
รู้แล้วบอกต่อ "ตัดเล็บบ่อยเกินไป" อาจเป็นการทำร้ายสุขภาพโดยไม่รู้ตัว
"การตัดเล็บ" เป็นกิจวัตรที่หลายคนทำเป็นประจำ เพื่อความสะอาดเรียบร้อย และเป็นการส่งเสริมบุคลิกภาพอย่างนึง
แต่รู้หรือไม่ว่า “การตัดเล็บบ่อยเกินไป” โดยเฉพาะหากตัดไม่ถูกวิธี อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพเล็บในระยะยาว
ทำไมตัดเล็บบ่อยเกินไปถึงไม่ดี?
งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยนอตติงแฮม ประเทศอังกฤษ เผยว่า การตัดเล็บมือและเล็บเท้าบ่อยเกินจำเป็น อาจทำให้เกิดการผิดรูป และเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคที่เกี่ยวข้องกับเล็บ
การตัดเล็บทุกวัน หรือบ่อยเกินไป อาจรบกวนกระบวนการเจริญเติบโตตามธรรมชาติของเล็บ และสร้างความเครียดทางกายภาพ (Physical Stress) ต่อเล็บ ทำให้เล็บเปราะ แตกง่าย หรือเกิดการเปลี่ยนแปลงของรูปทรง เช่น เล็บโค้งผิดปกติ หรือเล็บหนาขึ้น
การตัดเล็บผิดวิธีซ้ำๆ ก็อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพ เช่น เล็บขบ เชื้อราที่เล็บ หรือการติดเชื้อที่ซอกเล็บได้
"เล็บ" ตัวบ่งชี้สุขภาพ
เล็บสามารถบอกถึงภาวะสุขภาพภายในร่างกายได้ หากพบว่าเล็บมีการเปลี่ยนแปลง เช่น สีผิดปกติ ผิวเล็บขรุขระ หรือเล็บหนาขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ ควรรีบปรึกษาแพทย์ เพราะอาจเป็นสัญญาณของโรค เช่น เชื้อรา หรือโรคร้ายแรงอย่างมะเร็งผิวหนัง
วิธีตัดเล็บอย่างถูกต้อง
- ตัดหลังอาบน้ำ – เพราะเล็บจะนุ่ม ตัดง่าย ไม่แตกหัก
- ใช้อุปกรณ์ที่สะอาด – แยกอุปกรณ์ตัดเล็บมือ-เท้า และควรฆ่าเชื้อเป็นประจำ เช่น เช็ดด้วยแอลกอฮอล์ ล้างด้วยน้ำร้อน
- ตัดเล็บแนวตรง – โดยเฉพาะเล็บเท้า เพื่อลดโอกาสเกิดเล็บขบ
- ใช้ตะไบเล็บ – เพื่อให้เล็บเรียบ ลดการขูดขีดกับสิ่งของ
- หลีกเลี่ยงการตัดหนังกำพร้า – เพราะเป็นเกราะป้องกันตามธรรมชาติ หากตัดอาจเสี่ยงติดเชื้อ
- บำรุงด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ – เพื่อป้องกันเล็บแห้งและเปราะง่าย
วิธีป้องกันการติดเชื้อที่เล็บ
- ตัดเล็บเมื่อยาวพอดี ไม่ปล่อยให้ยาวจนสะสมเชื้อโรค
- ทำความสะอาดซอกเล็บทุกครั้งเมื่อล้างมือ
- หลีกเลี่ยงการกัดเล็บหรือลอกหนังข้างเล็บ
- ทำความสะอาดอุปกรณ์ตัดเล็บทุกครั้งก่อนใช้
บทสรุป
แม้การตัดเล็บจะดูเป็นเรื่องเล็กๆ แต่ถ้าทำบ่อยเกินไป หรือทำอย่างผิดวิธี อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพเล็บที่รบกวนชีวิตประจำวันได้
ทางที่ดีควรใส่ใจเรื่องความสะอาด อุปกรณ์ที่ใช้ และรู้จักสังเกตความผิดปกติของเล็บตัวเองเป็นประจำ เพื่อให้สุขภาพเล็บแข็งแรงและสะอาดอยู่เสมอ