
ใหญ่กว่าจะฉลาดกว่า? ผลวิจัยออกมาแล้ว "ขนาดสะโพกของแม่" มีผลต่อ IQ ลูกที่เกิดมา
"สาวก้นใหญ่" มีลูกฉลาดกว่า เพราะไขมันสะโพกแม่ช่วยบำรุงสมองทารก วิจัยเผยชัดๆ จริงหรือมั่ว?!
งานวิจัยพบว่า ไขมันบริเวณสะโพก-ต้นขาของผู้หญิง อาจมีบทบาทสำคัญต่อพัฒนาการสมองของลูกน้อยในครรภ์ โดยเฉพาะการส่งต่อสารอาหารจำเป็นอย่างโอเมก้า-3
งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยพิตส์เบิร์ก (University of Pittsburgh) ในสหรัฐฯ โดย ศ. ดร. วิล แล็สเซค (Will Lassek) และคณะ แสดงให้เห็นว่าผู้หญิงที่มีไขมันสะโพกและต้นขาในระดับเหมาะสม มักมีปริมาณกรดไขมันโอเมก้า-3 สูง ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของสมองทารก โดยเฉพาะ DHA ที่มีผลต่อความจำ การเรียนรู้ และการพัฒนาสมอง
“ไขมันสะโพกของแม่ คือคลังเก็บกรดไขมันจำเป็น ที่ลูกใช้ในการสร้างสมองระหว่างตั้งครรภ์และให้นม” – ศ. ดร. วิล แล็สเซค กล่าว
ฃงานวิจัยบางชิ้นยังพบว่า เด็กที่เกิดจากแม่ที่มีไขมันบริเวณนี้มากพอสมควร อาจมีแนวโน้มทำคะแนนการทดสอบ IQ ได้สูงกว่าเล็กน้อย โดยเชื่อว่าเกี่ยวข้องกับการได้รับ DHA อย่างต่อเนื่องในช่วงพัฒนาการสมอง
อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์เตือนว่ายังไม่มีหลักฐานฟันธงว่า "ก้นใหญ่ = ลูกฉลาด" โดยตรง แต่ยืนยันว่า DHA และไขมันโอเมก้า-3 จากแม่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสมองของลูก
ระวัง! “ความอ้วน” กับ “ไขมันดี” ไม่เหมือนกัน หลายคนอาจเข้าใจผิดว่าไขมันเยอะคือดี แต่จริงๆ แล้ว ความอ้วนเกินมาตรฐาน (BMI สูง) โดยเฉพาะก่อนตั้งครรภ์ อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการพัฒนาล่าช้าในเด็กได้
-
การศึกษาจากสหรัฐฯ พบว่า เด็กชายที่แม่มีน้ำหนักเกินก่อนตั้งครรภ์ อาจมีคะแนน IQ ต่ำกว่าโดยเฉลี่ย 2–3 คะแนน
-
MRI ยังชี้ว่าแม่ที่อ้วนมาก อาจมีผลต่อการเชื่อมต่อสมองในทารกแรกเกิดลดลง
คำแนะนำจากแพทย์ คือ การรักษาสุขภาพและไขมันที่สมดุล โดยไม่เน้นแค่รูปร่าง แต่เน้นสารอาหารที่เพียงพอต่อการเจริญเติบโตของลูก โดยแหล่งโอเมก้า-3 เพื่อแม่ตั้งครรภ์และให้นม เช่น ปลาทะเล เช่น ปลาแซลมอน, ปลาทู, ถั่ววอลนัต, เมล็ดแฟลกซ์, น้ำมันปลาหรือ DHA เสริม (ควรปรึกษาแพทย์)
แม้ข่าว "สาวก้นใหญ่ ลูกฉลาด" จะเป็นไวรัลที่น่าสนใจ แต่ความจริงคือพัฒนาการสมองของทารกขึ้นอยู่กับโภชนาการของแม่มากกว่ารูปร่าง การดูแลสุขภาพโดยรวม การรับ DHA และไขมันดีอย่างเหมาะสมคือกุญแจสำคัญในการเลี้ยงลูกให้ฉลาดและแข็งแรง
- ศาสตราจารย์ชื่อดัง ชี้ส่งลูกเรียนพิเศษ 3 คลาสนี้ เปลืองเงินไร้ประโยชน์ พ่อแม่ต้องรู้ให้ทัน!
- ศจ.ชื่อดัง ชี้สังเกต “เด็ก EQ ต่ำ” มักมี 3 พฤติกรรมนี้บนโต๊ะอาหาร พ่อแม่ต้องรีบแก้ไขด่วน!