เนื้อหาในหมวด ข่าว

\

"ให้การภาคเสธ" ไม่ได้แปลว่าปฏิเสธทั้งหมด แล้วมันหมายความว่าอะไรกันแน่?

เวลาเราเห็นข่าวคดีความหรือคำให้การในชั้นศาล มักจะมีประโยคที่ว่า “จำเลยให้การภาคเสธ” ซึ่งหลายคนอาจเข้าใจผิดว่าแปลว่า “จำเลยปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา” หรือ “ไม่ยอมรับอะไรเลย”

แต่ในความจริงแล้ว คำว่า “ให้การภาคเสธ” ไม่ได้หมายความแบบนั้นเลย แล้วมันหมายถึงอะไร? มาทำความเข้าใจกันให้ชัดเจน

“ให้การภาคเสธ” หมายถึงอะไร?

ในทางกฎหมาย “ให้การภาคเสธ” หมายถึง การที่จำเลยรับสารภาพบางข้อหา แต่ปฏิเสธบางข้อหา หรืออาจจะ ยอมรับข้อเท็จจริงบางส่วน แต่ไม่ยอมรับว่าเป็นความผิด ตามที่ถูกกล่าวหา

กล่าวให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ การแบ่งรับแบ่งสู้ จำเลย "ไม่ปฏิเสธทั้งหมด" แต่ก็ "ไม่รับสารภาพทั้งหมด" เช่นกัน

ตัวอย่างให้เข้าใจง่าย

  • คดีหนึ่งมี 3 ข้อหา
  • จำเลยยอมรับว่าตนเองอยู่ในที่เกิดเหตุ (รับสารภาพบางข้อเท็จจริง)
  • แต่ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นคนลงมือทำร้าย (ปฏิเสธบางข้อหา)

ในกรณีแบบนี้ ศาลจะบันทึกว่า “จำเลยให้การภาคเสธ”

deposit

แตกต่างจาก “รับสารภาพ” และ “ให้การปฏิเสธ” อย่างไร?

รูปแบบคำให้การ ความหมาย
รับสารภาพ ยอมรับว่าทำผิดทุกข้อกล่าวหา
ให้การปฏิเสธ ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ไม่ยอมรับความผิดใด ๆ
ให้การภาคเสธ ยอมรับบางส่วน ปฏิเสธบางส่วน

ทำไม “ให้การภาคเสธ” จึงสำคัญในกระบวนการยุติธรรม?

การให้การภาคเสธเปิดโอกาสให้ศาลพิจารณาข้อเท็จจริงอย่างรอบด้าน ช่วยให้ศาลสามารถแยกแยะว่าจำเลยสมควรรับผิดในข้อหาใดบ้าง และในระดับไหน โดยพิจารณาจากพยานหลักฐานประกอบกัน

สรุป

  • “ให้การภาคเสธ” ไม่ได้หมายถึง “ปฏิเสธทุกอย่าง”
  • หมายถึง “ยอมรับบางส่วน ปฏิเสธบางส่วน”
  • ใช้เพื่อให้ศาลพิจารณาข้อเท็จจริงอย่างรอบคอบในทุกด้าน

ดังนั้น คราวหน้าเมื่อคุณเจอข่าวว่า “จำเลยให้การภาคเสธ” อย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่าจำเลยปัดความรับผิดชอบทั้งหมด เพราะในทางกฎหมาย คำนี้มีความหมายที่ลึกกว่านั้น และเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการยุติธรรมที่เปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายได้แสดงข้อเท็จจริงอย่างเต็มที่