
รู้จักกับ "วงศ์เหี้ย 4 ชนิดในไทย" มีอะไรบ้าง? สัตว์หน้าตาน่ากลัวแต่น้องมีประโยชน์กว่าที่คิด
เมื่อพูดถึง “เหี้ย” หรือ ตัวเงินตัวทอง หลายคนอาจรู้สึกหวาดกลัวหรือรังเกียจ เพราะรูปลักษณ์ที่ดูดุและขนาดตัวที่ใหญ่โต
แต่รู้หรือไม่ว่า ในธรรมชาติ เหี้ย มีประโยชน์ต่อระบบนิเวศอย่างมาก และในประเทศไทยยังมีสัตว์ในตระกูลเดียวกันถึง 4 ชนิด เลยทีเดียว
4 วงศ์ “เหี้ย” ที่พบในประเทศไทย
ทั่วทั้งโลกสามารถพบเหี้ยได้ประมาณ 81 ชนิด แบ่งออกเป็น 2 สกุลย่อย ได้แก่ สกุลย่อย Varanus พบกระจายพันธุ์ในทวีปแอฟริกาและทวีปเอเชีย และอีกสกุลย่อย Euprepiosaurus พบกระจายพันธุ์ในออสเตรเลีย
และในประเทศไทย สามารถพบสัตว์ตระกูลเหี้ยได้ 4 ชนิด ได้แก่ 1. เหี้ย เป็นเหี้ยที่พบได้บ่อยที่สุด พบกระจายพันธุ์ทั่วประเทศ, 2. ตะกวด พบกระจายพันธุ์ตั้งแต่ภาคกลางตอนบนไล่มาจนถึงภาคใต้ และแพร่กระจายอยู่ตามเกาะต่างๆอย่าง เกาะเต่า
3. เห่าช้าง พบได้เฉพาะในภาคใต้ และมีรายงานการพบที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมาด้วย และ 4. ตุ๊ดตู่ พบกระจายพันธุ์ตั้งแต่ภาคตะวันตกไล่ลงมาถึงภาคใต้

1. เหี้ย (Varanus salvator)
- ชื่อสามัญ: Water monitor
- ลักษณะเด่น: ตัวใหญ่ที่สุดในกลุ่ม ลายจุดเหลืองดำ
- ถิ่นอาศัย: แหล่งน้ำ คลอง หนองบึง เมืองใหญ่
- พฤติกรรม: ว่ายน้ำเก่ง กินซากสัตว์ ไข่งู
- สถานะ: สัตว์ป่าคุ้มครอง
2. แลน หรือ ตะกวด (Varanus bengalensis)
- ชื่อสามัญ: Bengal monitor (Varanus bengalensis)
- ลักษณะเด่น: ตัวเล็กกว่าเหี้ย ผิวหนังน้ำตาลเรียบ
- ถิ่นอาศัย: พื้นที่แห้ง ป่าโปร่ง ไร่สวน
- พฤติกรรม: ปีนเก่ง คล่องแคล่ว กินแมลง ไข่
3. เห่าช้าง (Varanus rudicollis)
- ชื่อท้องถิ่น: พบเฉพาะภาคใต้
- ลักษณะเด่น: คล้ายเหี้ย ขนาดใหญ่ ใกล้เคียง
- ถิ่นอาศัย: ภาคใต้ เช่น พัทลุง นครศรีธรรมราช
- พฤติกรรม: เชื่อว่ามีพฤติกรรมคล้ายเหี้ย แต่มีความเชื่อท้องถิ่นเกี่ยวกับอาถรรพ์
4. ตุ๊ดตู่ (Varanus dumerilii)
- ลักษณะเด่น: ตัวเล็กที่สุดในกลุ่ม สีเข้มหรือดำสนิท
- ถิ่นอาศัย: ป่าลึก ภาคเหนือและตะวันตก
- พฤติกรรม: ว่องไว หลบซ่อนได้ดี พบเห็นยาก
ที่อยู่อาศัยและพฤติกรรม
ตัวเงินตัวทองมักอาศัยอยู่ใกล้แหล่งน้ำ เช่น หนองน้ำ คูคลอง หรือบริเวณป่าชื้น และมักขุดโพรงอยู่ใกล้อาคารเรียนหรือแหล่งชุมชน เช่นที่ มหาวิทยาลัยนเรศวร ก็เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่พบเหี้ยอาศัยอยู่จำนวนมาก และอยู่ร่วมกับมนุษย์โดยไม่ถูกรบกวน
ประโยชน์ของ “เหี้ย” ที่คุณอาจไม่เคยรู้
- 1. ช่วยกำจัดซากสัตว์
เหี้ยมีระบบย่อยอาหารที่ทรงพลัง กระเพาะอาหารมีกรดและแบคทีเรียเฉพาะที่สามารถย่อยสลายซากเน่าเปื่อย ช่วยทำความสะอาดระบบนิเวศ - 2. ควบคุมประชากรสัตว์บางชนิด
เหี้ยชอบกินไข่ของสัตว์หลายชนิด รวมถึงไข่งูพิษ ทำให้ช่วยลดจำนวนสัตว์มีพิษได้ในธรรมชาติ (แม้เหี้ยจะไม่ใช่นักล่าโดยตรง) - 3. เป็นสัตว์เศรษฐกิจ
ในต่างประเทศมีการเพาะเลี้ยงเหี้ยเพื่อนำเนื้อไปบริโภค โดยเฉพาะเนื้อช่วงโคนหางที่เรียกว่า “บ้องตัน” ซึ่งมีราคาสูง ส่วนหนังสามารถนำไปผลิตกระเป๋าและเข็มขัดเช่นเดียวกับจระเข้ ขณะเดียวกัน เครื่องใน เช่น ดีและตับ ยังใช้ในตำรับยารักษาโรคหัวใจ - 4. ใช้ในงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์
ภาควิชาพันธุศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ทำการเก็บและศึกษาดีเอ็นเอของเหี้ย เพื่อวิจัยความหลากหลายทางพันธุกรรม ซึ่งอาจนำไปสู่การพัฒนาให้เป็นสัตว์เศรษฐกิจในอนาคต
บทสรุป
แม้จะเป็นสัตว์ที่หลายคนหวั่นเกรง แต่ “เหี้ย” และญาติในวงศ์เดียวกันมีบทบาทสำคัญต่อระบบนิเวศและเศรษฐกิจมากกว่าที่เราคิด หากได้รับการทำความเข้าใจอย่างถูกต้อง ก็อาจเปลี่ยนมุมมองที่สังคมมีต่อสัตว์ชนิดนี้ได้อย่างสิ้นเชิง