
a.m. กับ p.m. ย่อมาจากอะไร? เข้าใจให้ละเอียด จะได้นำไปใช้ได้ถูกต้อง
เวลาเราดูนาฬิกาหรือกำหนดเวลานัดหมาย หลายคนคงคุ้นเคยกับการใช้คำว่า a.m. และ p.m. ต่อท้ายตัวเลข เช่น 9:00 a.m. หรือ 3:30 p.m.
แต่เคยสงสัยไหมว่า คำย่อเหล่านี้มาจากไหน? และแท้จริงแล้วมันหมายถึงอะไรกันแน่?
a.m. ย่อมาจากอะไร?
คำว่า a.m. มาจากภาษาละตินว่า ante meridiem แปลว่า “ก่อนเที่ยงวัน”
ดังนั้น เวลาที่ใช้ a.m. จึงหมายถึงช่วงเวลา ตั้งแต่เที่ยงคืน (00:00) ไปจนถึงก่อนเที่ยงวัน (11:59)
ตัวอย่าง:
- 7:00 a.m. = เจ็ดโมงเช้า
- 11:45 a.m. = สิบเอ็ดโมงสี่สิบห้านาที
p.m. ย่อมาจากอะไร?
คำว่า p.m. มาจากภาษาละตินว่า post meridiem แปลว่า “หลังเที่ยงวัน”
ดังนั้น เวลาที่ใช้ p.m. จะหมายถึงช่วงเวลา ตั้งแต่เที่ยงวัน (12:00) ไปจนถึงก่อนเที่ยงคืน (23:59)
ตัวอย่าง:
- 1:00 p.m. = บ่ายโมง
- 9:30 p.m. = สามทุ่มครึ่ง
ทำไมต้องใช้ a.m. และ p.m.?
ระบบเวลาแบบ 12 ชั่วโมง (12-hour clock) ที่ใช้ a.m. กับ p.m. นิยมใช้ในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก เช่น สหรัฐอเมริกา แคนาดา และฟิลิปปินส์ เป็นต้น เพื่อช่วยแยกแยะว่า "9 โมง" หมายถึง "เช้า" หรือ "ค่ำ"
ในขณะที่หลายประเทศรวมถึงไทยเอง ก็มีการใช้ร่วมกันกับระบบ 24 ชั่วโมง (เช่น 14:00 = บ่ายสอง) แล้วแต่บริบท
สรุปแบบเข้าใจง่าย
คำย่อ | มาจากภาษาละติน | แปลว่า | ช่วงเวลา |
---|---|---|---|
a.m. | ante meridiem | ก่อนเที่ยงวัน | 00:00 – 11:59 |
p.m. | post meridiem | หลังเที่ยงวัน | 12:00 – 23:59 |
คราวหน้าถ้าเห็นคำว่า a.m. หรือ p.m. ก็ไม่ต้องทำหน้างงอีกต่อไปแล้ว เพราะตอนนี้คุณรู้แล้วว่ามันย่อมาจากอะไร และใช้อย่างไรให้ถูกต้อง!