เนื้อหาในหมวด ข่าว

จีนเตือน! รองเท้าแตะเด็กสุดฮิต เสี่ยงดันลูก \

จีนเตือน! รองเท้าแตะเด็กสุดฮิต เสี่ยงดันลูก "โตไวเกินวัย" แฝงสารอันตราย ดูน่ารักแต่น่ากลัว

"รองเท้าแตะเด็ก" สุดฮิตในหน้าร้อน แฝงสารเคมีอันตราย เสี่ยงทำให้ลูกโตเกินวัยโดยไม่รู้ตัว!

ช่วงหน้าร้อนแบบนี้ หลายบ้านคงเลือกซื้อ “รองเท้าแตะพลาสติก” หรือรองเท้าแบบเจลลี่ ให้ลูกน้อยสวมใส่ เพราะระบายอากาศดี ใส่ง่าย และเล่นน้ำสะดวก แต่รู้หรือไม่? รองเท้าแตะที่ดูน่ารัก น่าใส่เหล่านี้ อาจกลายเป็นภัยเงียบที่ส่งผลต่อร่างกายและพัฒนาการของลูกน้อยได้ในระยะยาว

ล่าสุดที่ประเทศจีน มีองค์กรด้านสิ่งแวดล้อมในเมืองเซินเจิ้น ได้ทำการสุ่มตรวจรองเท้าแตะเด็กยอดนิยม 10 รุ่น ที่วางขายอยู่บน 5 แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชื่อดัง แล้วส่งไปตรวจที่ห้องแล็บที่ได้รับการรับรองอย่างถูกต้อง ผลออกมาไม่น่าเชื่อเลยว่า ในจำนวนตัวอย่างทั้งหมด 50 คู่ มีถึง 25 คู่ที่พบว่ามีสาร “พาทาเลต”  (Phthalates) เกินมาตรฐาน คิดเป็น 50% เลยทีเดียว

ที่น่าตกใจไปกว่านั้นคือ รองเท้าแตะบางคู่มีปริมาณพาทาเลตเกินมาตรฐานไปถึง 509 เท่า และยังมีอีกรุ่นที่ตรวจพบว่าเกินถึง 496 เท่า แต่กลับมียอดขายมากกว่า 1 ล้านคู่แล้วเรียบร้อย

พาทาเลตคืออะไร ทำไมถึงน่ากลัวขนาดนี้?

พาทาเลต (Phthalates) คือสารเคมีที่ใช้ในการทำพลาสติกให้ยืดหยุ่นนุ่มนิ่ม ซึ่งก็พบได้ในของใช้เด็กหลายชนิด เช่น ของเล่น ขวดน้ำ หรือรองเท้า อย่างไรก็ตาม สารชนิดนี้จัดอยู่ในกลุ่ม "สารรบกวนฮอร์โมน" ที่อาจเข้าสู่ร่างกายผ่านทางผิวหนัง หรือการหายใจ หากได้รับในปริมาณมากและเป็นเวลานาน อาจส่งผลเสียร้ายแรงต่อสุขภาพ โดยเฉพาะในเด็กเล็กที่ร่างกายยังพัฒนาไม่เต็มที่

ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่ การเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์เร็วเกินวัย, ความผิดปกติของระบบสืบพันธุ์, ปัญหาสมาธิสั้น หรือพฤติกรรมไฮเปอร์, โรคภูมิแพ้ หอบหืด และพิษสะสมจากโลหะหนัก หรือในผู้ใหญ่ก็อาจส่งผลต่อคุณภาพอสุจิหรือระบบฮอร์โมนได้เช่นกัน!

วิธีเลือก "รองเท้าแตเด็กะ" ให้ปลอดภัย ห่างไกลสารเคมี

 1. เลือกซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ ควรเลือกซื้อจากร้านค้าที่มีชื่อเสียง หรือแพลตฟอร์มออนไลน์ที่มีระบบรีวิวและควบคุมคุณภาพ ไม่ควรซื้อรองเท้าที่ไม่ทราบแหล่งผลิต หรือราคาถูกผิดปกติ

2. ตรวจสอบฉลากสินค้าให้ครบถ้วน รองเท้าที่ดีควรมีฉลากชัดเจน บอกชื่อสินค้า ผู้ผลิต ที่อยู่ มาตรฐานการผลิต และวัสดุที่ใช้ สำหรับในจีน รองเท้าสำหรับเด็กควรผ่านมาตรฐาน "GB 30585" ซึ่งเป็นข้อบังคับเฉพาะสำหรับรองเท้าเด็ก

 3. หลีกเลี่ยงสินค้าประเภท “สามไม่มี” หมายถึง ไม่มีฉลาก ไม่มีแบรนด์ ไม่มีมาตรฐาน เพราะมีแนวโน้มสูงที่จะใช้วัสดุราคาถูกและไม่ปลอดภัย

4. อย่าเลือกจากความน่ารักเพียงอย่างเดียว รองเท้าที่สีสดจัด หรือมีกลิ่นแรง อาจเป็นสัญญาณของสารเคมีตกค้าง โดยเฉพาะพาทาเลตหรือโลหะหนัก รวมถึงอย่าลืมเช็กว่ารองเท้ามีพื้นกันลื่นหรือไม่ เพื่อความปลอดภัยเวลาเดิน

5. ให้ลูกลองใส่ก่อนซื้อ พ่อแม่ควรให้ลูกลองใส่ เดินดูว่าพอดีเท้าหรือไม่ กดทับตรงไหนหรือเปล่า และพื้นรองเท้าลื่นหรือไม่ การใส่รองเท้าที่ไม่พอดีอาจทำให้เดินผิดท่า หรือเจ็บเท้าได้

6. ตรวจสอบรายงานผลการทดสอบ (ถ้ามี) บางแบรนด์อาจเปิดเผยผลการทดสอบรองเท้าบนเว็บไซต์ทางการ หรือหน้าแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น ค่าพาทาเลต, ฟอร์มาลดีไฮด์ หรือประสิทธิภาพการกันลื่น ซึ่งเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์อย่างมาก

และโปรดจำไว้ว่า....  ของดีไม่จำเป็นต้องถูกหรือขายดีเสมอไป ในยุคที่ของใช้เด็กมีให้เลือกหลากหลาย พ่อแม่ควรตัดสินใจอย่างรอบคอบ เพราะสินค้าบางอย่างที่ดู “น่ารัก” หรือ “ขายดี” อาจแฝงมาด้วยความเสี่ยงที่ไม่ควรมองข้าม สุขภาพลูกน้อยวันนี้ คืออนาคตของเขาในวันข้างหน้า อย่าปล่อยให้รองเท้าแตะคู่เล็กๆ กลายเป็นต้นตอของปัญหาสุขภาพระยะยาว

 

ไขความลับ 9 ของใช้ทั่วไปในห้องพักโรงแรม แต่แขกบางคนก็ไม่รู้ว่ามีไว้ทำไม?

ไขความลับ 9 ของใช้ทั่วไปในห้องพักโรงแรม แต่แขกบางคนก็ไม่รู้ว่ามีไว้ทำไม?

ไขความลับ 9 ของใช้ทั่วไปที่มักเจอในห้องพักโรงแรม ผ้าพาดปลายเตียงไม่ได้มีไว้แค่ตกแต่ง หมอน 4 ใบที่หัวเตียงก็มีเหตุผลสุดใส่ใจ

5 ดีไซน์ที่เหมือนไร้ประโยชน์ แต่ความจริงแล้ว \

5 ดีไซน์ที่เหมือนไร้ประโยชน์ แต่ความจริงแล้ว "เจ๋งสุดๆ" มีไม่น้อยที่ยังไม่รู้ความลับนี้!

5 ดีไซน์ที่หลายคนคิดว่าไร้ประโยชน์ แต่ความจริงแล้ว “เจ๋งสุด ๆ” แต่มีไม่น้อยที่อาจจะยังไม่รู้ความลับนี้

\

"รองเท้า" 3 คู่ กลายเป็นไวรัลทั่วโลก หัวอกคนเป็นพ่อแม่ ดูภาพนี้แล้วเข้าใจทันที

เผยเหตุผลที่ทำให้ภาพ "รองเท้า" 3 คู่ กลายเป็นไวรัลทั่วโลก ชาวเน็ตเห็นก็อดไม่ได้ที่จะน้ำตาไหล