.jpg)
มีอะไรบ้าง? เช็กลิสต์สิ่งของจากชายผู้เตรียมรับมือรับ "วันสิ้นโลก" เชื่อจะได้ใช้ก่อนปี 2030
"นักเตรียมพร้อมวันสิ้นโลก" เผยของที่สะสมไว้รับมือสงครามโลกครั้งที่ 3 "ชาห์ซาด คายานี" เตรียมทุกอย่างไว้พร้อม หากโลกเกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่
ท่ามกลางสถานการณ์โลกที่ดูเหมือนจะใกล้เข้าสู่ความหายนะอยู่ทุกเมื่อ ชาห์ซาด คายานี จึงไม่ยอมประมาทแม้แต่นิดเดียว
ชายผู้นี้ที่ได้รับฉายาว่า “นักเตรียมพร้อมวันสิ้นโลก” บอกว่า เขามั่นใจว่าจะสามารถเอาตัวรอดจากภัยพิบัติระดับโลกได้ เพราะตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขาได้สะสมเสบียงและอุปกรณ์เอาตัวรอดไว้อย่างครบครัน
เขาประเมินว่าได้ใช้เงินไปแล้วกว่า 40,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.3 ล้านบาท) กับสิ่งของจำเป็นต่าง ๆ ซึ่งเตรียมไว้เผื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น ภัยธรรมชาติ โรคระบาดครั้งใหม่ ไฟฟ้าดับทั่วประเทศ หรือแม้กระทั่งสงครามโลกครั้งที่ 3
ชายวัย 31 ปีจากรัฐออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา ไม่ได้เพิ่งเริ่มสะสมของในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาเท่านั้น
ชาห์ซาดเริ่มเตรียมพร้อมรับมือวันสิ้นโลกมาตั้งแต่เกือบ 20 ปีก่อน หลังจากที่เขาเริ่มสนใจเรื่องการเอาตัวรอดเมื่ออายุเพียง 12 ปี จากการดูรายการ Man vs. Wild ของแบร์ กริลส์ เป็นครั้งแรก
แรงบันดาลใจจากทักษะเอาตัวรอดของนักผจญภัยชาวอังกฤษ ทำให้ชาห์ซาดเริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับของจำเป็นที่ควรสะสมไว้ เช่น อุปกรณ์จุดไฟ มีด และอาหารที่เก็บได้นาน
ต่อมาเขาก็ตระหนักว่า สิ่งที่น่าจะเกิดขึ้นจริงไม่ใช่การติดอยู่ในป่า แต่เป็นวิกฤตสิ่งแวดล้อม การระบาดของโรคอย่างโควิด ไฟดับทั่วโลก หรือสงครามระหว่างประเทศ
จากนั้นเขาก็เริ่มทยอยเก็บสะสมอุปกรณ์ที่จำเป็นทีละเล็กละน้อยตลอดหลายปีที่ผ่านมา
ตอนนี้ชาห์ซาดมีห้องทั้งห้องในบ้านที่จัดไว้โดยเฉพาะสำหรับเก็บอุปกรณ์เอาตัวรอดในวันสิ้นโลก
ภายในห้องนั้นมีทุกอย่าง ตั้งแต่เต็นท์และผ้าห่มฉุกเฉิน อาหาร เตาไฟ ไฟฉาย ไปจนถึงอาวุธ
เขาเชื่อว่าของเหล่านี้สามารถช่วยให้เขาและครอบครัวอีก 4 คนมีชีวิตอยู่ได้อย่างน้อย 6 เดือน หากเกิดเหตุการณ์เลวร้ายระดับโลกขึ้นจริง
ชาห์ซาด ซึ่งเป็นผู้เขียนหนังสือเกี่ยวกับการเตรียมพร้อม ยังได้เปิดเผยรายการของจำเป็นที่ทุกคนควรมีติดบ้านไว้เสมอว่า “ทุกคนควรมี "กระเป๋าอพยพฉุกเฉิน" ที่ใส่ของจำเป็นพื้นฐานไว้”
“อย่างน้อยควรมีน้ำ 2 ลิตร ชุดปฐมพยาบาล เครื่องกรองน้ำ และอาหารเท่าที่สามารถใส่ได้ อย่างน้อยพอสำหรับ 3 วันในกระเป๋า แต่ถ้ามีมากกว่านั้นได้ก็ยิ่งดี
“ควรมีไฟฉาย ผ้าห่มฉุกเฉิน วิทยุสำหรับรับฟังข่าวหากไฟดับ อุปกรณ์จุดไฟ และมีดสำหรับเหลาฝืนหรือป้องกันตัว
“สุดท้ายคือ เอกสารสำคัญทั้งหมด ควรมีสำเนาเผื่อไว้ในกรณีที่กลับบ้านไม่ได้”
ชาห์ซาดยังกล่าวว่า เขาได้เตรียม “เป้ฉุกเฉิน” สำหรับสมาชิกในครอบครัวทุกคนไว้เรียบร้อย โดยจัดอาหาร น้ำ และของจำเป็นสำหรับ 3 วันลงในแต่ละใบ ซึ่งสามารถหยิบไปได้ทันทีหากต้องหนีออกจากบ้านอย่างเร่งด่วน
“ผมเตรียมไว้ให้ทุกคนในบ้านแล้ว เป้ละ 3 วันสำหรับอาหาร น้ำ และของจำเป็นพื้นฐาน” เขากล่าว พร้อมเสริมว่าบ้านของเขายังมีอุปกรณ์ฉุกเฉินอื่น ๆ อีกหลากหลายชนิดเก็บไว้พร้อมทุกสถานการณ์
ร่องรอยของการเตรียมพร้อมรับวันสิ้นโลกของชาห์ซาดมีให้เห็นทั่วทั้งบ้าน ไม่ว่าจะเป็นโรงรถหรือชั้นใต้ดินที่เต็มไปด้วยอาหารและน้ำดื่มจำนวนมาก ซึ่งเขาเชื่อว่าสามารถช่วยให้คนในครอบครัวอยู่รอดได้นานถึง 6 เดือน
เขายังเตรียมแหล่งพลังงานสำรอง เครื่องทำความร้อน ถุงนอน เต็นท์ รองเท้าสำรอง ถุงเท้า เตาแคมป์ปิ้ง และโคมไฟชาร์จไฟได้อีกด้วย
นอกจากนี้ ชาห์ซาดยังมีปืนที่ได้รับใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมายไว้ในครอบครอง เผื่อเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นต้องใช้ป้องกันตัว
โดยรวมแล้ว เขาประเมินว่าการเตรียมการทั้งหมดนี้ใช้เงินไปประมาณ 40,000 ดอลลาร์ แต่เขาเชื่อว่า ทุกบาทที่จ่ายไปนั้น “คุ้มค่า”
“คนส่วนใหญ่มักบ่นว่าไม่มีเงินเตรียมของพวกนี้ แต่ความจริงแค่ขวดน้ำกับอาหารกระป๋องก็ซื้อได้ไม่ถึง 5 ดอลลาร์” ชาห์ซาดกล่าว “ผมค่อย ๆ ซื้อทีละนิด สะสมไปเรื่อย ๆ”
“ผมคิดว่าทุกคนควรมีอาหารและน้ำดื่มติดบ้านไว้สำหรับอย่างน้อย 2 สัปดาห์ พร้อมชุดปฐมพยาบาลขั้นพื้นฐาน ไฟฉาย เครื่องทำความร้อนแบบใช้แก๊ส และเตาแบบพกพา รวมถึงพลังงานสำรอง เช่น แผงโซลาร์แบบพับได้ แบตเตอรี่สำรอง และถ่านไฟฉายด้วย”
แม้หลายคนอาจมองว่าการสะสมของของชาห์ซาดเป็นเรื่องเว่อร์เกินไป แต่เจ้าตัวบอกว่า เขา “มั่นใจ 70%” ว่าเขาจะต้องใช้ของเหล่านี้จริงก่อนถึงปี 2030
“จากสิ่งที่ผมอ่านมา มีความเป็นไปได้สูงว่าเราจะเจอเหตุการณ์ไฟฟ้าดับครั้งใหญ่ใน 5 ปีข้างหน้า” เขากล่าวเสริม “หรือไม่ก็การโจมตีทางไซเบอร์ที่รุนแรง โรคระบาดระลอกใหม่ หรือภัยธรรมชาติครั้งใหญ่”
ไม่ว่าจะเกิดอะไรก่อน ชาห์ซาดพร้อมรับมือทุกสถานการณ์แล้ว