เนื้อหาในหมวด ข่าว

งงทั้งโลก! ป้ายห้องน้ำไทย \

งงทั้งโลก! ป้ายห้องน้ำไทย "ชายหิ้วกระต่าย-หญิงชูดอกไม้" รู้ที่มากลายเป็นทึ่ง น่ารักเกินคาด

สับสนทั้งโซเชียล! เที่ยวเมืองไทยเจอป้ายห้องน้ำ เป็นสัญลักษณ์ "ผู้ชายหิ้วกระต่าย-ผู้หญิงชูดอกไม้" รู้ความหมายทั่วโลกทึ่ง เพราะมันน่ารักเกินคาด

สำหรับหลายคนที่ต้องการพักผ่อนหย่อนใจ หรือออกเดินทางสำรวจโลกกว้าง หนึ่งในจุดหมายยอดฮิตคงหนีไม่พ้น “ประเทศไทย” ที่มีทั้งวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ อาหารอร่อย ผู้คนเป็นมิตร และความน่ารักที่แฝงอยู่ในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ไม่เว้นแม้กระทั่ง “ป้ายห้องน้ำสาธารณะ”

ล่าสุด บนแพลตฟอร์มโซเชียล X (Twitter เดิม) มีผู้ใช้โพสต์ภาพห้องน้ำแห่งหนึ่งในไทย พร้อมแคปชั่นที่สร้างความงุนงงและขำขันให้กับชาวเน็ตทั่วเอเชีย เพราะสัญลักษณ์หน้าห้องน้ำดู “ไม่คุ้นตา” อย่างแรง! เผยให้เห็นประตูห้องน้ำสองฝั่ง ฝั่งหนึ่งเป็นเงาผู้หญิงถือดอกไม้ ส่วนอีกฝั่งเป็นผู้ชายที่หิ้วกระต่ายไว้ในมือ ทำเอาหลายคนทั้งงง ทั้งฮา พร้อมตั้งคำถามว่านี่คือสัญลักษณ์อะไรกันแน่? “ผู้หญิงเข้าใจได้ว่าเกี่ยวกับดอกไม้ แต่ผู้ชาย...นี่มันกระต่ายใช่ไหมเนี่ย!?”

ต่อมา มีชาวเน็ตหลายคนที่รู้จักวัฒนธรรมไทยเข้ามาเฉลยว่า สัญลักษณ์เหล่านี้มีที่มาจาก สำนวนเปรียบเปรยในภาษาไทยโบราณ ซึ่งใช้แทนการไปเข้าห้องน้ำ ผู้หญิงจะพูดว่า “จะไปเด็ดดอกไม้” ส่วนผู้ชายจะพูดว่า “จะไปยิงกระต่าย” ซึ่งถูกนำมาออกแบบเป็นภาพเพื่อสื่อถึงห้องน้ำแต่ละฝั่งอย่างสร้างสรรค์ ทำให้ชาวเน็ตต่างแสดงความทึ่งและชื่นชมว่าเป็นวิธีที่น่ารักและแฝงเสน่ห์ของวัฒนธรรมไทย 

“ไม่รู้มาก่อนเลยว่า ‘ยิงกระต่าย’ คือคำเรียกเข้าห้องน้ำตอนชาย!”

“ญี่ปุ่นมีล่าไก่ป่า ไทยมียิงกระต่าย น่ารักดี”

“เห็นแล้วนึกว่าถือเครื่องบดพริกไทย”

“ฉันนึกว่าเขาถือระเบิดอยู่”

“ขวาสุดนี่ดูเหมือนตัวละครในการ์ตูน ‘ชินจัง’ เลย”

ไม่ใช่แค่สถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม แต่อารมณ์ขันในแบบฉบับไทยๆ การใช้ภาษาถิ่น และการออกแบบที่มีที่มาที่ไปจากวัฒนธรรมท้องถิ่น กลายเป็นเอกลักษณ์ที่ยากจะเลียนแบบ และยังทำให้การเดินทางในประเทศไทยเต็มไปด้วยเรื่องราวเล็กๆ ที่น่าประทับใจ

แม้จะเป็นเพียงป้ายห้องน้ำเล็กๆ แต่สิ่งนี้สะท้อนถึงความใส่ใจและเสน่ห์ในวัฒนธรรมไทย ที่นำเสนออย่างสร้างสรรค์และน่ารักน่าชม จนกลายเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้ใครหลายคนรักการเที่ยวไทย สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ นี่คือประสบการณ์ที่ทั้งสนุกและเปิดโลก ขณะเดียวกัน สำหรับคนไทยเอง นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นให้กลับมามองเห็นคุณค่าและภูมิใจในวัฒนธรรมของตัวเองอีกครั้ง

แล้วทำไมถึงเรียกว่า "ยิงกระต่าย-เด็ดดอกไม้"? เผยที่มาคำพูดสุดน่ารักที่คนไทยใช้เมื่อจะเข้าห้องน้ำ

เวลาคนไทยพูดถึงการ “เข้าห้องน้ำ” โดยเฉพาะในหมู่เพื่อนหรือบทสนทนาลำลอง เรามักได้ยินคำพูดติดตลกอย่าง “ขอไปยิงกระต่ายแป๊บ” หรือ “ขอไปเด็ดดอกไม้ก่อน” ซึ่งฟังเผินๆ อาจดูเป็นคำพูดเล่นๆ ที่ฟังดูขำขัน ไม่มีที่มา หรือเพียงหลีกเลี่ยงคำพูดตรงๆ จึงใช้ภาษาอ้อมเพื่อรักษามารยาท แต่แท้จริงแล้วหลายคนอาจไม่เคยรู้ว่า ทั้งสองคำนี้มีรากเหง้าจากวัฒนธรรมการใช้ภาษาที่น่าสนใจไม่น้อย

ยิงกระต่าย คืออะไร? เป็นคำพูดที่ใช้ในหมู่ผู้ชาย หมายถึงการไปปัสสาวะ โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ต้องพูดแบบอ้อมๆ หรือลดความไม่สุภาพ เช่น กรณีไปเข้าห้องน้ำกลางแจ้ง หรือพูดกับผู้อื่นอย่างไม่เป็นทางการ คำนี้มีที่มาจากภาพเปรียบเทียบว่า เวลาผู้ชายยืนปัสสาวะเหมือนกำลัง "เล็งเป้า" หรือล่าสัตว์เล็กอย่างกระต่ายอยู่ในพุ่มไม้ ทำให้คำว่า “ยิงกระต่าย” กลายเป็นสำนวนที่ฟังแล้วเข้าใจทันที โดยไม่ต้องพูดคำว่า "ฉี่" หรือ "เข้าห้องน้ำ" ตรงๆ

เด็ดดอกไม้ หมายถึงอะไร? ในขณะที่ยิงกระต่ายใช้กับผู้ชาย ผู้หญิงก็มักใช้คำว่า “เด็ดดอกไม้” แทนการเข้าห้องน้ำเช่นกัน โดยเฉพาะในบริบทที่ต้องการความสุภาพหรือลดความกระอักกระอ่วน เปรียบเทียบกิริยาที่ต้องนั่งลงเมื่อปลดทุกข์เบา และอาจได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมจีน ที่ใช้คำว่า “เก็บดอกไม้” (采花) หมายถึงการเข้าห้องน้ำ ซึ่งถูกแปลความตามบริบทไทยให้มีความหวานน่ารักขึ้นตามบุคลิกของผู้หญิง

การใช้คำว่า "ยิงกระต่าย" และ "เด็ดดอกไม้" ถือเป็นตัวอย่างที่ดีของการใช้ภาษาพูดแบบเปรียบเปรย ซึ่งคนไทยนิยมใช้เพื่อหลีกเลี่ยงคำที่อาจไม่สุภาพ หรือไม่เหมาะสมในบางสถานการณ์ โดยยังสามารถสื่อสารได้ชัดเจน นอกจากนี้ ยังเป็นการสะท้อนวัฒนธรรมความละมุนในภาษาพูดของคนไทย ที่ชอบใช้คำสุภาพ น่ารัก และมีอารมณ์ขันในชีวิตประจำวัน

แม้จะไม่สามารถระบุจุดเริ่มต้นของคำเหล่านี้ได้แน่ชัด แต่มีการพูดถึงกันอย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์ว่า สำนวนดังกล่าวน่าจะมีใช้มานานตั้งแต่ยุคก่อนที่ยังไม่มีห้องน้ำในบ้าน ต้อง "เข้าทุ่ง" หรือไปปัสสาวะในที่โล่ง ซึ่งทำให้เกิดการเปรียบเปรยแบบสนุกสนานตามพฤติกรรมในธรรมชาติ และแม้ว่าในยุคปัจจุบัน คนไทยจะมีวิธีพูดมากมายในการสื่อสารเรื่องการเข้าห้องน้ำ แต่ “ยิงกระต่าย” และ “เด็ดดอกไม้” ก็ยังคงเป็นคำที่ถูกใช้บ่อยในวงเพื่อนสนิท วัยรุ่น รวมถึงในโลกออนไลน์ เพราะฟังดูขำขัน ไม่ตรงเกินไป และเข้าใจง่าย