ทำไมเลข 11 กับ 12 ในภาษาอังกฤษ ไม่อ่านว่า "วันทีน" กับ "ทูทีน"?
เคยสงสัยไหมว่า ทำไมตัวเลขตั้งแต่ 13 ถึง 19 ในภาษาอังกฤษถึงลงท้ายด้วยคำว่า -teen เช่น thirteen, fourteen, fifteen ฯลฯ
แต่เลข 11 และ 12 กลับกลายเป็น eleven และ twelve ซึ่งดูไม่สอดคล้องกันเลย? เราไปหาคำตอบพร้อมกัน
รากศัพท์จากภาษาอังกฤษโบราณ
คำว่า eleven และ twelve มาจากภาษาอังกฤษเก่า (Old English):
- Eleven มาจากคำว่า endleofan แปลว่า “หนึ่งที่เหลือหลังจากสิบ”
 - Twelve มาจากคำว่า twelf แปลว่า “สองที่เหลือหลังจากสิบ”
 
แนวคิดนี้เกิดจากการนับแบบโบราณที่ใช้ “สิบ” เป็นฐาน เมื่อถึง 11 และ 12 จึงใช้คำเฉพาะที่แปลว่ามีจำนวนเกินสิบเล็กน้อย
 
แล้ว -teen คืออะไร?
คำลงท้าย -teen มาจากคำว่า tien หรือ tene ซึ่งแปลว่า “สิบ” เช่น:
- Thirteen = Three + Teen
 - Fourteen = Four + Teen
 
เหตุผลที่ไม่ใช้ "oneteen" หรือ "twoteen"
- คำว่า eleven และ twelve มีใช้มาก่อนระบบ "-teen" จะถูกนำมาใช้แพร่หลาย
 - เป็นคำที่สั้นและง่ายต่อการพูดในยุคก่อน
 - เลี่ยงความสับสน เช่น oneteen อาจฟังคล้าย thirteen
 
12: ตัวเลขพิเศษในวัฒนธรรม
- มี 12 เดือนใน 1 ปี
 - มี 12 ชั่วโมงในช่วงครึ่งวัน
 - ระบบการค้าแบบโหล: 1 โหล = 12 ชิ้น
 
ทั้งหมดนี้ทำให้คำว่า twelve มีความสำคัญในเชิงวัฒนธรรมมาก และไม่น่าจะถูกแทนที่ง่ายๆ
บทสรุป
- Eleven และ Twelve มาจากคำโบราณที่แปลว่า “1 เหลือจากสิบ” และ “2 เหลือจากสิบ”
 - ใช้มาก่อนคำลงท้าย -teen จะถูกนำมาใช้กับตัวเลข 13–19
 - คงไว้เพราะเป็นคำสั้น กระชับ และสำคัญในเชิงวัฒนธรรม
 
แม้จะดูไม่สอดคล้องกับเลขอื่นๆในภาษาอังกฤษ แต่ทั้ง eleven และ twelve ก็เป็นคำที่สืบทอดมายาวนานและมีเรื่องราวน่าสนใจในตัวเอง