"ตั้ม วราวุธ" พ่อพระมาโปรด เห็นใจคู่กรณี โอนเงินช่วยเคลียร์คดี

ฟิตจัด! ตั้ม วราวุธ กู้ร่างรับอีเวนท์ฉ่ำ พ่อพระมาโปรด เห็นใจคู่กรณีโอนเงินช่วยเคลียร์คดี

สร้างความตกใจให้เพื่อนพี่น้องในวงการบันเทิง รวมไปถึงเหล่าแฟนคลับ หลังนักร้องสายเอ็นเตอร์เทนต์ ตั้ม วราวุธ เกิดอุบัติเหตุครั้งใหญ่ได้รับบาดเจ็บนอนห้องไอซียูอยู่หลายวัน อาการน่าตกใจทั้งปากฉีก จมูกหัก ฟันหน้าหัก

ล่าสุด หนุ่มตั้ม กู้ร่างกลับมาโหมรับงานโชว์ตัวฉ่ำๆ พร้อมโดดมาเปิดรายการ "โต๊ะหนูแหม่ม" ช่องworkpoint หมายเลข23 กับพิธีกรคนเก่ง "หนูแหม่ม สุริวิภา" อัปเดตอาการเจ็บป่วย และคดีความกับคู่กรณีที่บอกเลยว่าคดีพลิก "หนุ่มตั้ม" พ่อพระมาโปรดสุดๆ

ย้อนถามถึงอุบัติเหตุเป็นอะไรที่ทุกคนตกใจมาก ?
"เป็นอะไรที่ทุกคนตกใจ ผมเองก็ตกใจ แต่ตอนนี้ค่อยๆกลับมาร้อยเปอร์เซ็นต์ละ แต่ภายนอกที่ปากยังขยับไม่ได้เหมือนเดิม"

เพราะอะไรที่ยังขยับไม่ได้เหมือนปกติ ?
"เพราะว่าเค้าเย็บปากให้มันมาติดกัน ตอนแรกมันฉีกออกจากกัน พอเย็บติดกันแล้วต้องรอเนื้อให้มันสมานกัน หมอบอกว่ามันจะกลับมาเหมือนเดิมแต่ว่าต้องใช้เวลาครับ"

ที่แฟนๆ และเพื่อนๆ ช็อคๆ กัน เพราะอยู่ในไอซียูหลายวัน ?
"อยู่ในไอซียู 4 วันครับ หมอบอกว่าที่ต้องอยู่ไอซียู 4 วัน เพราะว่าตอนที่จะดัดจมูกกลับ มันต้องเลือดออกเยอะมาก เค้ากลัวเลือดลงคอเพราะเราหายใจทางจมูกไม่ได้เลย เราต้องใส่เครื่องหายใจเพราะว่าเค้าใส่เฝือกดามที่จมูก ดังนั้นเลือดมันจะสำลักลงคอได้ตลอดเวลา เค้าเลยเป็นห่วงว่ามันน่าจะอันตรายและให้ใส่เครื่องช่วยหายใจด้วย"

ทั้งหมดแล้วอาการหนักๆ จากอุบัติเหตุมีอะไรบ้าง ?
"ดั้งหัก ฟันข้างหน้าแตก ตอนนี้ใส่ชั่วคราวไว้ก่อน ที่ยังใส่อันจริงไม่ได้เพราะว่าตอนที่ทำมันต้องอ้าปากกว้าง ซึ่งตอนนี้เรายังไม่พร้อม เพราะต้องช่วงปากยังเป็นไตๆเป็นแข็งๆยังเจ็บอยู่ ในส่วนของสมองไม่มีอะไรมากสแกนไปแล้วสองรอบ สแกนตั้งแต่ตอนที่ไปถึงโรงพยาบาลไม่เป็นอะไร และเช็คสแกนตอนออกจากโรงพยาบาลอีกรอบให้รู้ว่าไม่เป็นอะไร"

ตอนนี้เห็นว่ากลับมารับงานแล้ว หายเร็วมาก ?
"กลับมารับงานปกติแล้วครับยังร้องเพลงได้อยู่ ภายใน 2 อาทิตย์ก็แคนเซิลไปหลายงาน แต่ถ้ายังไม่รับผมน่าจะโดนหยุดยาว (หัวเราะ) ถ้าผมไม่ไปเท่ากับต้องคืนเงิน เราก็รู้สึกว่าไม่ไหวแล้วถ้าเราจะต้องแคนเซิลเค้าอีก เพราะว่าตอนมีความเชื่อมั่นของเราลูกค้าก็ไม่กล้าจัง กลัวงานอีเวนท์มันจะน้อยลง เพราะเค้าอาจจะกลัวว่าเราหายหรือยัง ตอนนี้มันหายแล้วร้อยเปอร์เซ็นต์แต่อาจจะมีตึงๆอยู่เหมือนคนไปฉีดฟิลเลอร์มา"

ถามถึงการไกล่เกลี่ยกับคู่กรณีตอนนี้เป็นไงบ้าง ?
"ตอนแรกผมก็กังวลว่าทำไมเค้าไม่ติดต่อมา ไม่มีการโทรมา ไม่มีการขอโทษหรืออะไรเพราะเค้าผิด ผิดเต็มๆ ผมก็รอ จนผมตัดสินใจว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด จริงๆเรามีนัดที่จะเจอกับญาติของคู่กรณี แต่คู่กรณีมาไม่ได้เพราะเค้าสะโพกหัก ขาก็หักใส่เหล็ก แล้วนัดเจอญาติ ญาติเค้าก็ไม่มา เราก็ยิ่งร้อนไปหมดทำไมถึงยากเย็น"

"ปรากฎว่าทางตำรวจให้เราวีดีโอคอลกับคู่กรณีเราโดยตรง เค้าก็รับโทรศัพท์เค้าก็ขอโทษนะครับ เค้าก็บอกว่าเค้าผิดเต็มๆ ครับ ถ้าจะให้เค้ารับผิดชอบยังไงก็บอกได้เลย ผมก็สงสารนะครับ รู้สึกว่าเค้าเป็นหนักเหมือนกัน ตรงนี้ความสงสารก็ต้องแยกไว้"

"เท่าที่รู้มานะครับ ทางเค้าก็แย่เหมือนกันคุณพ่อเค้าก็มีอาการป่วยติดเตียง คุณแม่ก็ทำงานเป็นแม่บ้านกวาดโรงพยาบาล ภรรยาท้องสามเดือน ตัวเค้าเองที่เล่ามาก็แย่ แต่ผมก็ไม่รู้ว่าจริงไม่จริงแค่ไหน แต่ในเบื้องต้นค่าที่ตรวจมอเตอร์ไซค์ผมก็จ่ายไปให้เค้าแล้ว (หัวเราะ) ผมก็ออกให้เค้าเพราะว่าผมสงสาร"

"ขอให้เขาไม่โกหกผม ขอให้เขาจริงใจกับผมจริง เดี๋ยวเราค่อยมาคุยกันอีกที รอเค้าหายก่อน ผมไม่ได้ไปเร่งหรือไปอะไรเค้า ความจริงอุบัติเหตุก็ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นหรอก มันเกิดจากความประมาทนั้นแหละ ผมเข้าใจว่าคนเรามันพลาดกันได้"