อเห็นความกังวลเสียมากกว่า อย่างไรก็ดี ในชีวิตจริงก็มีหลายเคสที่พิสูจน์แล้วว่า คำกล่าวของผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์นั้น เป็นความจริงที่เชื่อถือได้ไม่น้อยเลย!
หนึ่งในกรณีที่เห็นภาพชัดเจนคือเรื่องราวของ “เสี่ยวหนูเป่าเป่า” (小儒宝宝) ที่กำลังกลายเป็นกระแสฮือฮาบนโซเชียลมีเดียในประเทศจีน เมื่อแม่ของเขาออกมาเล่าว่า ทันทีที่ลูกชายลืมตาดูโลก เธอถึงกับร้องไห้ เพราะลูกดูหน้าตาไม่น่ารักเอาเสียเลย ตอนคลอดออกมาเป่าเป่าตัวเล็ก ผอม หน้าแหลม ผิวเหลือง และเวลาร้องไห้ยิ่งดูไม่ดีเข้าไปใหญ่ เมื่อเห็นความกังวลมากล้นของคุณแม่มือใหม่ คุณหมอก็บอกว่ารูปลักษณ์ของเด็กจะเปลี่ยนไปเมื่อโตขึ้น และยืนยันว่าลูกชายของเธอจะโตมาหล่อแน่นอน แต่ตอนนั้นแม่ของเป่าเป่าคิดว่าเป็นเพียงคำปลอบใจจากคุณหมอเท่านั้น
ใครจะเชื่อว่า ยิ่งเลี้ยงลูกชายคนนี้ไปนานวันเข้า ยิ่งมองดูเด็กชายที่เจริญเติบโตขึ้นทุกวัน ผู้เป็นแม่ก็เริ่มเห็นว่าคำพูดของคุณหมอนั้นเป็นจริง กระทั่งเมื่อเป่าเป่าอายุ 4-5 ขวบ เขากลายเป็นเด็กชายหน้าตาดี ผมหนาสีออกทองๆ เหมือนเด็กลูกครึ่งฝรั่ง นอกจากนั้น เป่าเป่ายังมีหน้าผากกว้าง ทำให้ใบหน้าโดยรวมดูหล่อฉลาด สัดส่วนใบหน้าก็สมส่วน ดวงตากลมโตดำสนิท จมูกเล็กน่ารัก ที่สำคัญคือริมฝีปากดูชมพูสดใสน่ารักตลอดเวลา
เมื่อแม่เห็นลูกชายหน้าตาน่ารักมากขึ้นเรื่อยๆ เธอก็เริ่มโพสต์ภาพลงโซเชียล และนั่นก็เป็นโอกาสของเป่าเป่า เพราะเริ่มมีงานนายแบบเด็กและถ่ายโฆษณาเข้ามาไม่ขาดสาย ภาพถูกแชร์ไปทั่วและได้รับคำชื่นชมไม่ขาดปาก พร้อมทั้งถูกตั้งฉายาว่า "เด็กที่หล่อที่สุดในอินเทอร์เน็ต" ทุกวันนี้ค่าใช้จ่ายในการซื้อนมและข้าวของต่างๆ ให้ลูก ก็มาจากค่าตัวของเป่าเป่าเองทั้งนั้น
ขณะเดียวกันหลายคนก็ยังสงสัยว่า พ่อแม่ของเป่าเป่าต้องหน้าตาดีมากแน่ๆ แต่ที่น่าประหลาดใจก็คือ พวกเขาก็เป็นเพียงคนหน้าตาธรรมดาๆ เท่านั้น แต่อาจเป็นเพราะว่าเป่าเป่าฉลากเลือกรับพันธุกรรมที่ดีที่สุดจากพ่อแม่มานั่นเอง ไม่เพียงเท่านั้น แต่ชาวเน็ตยังมีการตั้งประเด็นขบคิดกันด้วยว่า ทำไมเด็กที่เกิดในยุค 80-90 หน้าตาไม่ค่อยโดดเด่น แต่เด็กที่เกิดตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา หน้าตากลับดูดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด? ซึ่งคำตอบมีหลายปัจจัย ได้แก่
แม่หลายคนดูแลตัวเองอย่างดีมากตอนตั้งครรภ์ เช่น กินอาหารเสริม DHA หรือถั่งเช่า และทานธาตุเหล็กอย่างสม่ำเสมอ เด็กที่เกิดมาจึงมีดวงตาสดใส ผิวพรรณดี
ปัจจุบัน พ่อแม่ให้ความสำคัญกับการเลี้ยงลูกแบบวิทยาศาสตร์ พาไปตรวจสุขภาพประจำ หากลูกน้ำหนักเกินก็ให้แพทย์ช่วยดูแล หากลูกผอมก็เน้นโภชนาการมากขึ้น
ในอดีต เด็กมักใส่เสื้อผ้าต่อจากพี่น้อง ไม่ค่อยได้ของใหม่ และไม่มีใครให้ความสำคัญกับการแต่งตัวของเด็ก เพราะเน้นแค่ “กินอิ่ม” แต่ปัจจุบันการเลี้ยงลูกแบบ “กินดี แต่งตัวดี” กลายเป็นเรื่องธรรมดา เด็กที่สะอาด มีกลิ่นหอม ใส่เสื้อผ้าสวย ทำผมเรียบร้อย ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เด็กยุคนี้ย่อมดูน่ารักกว่าเด็กสมัยก่อนอย่างชัดเจน
เรื่องราวของน้องเป่าเป่าถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่สะท้อนให้เห็นว่า ความรัก ความใส่ใจ และการเลี้ยงดูอย่างดีตั้งแต่ในครรภ์จนถึงวัยเติบโต ล้วนมีส่วนสำคัญต่อพัฒนาการทั้งด้านร่างกายและบุคลิกภาพของเด็ก แม้จะเริ่มต้นด้วยความกังวลและความไม่มั่นใจ แต่สุดท้ายแล้ว เด็กคนหนึ่งก็สามารถเปล่งประกายความงามและความสามารถออกมาได้อย่างน่าทึ่ง และกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับพ่อแม่หลาย ๆ คนว่า "ความสวยงามที่แท้จริง อาจใช้เวลาในการผลิบานเสมอ
ท้ายที่สุดแล้ว ขอทุกครอบครัวได้โปรดอย่าลืมว่า เด็กทุกคนคือของขวัญที่สวยงามที่สุดในแบบของตัวเอง